นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว […]
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 2.7 – 3.7% โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจาก การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การขยายตัวของการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ การขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และ การขยายตัวในเกณฑ์ดีของภาคเกษตร ทั้งนี้ คาดว่าการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัว 3.2% ส่วนการลงทุนภาคเอกชนและการลงทุนภาครัฐขยายตัว 2.1% และ% 2.
2.การลงทุนรวม คาดว่าจะขยายตัว 2.2% ต่อเนื่องจาก 2.3% ในปี 2565 โดย การลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะขยายตัว2.1% ปรับลดลงจาก 2.6% ในการประมาณการครั้งก่อน และเทียบกับ5.1% ในปี 2565 สอดคล้องกับแนวโน้มการลดลงของการส่งออกสินค้า และ การลงทุนภาครัฐ คาดว่าจะขยายตัว 2.7% ปรับตัวดีขึ้นจากการลดลง 4.9% ในปี 2565 และเป็นการปรับเพิ่มจาก 2.4% ในการประมาณการครั้งก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของกรอบงบประมาณรายจ่ายงบลงทุนในปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 664,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.
ทั้งนี้ ในกรณีฐานคาดว่ารายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 จะอยู่ที่ 1.31 ล้านล้านบาท เทียบกับ 0.58 ล้านล้านบาท ในปี 2565 ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการในปี 2566 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 7.4% เทียบกับ 8.5% ในการประมาณการครั้งก่อน และ 6.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เศรษฐกิจไทยโตเปราะบาง สศช. หั่นเป้า GDP ปี 66 เหลือ 3.2% หลังปี 65 โต 2.6%สศช. ประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี (GDP) ไทย ทั้งปี 2565 โตแค่ 2.6% ต่ำกว่าเป้าหมาย ส่วนปี 2566 คาดขยายตัว 2.7-3.7% หรือค่ากลาง 3.2% หลังส่งออกทรุด ฐานเศรษฐกิจ
อ่านเพิ่มเติม »
KBANK คาดศก.ไทยปี 66 โต 3.2% ท่ามกลางสารพัดปัจจัยท้าทายจากศก.โลก : อินโฟเควสท์นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดเงินยังคงมีความผันผวนค่อนข้างมาก หลังจากเมื่อคืนนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนม.ค. ออกมาที่ 6.4% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 6.2% ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น จากการที่เงินไหลกลับเข้าไปในดอลลาร์สหรัฐฯ และตราสารหนี้สหรัฐฯ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี (Bond Yield) ปรับตัวขึ้น 0.60% จึงทำให้ค่าเงินสกุลอื่นๆ ในช่วงเช้านี้อ่อนค่าลง สะท้อนภาพของตลาดที่มองว่าสหรัฐฯ ยังคงดำเนินนโยบายการเงินอย่างเข้มงวด และยังเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่ค่าเงินบาทในช่วงนี้ได้ที่อ่อนค่าลงมา หลังแข็งค่าขึ้นไปมากที่ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ตอบรับปัจจัยบวกต่อการท่องเที่ยว และดุลบัญชีเดินสะพัดที่เป็นบวกไปก่อนหน้านี้ ทำให้มีเงินไหลเข้ามาในตลาดตราสารหนี้และหุ้น แต่ปัจจุบันเริ่มเห็นการขายทำกำไรออกมาจากต่างชาติบ้างแล้ว ทั้งตราสารหนี้และหุ้น และได้ผ่านช่วงของเทศกาลตรุษจีน และหน้าท่องเที่ยวไปแล้ว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่เริ่มมีแนวโน้มเดินทางมาท่องเที่ยวไนไทยลดลง หลังอุณหภูมิในยุโรปไม่ได้หนาวกว่าที่คิดและเริ่มอุ่นขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินที่ได้จากการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 2/66 และไตรมาส 3/66 อาจจะลดลงไปบ้าง นอกจากนี้ ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ของทุกปี บริษัทญี่ปุ่นจะปิดงบฯ ประจำปี ทำให้มีการส่งเงินกลับประเทศ ซึ่งต้องมีการแปลงเงินจากบาทเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ และแปลงจากดออลาร์สหรัฐฯเป็นเยน […]
อ่านเพิ่มเติม »
‘สภาพัฒน์’คาดจีดีพีไทยปี 66 ขยายตัว 3.2%‘สภาพัฒน์’ เผยจีดีพีไทยปี 4/65 ขยายตัว 1.4% ขณะที่จีดีพีปี 65 ขยายตัวแค่ 2.6% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ 3.2% ปรับจีดีพีปี 66 เหลือ3.2% สั่งจับตาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว พร้อมเสนอแนะ 8เรื่องให้ความสำคัญในปี66
อ่านเพิ่มเติม »
“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” ตั้งเป้ารายได้ 2.2 หมื่นล้าน ลุยบ้านระดับกลาง-ลักซ์ซัวรี่“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” ตั้งเป้ารายได้ 2.2 หมื่นล้าน ลุยบ้านระดับกลาง-ลักซ์ซัวรี่ PPTVHD36 ช่อง36 พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค PF บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ สร้างบ้าน หุ้น ลงทุน
อ่านเพิ่มเติม »
NCH ปี 66 ปั้นยอดขาย 5.5 พันลบ.รายได้ 3.2 พันลบ.เปิด 6 โครงการ 4.9 พันลบ. : อินโฟเควสท์นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง (NCH) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 66 ที่ 5.5 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 4.44 พันล้านบาท และตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ไว้ที่ 3.2 พันล้านบาท พร้อมวางแผนเปิดโครงการแนวราบใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 4.9 พันล้านบาท โดยบริษัทยังมองภาพรวมเศรษฐกิจไทย ยังมีทิศทางของการฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น ถึงแม้จะมีปัญหาด้านเงินเฟ้อ แต่ก็มีปัจจัยช่วยหนุนให้ขับเคลื่อนไปได้ และมีการขยายตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งเป็นตัวชี้วัดของผู้บริโภค เป็นเทรนด์ดัชนี กลับมาฟื้นตัวได้ดี ผู้ประกอบการยังคงมั่นใจในแผนการลงทุนเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีทิศทางที่เติบโตได้ โดยเฉพาะตลาดบ้านแนวราบ ระดับราคาไม่เกิน 3-5 ล้านบาท มีดีมานด์ของผู้ต้องการซื้อบ้านระดับราคาดังกล่าว และภาครัฐมีมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนอง พร้อมมาตรการผ่อนคลายช่วยผู้ซื้อบ้าน ก็เป็นอีกปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 66 ซึ่งมีความพร้อม และมีความแข็งแกร่งมากขึ้น สามารถฝ่าฟันวิกฤตมาได้ ด้วยสมรรถนะของทีมงานที่ให้ความสำคัญ ด้านการพัฒนาสินค้า มีการบริหารจัดการด้านการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ มีการพัฒนา เพื่อการต่อยอดธุรกิจใหม่ๆเข้ามาเสริมจุดแข็งด้านการบริการอย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังได้ผนวกด้านนวัตกรรมบ้าน เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีความสะดวกในการใช้ชีวิต หรือทำงานอยู่ที่บ้าน และผนวกด้านการมีสุขภาพที่ดีทุกช่วงวัย […]
อ่านเพิ่มเติม »