สอน. เผยผลผลิตอ้อยเข้าหีบประจำฤดูการผลิตปี 65/66 เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านตัน กดอ่าน
11 เม.ย. 2566 – นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ผลผลิตอ้อยเข้าหีบประจำฤดูการผลิตปี 2565/66 ของโรงงานน้ำตาลทั้ง 57 โรง ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2565 จนถึงวันที่ 6 ดม.ย. 2566 รวมระยะเวลาหีบอ้อย 127 วัน มีปริมาณอ้อยเข้าหีบทั่วประเทศที่ 93.88 ล้านตัน แยกเป็นอ้อยสด จำนวน 63.10 ล้านตัน คิดเป็น 67.21% และอ้อยถูกลักลอบเผา จำนวน 30.78 ล้านตัน คิดเป็น 32.79% ยิลด์น้ำตาลต่อตันอ้อยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 117.46 กิโลกรัมต่อตันอ้อย และมีค่าความหวานอ้อยเฉลี่ยอยู่ที่ 13.32 ซี.ซี.
“ในปีที่ผ่านมาก่อนเริ่มเปิดหีบอ้อย สอน. ได้คาดการณ์แนวโน้มจะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบในฤดูการผลิตปี 2565/66 จะมีมากกว่า 100 ล้านตัน ปัจจัยที่ทำให้ผลผลิตตกต่ำมากกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง ราคาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น และเกษตรกรชาวไร่อ้อยหันไปปลูกมันสำปะหลังที่มีราคาดีแทน”นายภานุวัฒน์ กล่าว อย่างไรก็ตามตัวเลขอ้อยถูกลักลอบเผาในฤดูการผลิตปี 2565/66 ที่ยังคงอยู่ในปริมาณสูง สอน. จึงได้วางแนวทางบริหารจัดการการแก้ไขปัญหาอ้อยถูกลักลอบเผาให้เข้มข้นยิ่งขึ้น อาทิ 1.
2.การสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร 3.ส่งเสริมการรับซื้อใบอ้อยเพื่อเพิ่มรายได้ และลดการเผาใบอ้อย 4.บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลดการเผาอ้อยในพื้นที่ที่มีการเผาซ้ำซาก และ 5.จัดหาเครื่องสางใบอ้อยมาให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยยืมเพื่อสางใบอ้อย และโรงงานน้ำตาลได้เข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดมากขึ้น คาดว่าฤดูการผลิตปีหน้าปริมาณอ้อยสดจะมีทิศทางเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยสูงขึ้นด้วย ทั้งนี้ สอน.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
แล้ง-หันปลูกมัน กดผลผลิตอ้อยปิดหีบแค่ 93.88 ล้านตัน สอน.ชี้ลอบเผาพุ่ง 30.78 ล้านตันแล้ง-หันปลูกมัน กดผลผลิตอ้อยปิดหีบแค่ 93.88 ล้านตัน สอน.ชี้ลอบเผาพุ่ง 30.78 ล้านตัน via MatichonOnline หีบอ้อย ลักลอบเผาอ้อย ฝุ่นพิษ
อ่านเพิ่มเติม »
รั้งอันดับ 2 ของโลก! 2 เดือนแรก ไทยส่งออกข้าว 1.4 ล้านตัน-คาด มี.ค.ขายอีก 7.3 แสนตัน'สมาคมผู้ส่งออกข้าวฯ' เผย 2 เดือนแรกปีนี้ ไทยส่งออกข้าวได้ 1.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 28.2% รั้งอันดับ 2 ของโลก รองจาก ‘อินเดีย’ คาด มี.ค.66 ส่งออกข้าวอีก 7-7.3 แสนตัน หลังผู้ซื้อต้องนำเข้าข้าวชดเชยสต็อก-ราคาข้าวไทยยังแข่งขันได้
อ่านเพิ่มเติม »
ยอดขาย 'รถไฟฟ้า' ทั่วโลกปี 65 พุ่งแรง ร้อยละ 66สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จำนวนยอดขายรถไฟฟ้าทั่วโลกในปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วน 9.5% ของจำนวนยอดขายรถทั่งหมด 76.21 ล้านคัน ซึ่งขยายตัวขึ้นจากระดับ 5.5% ในปี 2564ค่ายรถยุโรปและจีนต่าง
อ่านเพิ่มเติม »
'ฝุ่นพิษ' ปี 66 หนักกว่าปี 65 สะท้อนความล้มเหลว รัฐบาลอาเซียนสถานการณ์ฝุ่นพิษ หรือ PM2.5 ที่เข้าขั้นรุนแรงในหลายพื้นที่ของอาเซียน โดยเฉพาะภาคเหนือของไทย ยังไม่มีแนวโน้มเบาบางลง มิหนำซ้ำยังหนักกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่นักเคลื่อนไหวและนักวิชาการชี้ เป็นความล้มเหลวของรัฐบาลทั้งอาเซียน อ่านต่อ:
อ่านเพิ่มเติม »
ยอดขายรถไฟฟ้าทั่วโลกปี 65 พุ่ง 66% จีนกวาดยอดขายสูงสุด : อินโฟเควสท์ข้อมูลจากบริษัทมาร์คไลน์ส ในญี่ปุ่นเผยยอดขายรถพลังงานไฟฟ้าทั่วโลกพุ่งถึง 66.6% ในปี 2565 จากระดับปี 2564 แตะ 7.26 ล้านคัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมที่ต้องการยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ เพื่อตอบสนองกฎเกณฑ์การควบคุมการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จำนวนยอดขายรถไฟฟ้าทั่วโลกในปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วน 9.5% ของจำนวนยอดขายรถทั่งหมด 76.21 ล้านคัน ซึ่งขยายตัวขึ้นจากระดับ 5.5% ในปี 2564 ค่ายรถยุโรปและจีนต่างเร่งยอดขายรถไฟฟ้า ขณะที่ค่ายรถญี่ปุ่นต้องใช้ความพยายามในการไล่ตามคู่แข่งทั่วโลก โดยฮอนด้ามอเตอร์ได้ร่วมมือกับโซนี่กรุ๊ปคอรฺป เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในสัดส่วน 50-50 เพื่อผลิตรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ โดยโตโยต้ามอเตอร์คอร์ปวางแผนที่จะขยายไลน์รถไฟฟ้าทั้งหมด และกระตุ้นยอดขายรถไฟฟ้าให้ได้ถึง 1.5 ล้านคันต่อปีภายในปี 2569 เมื่อเทียบเป็นรายตลาดแล้ว จีนมียอดขายรถไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้นประมาณ 80% แตะ 4.53 ล้านคัน ส่วนยุโรปตะวันตก ซึ่งรวมถึงเยอรมนีและอังกฤษ มียอดขายสูงขึ้นประมาณ 30% แตะ 1.53 ล้านคัน ส่วนยอดขายรถไฟฟ้าในสหรัฐอยู่ที่ 8 แสนคัน และญี่ปุ่นที่ 5 หมื่นคันในปีที่แล้ว ในบรรดาตลาดรถไฟฟ้านั้น เทสลากระตุ้นยอดขายได้ที่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ยอดขายรถไฟฟ้าทั่วโลกปี 65 พุ่ง 66% จีนกวาดยอดขายสูงสุดยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกในปี 65 พุ่ง 66% แตะกว่า 7 ล้านคัน “จีน” ผงาดตลาดที่กวาดยอดขายสูงสุดทะลุ 4.5 ล้านคัน อ่านต่อ: กรุงเทพธุรกิจ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
อ่านเพิ่มเติม »