สวพส. จับมือเอกชน เตรียมแผนบูรณาการแก้ปัญหาการเผา-ฝุ่น PM2.5 บนพื้นที่สูง

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

สวพส. จับมือเอกชน เตรียมแผนบูรณาการแก้ปัญหาการเผา-ฝุ่น PM2.5 บนพื้นที่สูง
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 siamrath_online
  • ⏱ Reading Time:
  • 41 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 20%
  • Publisher: 63%

สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) (สวพส.) จัดประชุมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นบูรณาการและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมกันดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการเผาและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 บนพื้นที่สูง ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ยังเกิดจุดความร้อนหรือฮอตสปอตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่า PM 2.5 ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่หลายจุดเกินค่ามาตรฐาน อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยไฟป่าและการเผายังคงเกิดขึ้นติดต่อกันนานนับสัปดาห์ ทำให้เกิดการสะสมฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ในอากาศ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) นำโดย นายวิชัย ทองแตง นั

สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง จัดประชุมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นบูรณาการและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมกันดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการเผาและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 บนพื้นที่สูง ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ยังเกิดจุดความร้อนหรือฮอตสปอตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่า PM 2.5 ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่หลายจุดเกินค่ามาตรฐาน อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยไฟป่าและการเผายังคงเกิดขึ้นติดต่อกันนานนับสัปดาห์ ทำให้เกิดการสะสมฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.

นายชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง กล่าวว่า การลดปัญหาการเผาในภาคเกษตร สวพส. ได้นำองค์ความรู้จากโครงการหลวงมาปรับใช้ในชุมชนบนพื้นที่สูง ส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรแบบดั้งเดิมสู่เกษตรมูลค่าสูง ปรับระบบการปลูกพืชอย่างประณีตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่ 50 ไร่ สร้างรายได้ประมาณ 200,000 บาท ในขณะที่ปลูกพืชผักในโรงเรือนตามองค์ความรู้จากโครงการหลวงบนพื้นที่ 0.

เมื่อมีการปรับเปลี่ยนระบบเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมประกอบกับมีช่องทางการตลาดเพื่อรองรับผลผลิต ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพียงพอในการดำรงชีวิตทั้งครอบครัว เกษตรกรกลับมาดูแล บำรุงรักษาและพัฒนาป่า ขับเคลื่อนการพัฒนาด้วยการใช้แผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดินรายแปลงเป็นเครื่องมือในการกำหนดขอบเขตที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน และพื้นที่ป่า ซึ่งจะช่วยลดปัญหาหมอกควันในระยะยาว

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

siamrath_online /  🏆 15. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

“เศรษฐา” ลั่น แก้ภัยแล้ง- ฝุ่น PM2.5 เชียงใหม่“เศรษฐา” ลั่น แก้ภัยแล้ง- ฝุ่น PM2.5 เชียงใหม่นายกฯ “เศรษฐา” ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รับฟังปัญหาจากคนในพื้นที่ ลั่น พร้อมแก้ปัญหาภัยแล้ง-ฝุ่นพิษ PM2.5
อ่านเพิ่มเติม »

'พัชรวาท' สั่งยกระดับแก้ PM2.5 หาทางออกปัญหา คนกับป่า ในพื้นที่เชียงราย'พัชรวาท' สั่งยกระดับแก้ PM2.5 หาทางออกปัญหา คนกับป่า ในพื้นที่เชียงราย'พัชรวาท” สั่งยกระดับ 'คณะกรรมการแห่งชาติ' แก้ ”PM 2.5-ไฟป่า” วางแผน 2 ระยะ บูรณาการหน่วยงานลาดตระเวน เฝ้าระวังลักลอบเผา สั่งแก้ปัญหา คนกับป่า ในพื้นที่สงวน ใน2ลุ่มน้ำ เล็ง ส่งเข้าโครงการ คทช. ยัน เข้าใจหัวอกคนเดือดร้อน
อ่านเพิ่มเติม »

ต่างชาติโอนคอนโดพุ่ง24.5% จีนครองแชมป์โอนกว่า 1.69หมื่นล้านต่างชาติโอนคอนโดพุ่ง24.5% จีนครองแชมป์โอนกว่า 1.69หมื่นล้านศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของคนต่างชาติ 6 เดือนแรกปี66 มูลค่าโอนเพิ่มขึ้น 24.5 % จีนครองแชมป์โอนกว่า 1.69 หมื่นล้าน
อ่านเพิ่มเติม »

กยท.เดินหน้าส่งเสริมนวัตกรรมยางเพื่อประโยชน์สังคม มอบกรวยยางจราจร แก่ตำรวจภูธรภาค 5กยท.เดินหน้าส่งเสริมนวัตกรรมยางเพื่อประโยชน์สังคม มอบกรวยยางจราจร แก่ตำรวจภูธรภาค 5การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จัดกิจกรรมมอบกรวยจราจรจากยางพาราภายใต้แนวคิด 'ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมยางพาราไทย ช่วยเติมน้ำใจ ลดภัยบนท้องถนน' ให้แก่ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 โดยมี พล.ต.ท. เฉลิมพล จินตรัตน์ ผทค.พิเศษ ตร.รรท.รอง ผบช.ภ.5 เป็นผู้รับมอบกรวยจราจรที่ผลิตจากน้ำยางข้น จาก นายไสว นารีพล ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย เขตภาคเหนือ จำนวน 2,000 ชิ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1.2 ล้านบาท ภายใต้โครงการส่งเสริมการใช้ยางภายในประเทศและส่งเสริมการใช้งานวิจัยนวัตกรรมเทคโนโลยียางพาราไปใช้ประโยชน์ ของ กยท. ร่วมกับเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง กยท.
อ่านเพิ่มเติม »

กรมชลฯ ยันเพิ่มระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ไม่กระทบท้ายน้ำกรมชลฯ ยันเพิ่มระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ไม่กระทบท้ายน้ำจากกรณีแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 657 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงได้มีปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 300 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ไปจนถึงบริเวณ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้น 1-1.5 เมตรนั้น ล่าสุด วันที่ 17 ก.ย.66 ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่าแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 657 ลูกบาศก์เมตรต
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-18 05:53:14