สมเด็จฮุนเซน ส่งทหาร-ระบบต้านอากาศยานยิงสกัดโดรนจาก เวียดนาม กัมพูชา อินโฟเควสท์
สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชามีคำสั่งให้ส่งทหาร 500 นาย พร้อมด้วยระบบอาวุธต่อต้านอากาศยาน 200 เครื่องไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หลังจากมีรายงานว่าพบเห็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบส่งโดรนจำนวนมากบินเข้ามาจากเวียดนามอย่างผิดกฎหมาย
สมเด็จฮุนเซนกล่าวในวันนี้ ว่า กลุ่มโดรนที่บินเข้ามานั้นน่าจะเป็นฝีมือของ “กลุ่มชาติพันธุ์ที่หวังก่อความไม่สงบ” ในเวียดนาม หลังจากเกิดเหตุกราดยิงเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ทางการเวียดนามยืนกรานว่า ไม่ได้เป็นผู้ส่งโดรนดังกล่าว “หน่วยทหารภายใต้การบังคับบัญชาของพลเอกฮิง บุน เฮียง จะต้องดำเนินการในทันที ผมยังได้มีคำสั่งให้ส่งทหารเพิ่มอีก 500 นาย และระบบอาวุธต่อต้านอากาศยาน 200 เครื่อง เราจะไม่ยอมทนให้ใครก็ตามเข้ามาละเมิดดินแดนของกัมพูชาได้”ทั้งนี้มีรายงานว่า เกิดเหตุกราดยิง 2 ครั้งในอำเภอกู่กวิญ จังหวัดดั๊กลักของเวียดนามเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
DOD เฮ! บ.ในเครือส่งสารสกัดกัญชง-กัญชาขายญี่ปุ่นใช้การแพทย์ ต่างชาติต่อคิวเข้าชมโรงงาน : อินโฟเควสท์นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยว่า บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด (SHT) ซึ่งบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจโรงสกัดสารสกัดจากกัญชง-กัญชาและพืชสมุนไพรไทย ได้ผลิตสารสกัดกัญชง-กัญชา ให้กับกลุ่มพันธมิตรเครือข่าย อย่าง บริษัท แปซิฟิค แคนโนเวชั่น จำกัด (PACCAN) เพื่อส่งออกสารสกัดให้กลุ่มผู้ประกอบการทางการแพทย์ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำไปใช้กับกลุ่มลูกค้าเชิงการแพทย์เท่านั้น การส่งออกในครั้งนี้ถือว่า PACCAN ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรเครือข่าย DOD เป็นรายแรกของประเทศไทยที่มีการส่งออกสารสกัดไปประเทศญี่ปุ่น โดยกลุ่มสารสกัดที่ส่งออก ประกอบด้วย 1.กลุ่มสารสกัดทั้งหมดของกัญชง-กัญชา (น้ำมัน CBD (Cannabidiol) และ THC ( Tetrahydrocannabinol) และ 2. ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มน้ำมันกัญชาชนิดหยด หรือทิงเจอร์สำหรับหยดใต้ลิ้น ใช้สำหรับผู้ป่วยพาร์กินสัน ผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับ และผู้ป่วยโรคมะเร็งที่กินอาหารไม่ได้ เป็นต้น พร้อมกันนี้ ในช่วงที่ผ่านมามีกลุ่มบริษัทผู้ประกอบยาเพื่อการแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย เข้ามาเยี่ยมชมโรงสกัดสารสกัดจากกัญชง-กัญชาของ SHT อย่างต่อเนื่อง […]
อ่านเพิ่มเติม »
ไถ่หลิง บริษัท EV จากจีนหนุนไทยส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า : อินโฟเควสท์พิธีเปิดโครงการส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าบริการสาธารณะได้เปิดฉากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 มิถุนายน โดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ได้จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และในโอกาสนี้ บริษัทไถ่หลิง (TAILG) จากประเทศจีน ได้มอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปมอบให้กับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับให้บริการสาธารณะในประเทศไทย ดร.มุชตัก เมมอน ผู้ประสานงานฝ่ายประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร สำนักงานเอเชีย แปซิฟิก โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า ไถ่หลิงได้กลายมาเป็นพันธมิตรด้านการเดินทางด้วยยานพาหนะไฟฟ้าของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติในปี 2561 และไถ่หลิงได้เปิดตัวโครงการนำร่องการเดินทางด้วยยานพาหนะไฟฟ้าในกว่า 100 ประเทศ รวมถึงเคนยาและฟิลิปปินส์ ซึ่งช่วยสนับสนุนความพยายามของสหประชาชาติในการปรับปรุงคุณภาพอากาศและบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ และเราเล็งเห็นว่ามีศักยภาพมากมายในการส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าบริการสาธารณะในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ผู้แทนของกรุงเทพมหานครระบุว่า ประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์จำนวนมหาศาล และด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลและบริษัทต่าง ๆ เช่น ไถ่หลิง คาดว่าประเทศไทยจะประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนจากยานพาหนะที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงไปสู่ยานพาหนะไฟฟ้าในอีกไม่นานนี้ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการใช้พลังงานสำหรับการเดินทางในเมืองและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน หวัง ซูถัง รองผู้อำนวยการศูนย์แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน (เซินเจิ้น) กล่าวว่า เซินเจิ้นและกรุงเทพฯ เป็นเมืองพี่เมืองน้องกัน ดังนั้นจึงควรเรียนรู้ซึ่งกันและกันและได้รับประโยชน์ร่วมกัน พร้อมกับเสริมว่าจะพยายามยกระดับความร่วมมือและการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศต่าง ๆ ภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ตลอดจนสนับสนุนการแลกเปลี่ยนด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมระหว่างรัฐบาลไทย องค์กรระหว่างประเทศ และภาคธุรกิจ เกออร์ก ชมิดท์ เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย, กีต้า […]
อ่านเพิ่มเติม »
เมียนมาวอนทางการไทยจับกุมผู้ลี้ภัย เหตุพัวพันค้าอาวุธผิดกฎหมาย : อินโฟเควสท์สำนักข่าวอีเลฟเว่นของเมียนมารายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักข่าวแม่สาย (Maessai News Agency) ในไทยว่า เมียนมาได้ขอให้ทางการไทยจับกุมตัวกลุ่มชาวเมียนมาที่ทำการค้าอาวุธและกระสุนปืนแบบผิดกฎหมาย และผู้ที่หลบหนีคดีเข้าสู่พรมแดนไทย ทั้งนี้ เมียนมาได้ขอให้ทางการไทยจับกุมผู้ที่หลบหนีและผู้ลี้ภัยเมียนมาในระหว่างการประชุมครั้งที่ 97 ของคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมาที่โรงแรม 1G1 ณ จังหวัดท่าขี้เหล็กของรัฐฉาน ทางภาคตะวันออกของเมียนมาเมื่อวันจันทร์ที่ 19 มิ.ย. ขณะเดียวกัน สำนักข่าวแม่สายนิวส์รายงานด้วยว่า ทางการไทยได้ขอให้เมียนมาถอนค่ายทหาร 5 แห่งของกองทัพรวมแห่งรัฐว้า (UWSA) ที่ประจำอยู่บริเวณพรมแดนไทย – เมียนมา ยิ่งไปกว่านั้น ไทยและเมียนมาได้หารือเกี่ยวกับความมั่นคงภูมิภาคระดับทวิภาคีและกิจการทางกฎหมาย เพื่อป้องกันเหตุน้ำท่วมบริเวณแม่น้ำแม่สายและติดตั้งเครื่องเตือนภัยน้ำท่วม นอกจากนี้ ทางการเมียนมาและไทยได้หารือกันในอีกหลายประเด็น เช่น ความร่วมมือด้านการศึกษา สุขภาพ และกีฬาสำหรับหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนเมียนมา-ไทย รวมถึง การลักลอบขนส่งยานพาหนะด้วยการข้ามแม่น้ำแม่สายและปัญหาเรื่องการค้ายาเสพติดบริเวณอำเภอท่าขี้เหล็กและจังหวัดเชียงราย โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
สื่อ UK เผย หน่วยข่าวกรองรัสเซียขู่ทำร้ายครอบครัว 'ปริโกซิน' ก่อนตัดสินใจเลิกก่อกบฏ : อินโฟเควสท์สำนักข่าวเดอะเทเลกราฟรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอังกฤษว่า หน่วยข่าวกรองของรัสเซียขู่ว่าจะทำร้ายครอบครัวของนายเยฟเกนี ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ก่อนที่นายปริโกซินจะยกเลิกการก่อกบฏบุกกรุงมอสโก นอกจากนี้ยังมีการประเมินว่า กลุ่มวากเนอร์มีจำนวนนักสู้เพียง 8,000 รายเท่านั้น ไม่ใช่ 25,000 รายตามที่กล่าวอ้าง และมีแนวโน้มจะพ่ายแพ้หากพยายามเข้ายึดเมืองหลวงของรัสเซีย แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย วางแผนที่จะรวมทหารของวากเนอร์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพรัสเซีย แล้วขจัดกลุ่มอดีตผู้นำวากเนอร์ออก ทั้งนี้ เหตุผลที่นายปริโกซินตัดสินใจยกเลิกการบุกกรุงมอสโกเมื่อวันเสาร์ (24 มิ.ย.) ทั้งที่ใกล้ถึงเมืองหลวงอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงนั้นยังคงเป็นปริศนา โดยมีการคาดการณ์ว่าอาจมีการทำข้อตกลงกับทางการเกิดขึ้น ด้านรัฐบาลรัสเซียกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า นายปริโกซินจะเดินทางไปเบลารุสเพื่อแลกกับการอภัยโทษจากข้อหากบฏ ทหารวากเนอร์ที่ไม่ได้เข้าร่วมในการก่อกบฏจะถูกรวมเข้ากับกองทัพรัสเซีย ส่วนทหารกลุ่มที่ก่อกบฏจะไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด นอกจากจะไม่มีความเห็นใด ๆ จากนายปริโกซินในเรื่องข้อตกลงแล้ว ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่านายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย จะถูกลดตำแหน่งหรือถูกไล่ออกตามข้อเรียกร้องของนายปริโกซินหรือไม่ เมื่อวันอาทิตย์ (25 มิ.ย.) นายอันเดรย์ กูรูเลฟ ส.ส.รัสเซียนักโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาล เรียกร้องให้ประหารชีวิตนายปริโกซินและนายดมิทรี อุตคิน ผู้ร่วมก่อตั้งวากเนอร์ ด้วยการ “ยิงให้ทะลุหน้าผาก” เป็นที่น่าสังเกตว่า ปธน.ปูตินไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนอีกเลยนับตั้งแต่ที่ออกแถลงการณ์เมื่อเช้าวันเสาร์ มีแต่รายการสัมภาษณ์ที่บันทึกไว้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่แล้วมาออกอากาศทางช่องโทรทัศน์ของทางการในวันอาทิตย์ นอกจากนี้ สำนักข่าวเดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่า สหรัฐทราบมาก่อนเป็นเวลาหลายวันแล้วว่าอาจมีการก่อกบฏในรัสเซียโดยกลุ่มวากเนอร์ โดยคนในรัฐบาลสหรัฐกังวลว่าปธน.ปูตินอาจสูญเสียการควบคุมคลังแสงนิวเคลียร์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ไบเดน ต่อสายตรงถึงนายกฯ อิตาลี หารือประเด็นรัสเซีย พร้อมเชิญเยือนทำเนียบขาว : อินโฟเควสท์ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนางจอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ได้หารือกันในวันจันทร์ (26 มิ.ย.) เกี่ยวกับกรณีที่ทหารรับจ้างรัสเซียกระทำการต่อต้านรัฐบาลรัสเซียในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ และนายไบเดนได้เชิญนางเมโลนีให้เดินทางเยือนทำเนียบขาวในเดือนก.ค. แถลงการณ์ระบุว่า นายไบเดนได้เจรจากับบรรดาประเทศพันธมิตรเกี่ยวกับเหตุการณ์ในรัสเซีย รวมถึงการหารือทางโทรศัพท์กับนางเมโลนี ซึ่งทั้งสองต่างยืนยันอย่างแน่วแน่ว่าจะสนับสนุนยูเครนต่อไป ทำเนียบขาวยังระบุเพิ่มเติมว่า นายไบเดนและนางเมโลนี ยังได้หารือเกี่ยวกับการเตรียมการประชุมสุดยอดขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่เมืองวิลนีอุส ของลิทัวเนีย ในเดือนหน้า รวมถึงความคืบหน้าล่าสุดในแอฟริกาเหนือด้วยเช่นกัน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
พนง.สนามบินรัฐเท็กซัสดับสลดหลังถูกเครื่องบินดูด-จนท.ชี้ฆ่าตัวตาย : อินโฟเควสท์เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเสียชีวิตจากการถูกดูดเข้าไปติดในเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่เพิ่งจะลงจอด ณ สนามบินนานาชาติซานอันโตนิโอในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพในท้องถิ่นระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย สำนักข่าวเอพีรายงานว่า คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ (NTSB) ซึ่งเป็นผู้นำในการตรวจสอบอุบัติเหตุของสหรัฐระบุเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ว่า ทางคณะกรรมการจะไม่ดำเนินการสอบสวนในกรณีดังกล่าว เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนได้ระบุโดยอ้างอิงข้อมูลของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพว่า “ไม่พบปัญหาในการดำเนินการด้านการความปลอดภัยของทั้งเครื่องบินและสนามบิน” อย่างไรก็ตาม สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลสายการบินและความปลอดภัยด้านการบินระบุว่า ทางหน่วยงานจะดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว สำนักงานชันสูตรเขตเบกซาร์ระบุว่า นายเดวิด เรนเนอร์ วัย 27 ปีเสียชีวิตจากบาดแผลที่เกิดจากของทื่อและของมีคม และลักษณะของการเสียชีวิตนั้นถูกระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ FAA ระบุว่า เครื่องบินลำเกิดเหตุเป็นของสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ที่บินมาจากลอสแอนเจลิสกำลังจอดเทียบท่าเพื่อส่งผู้โดยสารเข้าสู่อาคารขณะที่เกิดเหตุสลดดังกล่าว โฆษกของยูนิฟาย (Unifi) ซึ่งให้บริการภาคพื้นดินแก่เดลตากล่าวว่า “จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับขั้นตอนการดำเนินงาน กระบวนการด้านความปลอดภัย และนโยบายของบริษัท และทางบริษัทขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการสูญเสียพนักงานของเราจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติซานอันโตนิโอ และขอไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ ไปมากกว่านี้” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »