สหรัฐเคืองถูกฟิทช์หั่นเครดิต ชี้นักลงทุนทั่วโลกยังเชื่อมั่นเศรษฐกิจมะกัน ฟิทช์เรทติ้งส์ รัฐบาลสหรัฐ สหรัฐ อันดับความน่าเชื่อถือ เศรษฐกิจสหรัฐ อินโฟเควสท์
รัฐบาลสหรัฐได้ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อกรณีที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ โดยฟิทช์ระบุว่า สหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณที่สูงมากและมีระบบธรรมาภิบาลที่อ่อนแอลง ซึ่งส่งผลให้เผชิญกับปัญหาหนี้พุ่งชนเพดานหลายครั้งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ว่า เธอไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ฟิทช์ทำเช่นนั้น โดยระบุว่าการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐเป็นการกระทำตามอำเภอใจ และอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ล้าหลัง “รูปแบบการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเชิงปริมาณ ของฟิทช์ได้เสื่อมถอยลงในช่วงปี 2561-2563 แต่ฟิทช์ก็ยังคงประกาศใช้รูปแบบการจัดอันดับเดิม ๆ แม้ว่าข้อมูลบ่งชี้ในด้านต่าง ๆ มีความคืบหน้าแล้วก็ตาม”ทั้งนี้ ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ ของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA ในวันอังคาร เนื่องจากสถานะการคลังของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะถดถอยลงในช่วง 3 ปีข้างหน้า ขณะที่ระบบธรรมาภิบาลอ่อนแอลง...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
PTTEP เผยผลงาน H1/66 โตตามแผน-ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 4.5 แสนบาร์เรล/วัน : อินโฟเควสท์นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยว่า ในรอบครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทมีความคืบหน้าการดำเนินงานทั้งธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจใหม่ โดยสามารถเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติในโครงการจี 1/61 (แหล่งเอราวัณ, ปลาทอง, สตูล, ฟูนาน) ขึ้นมาอยู่ที่ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในช่วงปลายไตรมาส 2 ตามแผนงาน เพื่อสนองตอบต่อแนวทางของภาครัฐในการลดผลกระทบด้านต้นทุนพลังงานให้กับประชาชน รวมทั้ง ยังเร่งการเจาะหลุมผลิต และติดตั้งแท่นหลุมผลิตเพิ่มเติมอีกจำนวน 4 แท่นภายในปีนี้ เพื่อเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซฯ ให้ได้ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในเดือนเม.ย.2567 ตามเงื่อนไขในสัญญาแบ่งปันผลผลิต นอกจากนี้ บริษัทได้ชนะประมูลแปลงสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย รอบที่ 24 อีก 2 แปลง ได้แก่ แปลงจี 1/65 และแปลงจี 3/65 ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการอยู่แล้ว หากค้นพบแหล่งปิโตรเลียม จะสามารถผลักดันการพัฒนาโครงการได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยได้ในอนาคต ด้านความคืบหน้าการลงทุนในธุรกิจใหม่ ปตท.สผ. และ 5 บริษัทพันธมิตรชั้นนำระดับโลกได้ชนะการประมูลสัมปทานการพัฒนาโครงการผลิตกรีนไฮโดรเจนขนาดใหญ่ ในแปลงสัมปทาน Z1-02 รัฐสุลต่านโอมาน โดยตั้งเป้าผลิตกรีนไฮโดรเจนในปี […]
อ่านเพิ่มเติม »
'วันนอร์' แย้มอาจงดประชุมวิป 3 ฝ่าย รอผลวินิจฉัยศาลรธน. : อินโฟเควสท์นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดการประชุมวิป 3 ฝ่าย เนื่องจากต้องรอฟังผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ แต่อาจจะไม่ต้องประชุมแล้ว เพราะเวลาค่อนข้างกระชั้นชิด เนื่องจากไม่สามารถทราบได้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะประกาศคำวินิจฉัยช่วงเวลากี่โมง แต่เบื้องต้นทราบว่า ศาลจะเริ่มประชุมเพื่อพิจารณาช่วงประมาณเวลา 09.30 น. ส่วนการประชุมรัฐสภาในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ยังเป็นไปตามปกติ คือ ยังมีวาระแรกเป็นการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และวาระที่สอง คือ การพิจารณาแก้ไขกฎหมาย มาตรา 272 หากไม่สามารถดำเนินการวาระที่ 1 ได้ ก็ยังเหลือวาระที่ 2 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
สทนช. ห่วงภัยแล้งภาคกลาง กำชับเร่งบริหารจัดการน้ำ รับมือเอลนีโญ : อินโฟเควสท์นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ จ.ลพบุรี โดยเปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ว่า จากการติดตามปริมาณฝนสะสมในภาพรวมของประเทศ ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบัน ยังคงต่ำกว่าค่าปกติ รวมถึงปริมาณฝนในช่วงฤดูฝนของปีนี้ก็ยังคงต่ำกว่าค่าปกติเช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ที่คาดว่าจะประสบปัญหาฝนตกน้อย โดยมีปริมาณฝนสะสมน้อยกว่าค่าปกติประมาณ 40% ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากสภาวะเอลนีโญที่ยังคงส่งผลกระทบอยู่ ปัจจุบัน มีปริมาณน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศรวมกันอยู่ที่ 36,330 ล้าน ลบ.ม. (51%) โดยในพื้นที่ภาคกลางมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 189 ล้าน ลบ.ม. (15%) นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) คาดการณ์ว่า ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ ยังมีโอกาสที่จะมีพายุเข้าสู่ประเทศไทยได้ 1-2 ลูก ซึ่งจะเป็นผลดีต่ออ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยที่จะเร่งกักเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้า นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้กำชับให้กรมชลประทาน และการประปาส่วนภูมิภาค เคร่งครัดการบริหารจัดการน้ำอย่างสมดุลในทุกภาคส่วน วิเคราะห์และวางแผนอย่างรัดกุมให้มีความสอดคล้องกับความผันแปรของสภาพภูมิอากาศ เพื่อรองรับผลกระทบของเอลนีโญที่คาดจะลากยาวไปถึงปี 67 อีกทั้งปริมาณน้ำในเขื่อนหลักมีไม่มากนัก ทั้งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
นักวิเคราะห์ชี้เงินบาทมีแววได้แรงหนุนจากการเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินของ ธปท. : อินโฟเควสท์สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เงินบาทมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวเพิ่มเติม เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังมีแนวโน้มที่จะยึดมั่นต่อนโยบายการเงินที่เข้มงวดในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะช่วยหนุนให้เงินบาทหลุดพ้นจากภาวะซบเซาอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง รายงานระบุว่า สกุลเงินบาทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบ 3% ในเดือนก.ค. หลังจากอ่อนค่า 3 เดือนติดต่อกัน โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้แรงหนุนจากการคาดเดาว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้วและการยึดมั่นต่อนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธปท.อาจทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเพิ่มเติม ธนาคารกลางส่วนใหญ่ในเอเชียระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ธปท. อาจเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์นี้ โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธปท. กล่าวว่า เขาไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องรีบปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงิน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นายเอ็ดเวิร์ด ลี หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชียใต้จากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดระบุว่า “สำหรับการประชุมที่กำลังจะมีขึ้นสัปดาห์นี้ เราคาดว่าธปท.จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เมื่อพิจารณาจากความเห็นเชิงรุก เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และความจำเป็นในการสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน” กรณีดังกล่าวจะเพิ่มแรงส่งให้กับการแข็งค่าของเงินบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธปท.ส่งสัญญาณเดินหน้านโยบายการเงินเชิงรุก โดยนักเศรษฐศาสตร์จากโนมูระ โฮลดิงส์ คาดการณ์ว่า ธปท.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์นี้ และอาจจะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนก.ย ขณะเดียวกันโนมูระ โฮลดิงส์คาดการณ์ว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นแตะ 32.9 ต่อดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ก.ล.ต.เปิดรับฟังความเห็นปรับเกณฑ์การออกตราสารหนี้ บจ.ใน LiVEx และระยะเวลาส่งงบการเงิน : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการออกตราสารหนี้ของบริษัทที่จดทะเบียนใน LiVEx และระยะเวลาในการนำส่งงบการเงินสำหรับบริษัทที่จดทะเบียนใน LiVEx เพื่อให้การกำกับดูแลผู้ออกตราสารหนี้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกและเสนอขายตราสารหนี้ ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) เช่น การกำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาตออกและเสนอขายตราสารหนี้เช่นเดียวกับผู้ออกที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน (non-listed company) เป็นต้น รวมถึงหน้าที่ในการจัดทำและส่งรายงานที่แสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายหลังการเสนอขาย เพื่อให้เหมาะสมกับการกำกับดูแลยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้เสนอปรับปรุงระยะเวลาในการนำส่งข้อมูลงบการเงินประจำงวด 6 เดือนแรกของปีบัญชีและงบการเงินประจำรอบปีบัญชีของบริษัทที่จดทะเบียนใน LiVEx โดยให้นำส่งภายใน 3 เดือนนับตั้งแต่วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี เพื่อให้สอดคล้องกับการกำหนดระยะเวลาในการนำส่งรายงานอื่น ๆ ตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวที่เว็บไซต์ ก.ล.ต https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=923 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: debtsec.or.th จนถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2566 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter […]
อ่านเพิ่มเติม »
ภาวะตลาดตราสารหนี้: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 101,270 ล้านบาท : อินโฟเควสท์สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 101,270 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 56,955 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 3,366 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 712 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.4% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน +0.01% ภาพรวมของตลาดในวันนี้ Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าประมาณ 2-8 bps. สำหรับกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET INFLOW 707 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET BUY 707 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) ด้านปัจจัยต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) […]
อ่านเพิ่มเติม »