สหรัฐเผย ยูเครนใช้ 'คลัสเตอร์บอมบ์' ตีโต้รัสเซียอย่างมีประสิทธิภาพ clusterbomb คลัสเตอร์บอมบ์ ทำเนียบขาว ยูเครน ระเบิดลูกปราย รัสเซีย สหรัฐ อินโฟเควสท์
ทำเนียบขาวยืนยันว่า ยูเครนใช้คลัสเตอร์บอมบ์ หรือระเบิดลูกปราย ของสหรัฐ ในการต่อต้านกองกำลังรัสเซียในประเทศ
ทั้งนี้ คลัสเตอร์บอมบ์เป็นระเบิดที่กระจายลูกระเบิดขนาดเล็กออกมาเป็นจำนวน ซึ่งถูกห้ามใช้ในกว่า 100 ประเทศ เนื่องจากความเสี่ยงอันตรายต่อพลเรือน นายเคอร์บีกล่าวว่า “พวกเขาใช้มันอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และสร้างผลกระทบอย่างจริงจังต่อรูปแบบการป้องกันของรัสเซีย และตั้งรับของรัสเซียได้ ผมคิดว่าผมควรแสดงความคิดเห็นแต่เพียงเท่านี้”
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
สหรัฐฯ เผย ยูเครนเริ่มใช้งาน “คลัสเตอร์บอมบ์” แล้วทำเนียบขาวสหรัฐเผย ขณะนี้กองทัพยูเครนได้เริ่มใช้งานคลัสเตอร์บอมบ์ หรือระเบิดลูกปรายแล้ว ได้ผลในการทำลายแนวตั้งรับของรัสเซีย อ่านข่าว: PPTVHD36 PPTVNews ครบทุกข่าวเข้าใจคอกีฬา คลัสเตอร์บอมบ์ ระเบิดลูกปราย อาวุธต้องห้าม สหรัฐอเมริกา รัสเซีย ยูเครน
อ่านเพิ่มเติม »
ทำเนียบขาวน้อยใจ 'คิสซินเจอร์' เป็นดาวเด่นขณะเยือนจีน แต่รัฐมนตรีกลับถูกเมิน : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทำเนียบขาวแสดงความรู้สึกผิดหวังที่นายเฮนรี คิสซินเจอร์ อดีตนักการเมืองอาวุโสผู้ทรงอิทธิพลของสหรัฐ วัย 100 ปี สามารถดึงดูดความสนใจระหว่างเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งของจีน ได้มากกว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐหลายคนในรัฐบาลชุดปัจจุบัน รายงานระบุว่า นายคิสซินเจอร์เป็นผู้ปูทางความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนให้เป็นไปอย่างราบรื่นในช่วงทศวรรษที่ 1970 ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในคณะทำงานของอดีตผู้นำสหรัฐ 2 คน ได้แก่ อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน และอดีตประธานาธิบดีเจอรัลด์ ฟอร์ด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้ให้การต้อนรับนายคิสซินเจอร์อย่างอบอุ่นในฐานะ “มิตรสหายเก่า” เมื่อวันพฤหัสบดี (20 ก.ค.) ท่ามกลางความพยายามของจีนและสหรัฐในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ร้าวฉาน อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวตระหนักดีว่า การเดินทางเยือนจีนของนายคิสซินเจอร์ เป็นการเดินทางเป็นการส่วนตัวในฐานะพลเมือง สำหรับการเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ นายคิสซินเจอร์ได้พบปะกับ นายหวัง อี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการต่างประเทศส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และพลเอกหลี่ ซ่างฝู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจีน ซึ่งเคยปฏิเสธการเจรจาโดยตรงกับพลเอก ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ทั้งนี้ สหรัฐยังคงคว่ำบาตรพลเอกหลี่ เนื่องจากเขามีบทบาทสำคัญในการซื้ออาวุธจากโรโซโบนีเอ็กปอร์ต (Rosoboroneexport) ผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย เมื่อปี 2560 นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวระบุว่า […]
อ่านเพิ่มเติม »
จีนหนุนการพัฒนาสีเขียวระดับโลกด้วยนวัตกรรมคาร์บอนต่ำ : อินโฟเควสท์สำนักบริหารทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติจีน รายงานว่าจีนได้กลายเป็นผู้มีส่วนส่งเสริมรายสำคัญในการสร้างนวัตกรรมระดับโลกด้านเทคโนโลยีอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 ก.ค.) นายเก๋อซู่ เจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักงานกล่าวว่า กลุ่มผู้รับสิทธิบัตรของจีนได้รับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ด้านเทคโนโลยีอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำระหว่างปี 2559-2565 จำนวน 178,000 ฉบับ คิดเป็น 31.9% ของทั้งหมดทั่วโลก รายงานระบุว่า กลุ่มบริษัทผู้ประกอบการและสถาบันวิจัยของจีน จำนวน 13 แห่ง ได้ติดการจัดลำดับผู้ถือครองสิทธิบัตรการประดิษฐ์เทคโนโลยีอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ 50 อันดับแรกของโลกด้วย ส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทผู้ประกอบการและสถาบันวิจัยของจีนข้างต้นเป็นรัฐวิสาหกิจรายใหญ่อย่างบริษัท การไฟฟ้าแห่งประเทศจีน จำกัด และบริษัท ไชน่า เซาท์เทิร์น พาวเวอร์ กริด จำกัด รวมถึงบริษัทเอกชน อาทิ บริษัท คอนเทมโพรารี แอมเพอเร็กซ์ เทคโนโลยี จำกัด (CATL) และบีวายดี (BYD) อนึ่ง เทคโนโลยีกักเก็บพลังงานที่สร้างสรรค์ใหม่ของจีนเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยจำนวนการรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ด้านระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเคมีในจีนเพิ่มขึ้นจาก 4,300 ฉบับในปี 2016 เป็น 13,000 ฉบับในปี 2565 และปัจจุบันคิดเป็น 44.9% […]
อ่านเพิ่มเติม »
'เยลเลน' ย้ำเวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญ ขณะสหรัฐมุ่งลดพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจีน : อินโฟเควสท์นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐที่กำลังอยู่ในระหว่างภารกิจเดินทางเยือนเอเชียได้กล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงฮานอยของเวียดนามในวันนี้ (21 ก.ค.) ว่า สหรัฐมองว่าเวียดนามคือพันธมิตรที่สำคัญในการขยายแหล่งพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น นางเยลเลนกล่าวกับสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียนว่า การค้าระหว่างสหรัฐและเวียดนามได้เติบโตขึ้นเกือบ 25% ต่อปีในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่แล้ว ในคำปราศรัยของนางเยลเลนที่เผยแพร่ที่กรุงวอชิงตันเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (20 ก.ค.) ระบุว่า ไม่มีสัญญาณว่าการค้าระหว่างสหรัฐและเวียดนามกำลังชะลอตัวลง พร้อมทั้งยังบ่งชี้ด้วยว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนามก็กำลังเร่งตัวขึ้นด้วย การเยือนเวียดนามของนางเยลเลน เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันของสหรัฐ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับเวียดนาม ในขณะที่สหรัฐกำลังหาทางลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานของจีนด้วยการขยายการผลิตในสหรัฐ และส่งเสริมการค้ากับพันธมิตรที่ไว้วางใจได้ แต่ก็มีการต่อต้านความพยามดังกล่าวอยู่บ้างในเวียดนาม โดยผู้เชี่ยวชาญบางส่วนแสดงความกังวลว่าจีนอาจมองว่าความร่วมมือนี้เป็นการต่อต้านจีน นางเยลเลนยังได้ชี้ให้เห็นว่าเวียดนามกลายเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก โดยกล่าวถึงการลงทุนครั้งใหญ่ของบริษัทสหรัฐในเวียดนาม เช่น แอมคอร์ (Amkor) และอินเทล (Intel) โดยโรงงานประกอบและทดสอบของอินเทลที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้นตั้งอยู่ที่เวียดนาม โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยจีนเอี่ยวแฮกอีเมลทูตมะกัน แม้ชวดข้อมูลลับ : อินโฟเควสท์เจ้าหน้าที่สหรัฐ 2 รายยืนยันว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับจีนได้ทำการเจาะบัญชีอีเมลของนายนิโคลาส เบิร์นส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีน ภายใต้ปฏิบัติการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองแบบกำหนดเป้าหมายเมื่อเร็ว ๆ นี้ ขณะเดียวกัน แฮกเกอร์กลุ่มดังกล่าวยังได้ล้วงข้อมูลบัญชีอีเมลของนายแดเนียล คริเทนบริงค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ โดยนายคริเทนบริงค์เพิ่งเดินทางเยือนจีนพร้อมกับนายแอนโทนี บลิงเกิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐไปเมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตาม สำนักข่าววอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐทั้ง 2 รายว่า การล้วงข้อมูลครั้งนี้จำกัดอยู่เพียงแค่บัญชีอีเมลที่ไม่เป็นความลับของนายเบิร์นส์และนายคริเทนบริงค์ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุด้วยว่า บัญชีอีเมลของนางจีนา เรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐก็ถูกล้วงเช่นเดียวกัน ด้านสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว รายงานระบุว่า นายบลิงเกนเพิ่งเดินทางเยือนจีนเป็นเวลา 2 วันในเดือนมิ.ย. เพื่อลดทอนความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ และในเดือนนี้ นายบลิงเกนได้พบปะกับนายหวัง อี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการต่างประเทศส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่การประชุมรัฐมนตรีต่างกลุ่มประเทศอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตาเมืองหลวงของอินโดนีเซีย โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »