สหรัฐสั่งแบนส่งออกสินค้าแก่บริษัทจีนเพิ่มเติม อ้างเป็นภัยต่อความมั่นคง จีน ภัยต่อความมั่นคง ส่งออก สหรัฐ สินค้าจีน อินโฟเควสท์
คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ประกาศข้อจำกัดการส่งออกสินค้าให้กับบริษัทจีนอีกหลายสิบแห่ง รวมถึงอินสเปอร์ กรุ๊ป ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ และหน่วยงานของบีจีไอ รีเสิร์ช บริษัทวิจัยพันธุกรรม โดยสหรัฐระบุว่าบริษัทเหล่านั้นดำเนินกิจกรรมที่ขัดต่อความมั่นคงของชาติและผลประโยชน์ด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทที่ถูกแบนนั้นรวมถึง อินสเปอร์ กรุ๊ป ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ในเครือของรัฐที่ได้รับประโยชน์จากการสร้างศูนย์ข้อมูลทั่วประเทศ และบริษัทหลงซัน ผู้ผลิตซีพียูของจีน นอกจากนี้ อีกบริษัทหนึ่งที่กระทรวงฯ ระบุถึงได้แก่ 4พาราไดม์ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นยูนิคอร์นด้าน AI ที่กำลังมาแรง และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของโลก เช่น ซีคัวญ่า แคปปิตอล และโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
'เจเนอรัล มอเตอร์ส' จ่อปลดพนักงานราว 500 ตำแหน่งหวังลดค่าใช้จ่าย : อินโฟเควสท์หนังสือพิมพ์เดอะดีทรอยต์ นิวส์รายงานว่า เจเนอรัล มอเตอร์ส (GM) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐประกาศปลดพนักงานประจำและฝ่ายบริหารราว 500 ตำแหน่งเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 เดือนหลังผู้บริหารของ GM ออกมาประกาศว่าบริษัทไม่มีแผนการที่จะปลดพนักงาน เดวิด บาร์นาส ตัวแทนจาก GM ไม่ได้ออกมายืนยันตัวเลขการปลดพนักงานที่แน่ชัด โดยระบุแต่เพียงว่าการปลดพนักงานดังกล่าวจะส่งผลกระทบเพียงไม่กี่ตำแหน่ง เว็บไซต์มาร์เก็ตวอตช์รายงานว่า ณ สิ้นปี 2565 GM มีพนักงานประจำประมาณ 81,000 คน และพนักงานรายชั่วโมง 86,000 คน GM ระบุว่า พนักงานในสหรัฐที่ถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินชดเชย แต่ระบุด้วยว่าการปลดพนักงานครั้งนี้มีเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยสะท้อนถึงการประเมินประสิทธิภาพพนักงาน และความพยายามที่จะจัดการกับการลาออกของพนักงาน ขณะที่คู่แข่งและผลกำไรของคู่แข่งเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ GM ยังพยายามที่จะลดค่าใช้จ่าย 2 พันล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปีข้างหน้า โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
CRC เด้ง 3.91% รับแรงส่งงบ Q4/65 พุ่งเหนือคาด โบรกฯเพิ่มเป้ารับแนวโน้มปี 66 ฟื้นต่อเนื่อง : อินโฟเควสท์CRC ดีดตัวขึ้น 3.91% หรือเพิ่มขึ้น 1.75 บาท มาที่ 46.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 185.54 ล้านบาทเมื่อเวลา 9.58 น. จากราคาเปิด 46.00 บาท ราคาสูงสุด 46.50 บาท ราคาต่ำสุด 45.75 บาท บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) รายงนผลประกอบการในไตรมาส 4/65 ออกมาสูงกว่าคาด โดยมีกำไรสุทธิ 3,311 ลบ. (+39.66%YoY, +182.16% QoQ ) โดยรายได้จากการขายและการบริการอยู่ที่ 60,085 ลบ. (+10.61% YoY, +10.88% QoQ ) แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 66 เบื้องต้นคาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง สืบเนื่องจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะมีการเดินทางเข้ามาในไทยเฉลี่ยเดือนละมากกว่า 2 ล้านราย (ระดับปกติ Precovid-19 […]
อ่านเพิ่มเติม »
SHR มั่นใจดันรายได้ปี 66 ทะลุ 1 หมื่นลบ.โต 20% ลุยลงทุนใหม่-ปั้นแบรนด์แกร่ง : อินโฟเควสท์นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท เผยว่า การขับเคลื่อนธุรกิจในปี 66 ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางของประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2562 โดยส่งผลกระทบในเชิงบวกที่จะมีต่อธุรกิจที่ SHR มีการบริหารงานอยู่อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนครองส่วนแบ่งตลาดในโรงแรมมัลดีฟส์และประเทศไทยประมาณ 20% และ 10% ตามลำดับ นอกจากนั้นแล้ว การเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ของเรา ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการผลักดัน ผลประกอบการของบริษัทในปีถัด ๆ ไป ให้เติบโตขึ้น โดยการพัฒนารีสอร์ทแห่งที่ 3 ของโครงการ CROSSROADS คืบหน้าไปตามแผนการ และพร้อมเปิดให้บริการในปี 2566 โดยโรงแรม SO/ Maldives ถือเป็นอัญมณีล่าสุดแห่งมงกุฎการท่องเที่ยวมัลดีฟส์ ที่จะยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวในหมู่เกาะ และเติมเต็มตลาดลักซ์ชัวรี่ให้กับโครงการ CROSSROADS บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี 66 เพื่อให้องค์กรบรรลุวิสัยทัศน์ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรให้กับสินทรัพย์อย่างสูงสุด โดยเราตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้ขึ้น […]
อ่านเพิ่มเติม »
ออสเตรเลียเผยยังไม่ได้รับคำแนะนำให้แบนติ๊กต๊อกในอุปกรณ์ของรัฐ : อินโฟเควสท์นายจิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลังออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ (1 มี.ค.) ว่า ออสเตรเลียยังไม่ได้รับคำแนะนำจากหน่วยงานความมั่นคงให้ดำเนินการตามสหรัฐ รัฐสภายุโรป และแคนาดา ที่สั่งแบนแอปพลิเคชันติ๊กต๊อก (TikTok) ของจีนจากอุปกรณ์ของรัฐบาล สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แคนาดาสั่งแบนติ๊กต๊อกในอุปกรณ์ของรัฐในวันจันทร์ (27 ก.พ.) หลังจากรัฐสภายุโรปสั่งแบนติ๊กต๊อกจากโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ โดยอ้างถึงความกังวลว่าอาจมีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานได้ ขณะที่ทำเนียบขาวออกคำสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐดำเนินการลบแอปพลิเคชันติ๊กต๊อกออกจากอุปกรณ์ทุกชนิดของรัฐบาลภายใน 30 วัน เมื่อถูกถามว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะพิจารณาแบนติ๊กต๊อกทั่วทั้งประเทศหรือไม่ นายชาลเมอร์สให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า “เราจะทำตามคำแนะนำของหน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งชาติของเรา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำแนะนำใด ๆ” รายงานระบุว่า มาตรการดังกล่าวเน้นย้ำถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่ารัฐบาลจีนอาจใช้ติ๊กต๊อกของบริษัทไบต์แดนซ์ของจีน เพื่อรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้งานเพื่อพัฒนาผลประโยชน์ทางการเมืองและแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ออกคำสั่งห้ามที่คล้ายกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่วุฒิสภาสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายที่ห้ามไม่ให้พนักงานของรัฐบาลกลางใช้บริการติ๊กต๊อกบนอุปกรณ์ของรัฐบาล ส่วนอินเดียสั่งแบนติ๊กต๊อกเมื่อปี 2563 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
โบรกฯ เล็งหั่นคาดการณ์กำไร BTG ปี 66-67 ราคาหมู-ไก่อ่อนตัวลงเร็ว แม้โชว์ผลงานทั้งปี 65 พุ่ง 786% : อินโฟเควสท์บล.ทรีนีตี้ ระบในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.เบทาโกร (BTG) รายงานกำไรสำหรับปี 65 ที่ 7,938 ล้านบาท ดีขึ้น 786% YoY ใกล้เคียงกับที่คาดไว้ก่อนหน้าที่ 8,081 ล้านบาท แต่กำไรไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 1,796 ล้านบาท อ่อนตัว 22% QoQ แต่ยังเติบโต 99% YoY โดยหลักเป็นผลมาจากราคาสัตว์บกทั้งหมูและไก่ในประเทศที่อ่อนตัวลงในช่วงปลายปี ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนตัวลงจาก 21.2% ในไตรมาส 3/65 มาอยู่ที่ 17.9% ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานยังค่อนข้างทรงตัว ส่วนดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 9% QoQ ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น อาจต้องมีการปรับประมาณการกำไรปี 66-67 ลง เนื่องด้วยในช่วงต้นปี 66 เริ่มเห็นแนวโน้มราคาสัตว์บกอ่อนตัวลงมาค่อนข้างเร็ว โดยเฉพาะราคาหมูที่ลดลงมาเกือบ 20% จากระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งในแง่ของการผลิตในประเทศ คาดว่ายังไม่ฟื้นกลับมาที่ระดับเดิมก่อนการระบาดของโรค ASF แต่เป็นผลจากหมูลักลอบนำเข้าที่ทางภาครัฐกำลังเร่งปราบปราม ในอีกด้านหนึ่งต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกดดันอัตรากำไร ด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงอาจปรับประมาณการกำไรปี 66-67 […]
อ่านเพิ่มเติม »
EGCO ฝ่าวิกฤติพลังงานโลกกดดันกำไรปี 65 ลั่นลุยต่อบิ๊กโปรเจ็คต์วินด์ฟาร์ม 'หยุนหลิน' หลังโควิดจาง : อินโฟเควสท์นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยว่า ในปี 65 อุตสาหกรรมไฟฟ้าและพลังงานต้องเผชิญกับความท้าทายจากราคาพลังงานโลกและภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ผลประกอบการในปี 2565 ของเอ็กโก กรุ๊ป สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านราคาเชื้อเพลิงในช่วงวิกฤตการณ์ราคาพลังงานปี 2565 ได้ดี ทำให้ผลประกอบการของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยราคาเชื้อเพลิงและภาวะเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ รายได้และกำไรจากการดำเนินงานยังคงขยายตัวได้ดี ในขณะเดียวกันยังสามารถขยายการลงทุนในพลังงานสะอาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ไฮไลท์ทางธุรกิจของเอ็กโก กรุ๊ป ในปี 65 ได้แก่ การเดินเครื่องเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้า “น้ำเทิน 1” สปป.ลาวกำลังผลิตรวม 650 เมกะวัตต์ การซื้อหุ้นเพิ่ม 10% เพื่อถือหุ้นทั้งหมดในโรงไฟฟ้า “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม” และ “เทพพนา วินด์ฟาร์ม” จ.ชัยภูมิ การซื้อหุ้น 49% ในโรงไฟฟ้า “ไรเซ็ก” สหรัฐอเมริกา กำลังผลิตรวม 609 เมกะวัตต์ และการขายหุ้นทั้งหมดในโรงไฟฟ้า “สตาร์ เอ็นเนอร์ยี่” อินโดนีเซีย นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป […]
อ่านเพิ่มเติม »