สมาชิก ยูเอ็น ลงมติท่วมท้นประณาม รัสเซีย ผนวก 4 แคว้น ยูเครน ขณะจีนงดออกเสียง สมัชชาสหประชาชาติ อินโฟเควสท์
สมัชชาสหประชาชาติ ลงมติอย่างท่วมท้นในวันพุธ เพื่อประณามความพยายามของรัสเซียในการผนวกดินแดน 4 แคว้นของยูเครนอย่างผิดกฎหมาย และได้เรียกร้องทุกประเทศไม่ให้รับรองความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซีย ซึ่งเป็นการเพิ่มมาตรการโดดเดี่ยวทางการทูตต่อรัสเซียนับตั้งแต่บุกเข้ารุกรานยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา รัสเซียได้ประกาศผนวกดินแดน 4 แคว้นของยูเครนได้แก่ โดเนตสก์, ลูฮันสก์, เคอร์ซอน และซาปอริซเซีย หลังจากเสร็จสิ้นการลงประชามติ ขณะที่ยูเครนและประเทศพันธมิตรต่างประณามการทำประชามติดังกล่าวว่าผิดกฎหมายและเป็นการบีบบังคับ ทั้งนี้ มีเพียง 4 ประเทศเท่านั้นที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านมติดังกล่าวของยูเอ็นซึ่งได้แก่ ซีเรีย, นิการากัว, เกาหลีเหนือ และเบลารุส ขณะที่ 35 ประเทศงดออกเสียง ซึ่งรวมถึงจีนที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย ส่วนประเทศที่เหลือนั้นไม่ได้ทำการลงมติ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
TRITN ส่ง 'สบู่มาดามหลุยส์' บุกตปท.,เดินหน้าออกสินค้าใหม่หวังยอดขายพันลบ.ใน 3 ปี : อินโฟเควสท์นางสาวหลุยส์ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทรทัน โฮลดิ้ง (TRITN) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำในการกระจายผลิตภัณฑ์ “สบู่มาดามหลุยส์” ที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ไทรทัน รีซอร์สเซส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ออกไปบุกทำตลาดต่างประเทศเริ่มจากโซนเอเชีย พร้อมจัดแผนโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทส่งสินค้า “สบูมาดามหลุยส์” ไปยังตลาด จีน (Tmall Group) ฮ่องกง (PARKnSHOP และ Watson) และ มาเก๊า โดยตั้งเป้าภายในปลายปี 65 จะรุกตลาดมาเลเซีย และ ฟิลิปปินส์ รวมทั้งช่องทางออนไลน์อย่าง Amazon Global อีกด้วย คาดว่าจะได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ใหม่ในเครือ TRITN ผลิตภัณฑ์ “สบู่มาดามหลุยส์” ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดหลังเปิดตัวเพียงแค่ครึ่งปีสามารถทำยอดขายได้ราว 150 ล้านบาท โดยอาศัยการขายและการตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และ Modern Trade อาทิ 7-ELEVEN, Foodland, Villa …
อ่านเพิ่มเติม »
หัวหน้า ปชป. ยันปรับครม.เก้าอี้รมช.มหาดไทย ไม่สร้างแรงกระเพื่อมในพรรค : อินโฟเควสท์นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในสัดส่วนของพรรคแทนในตำแหน่งของ นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทยว่า ในวันพรุ่งนี้ (12 ต.ค.) จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของพรรคปกติ ส่วนจะยังเป็นโควตาของภาคใต้หรือไม่ ยืนยันว่าไม่มีปัญหา เพราะกระบวนการพรรคมีข้อยุติโดยระเบียบตามมติของกรรมการบริหารพรรคอยู่แล้ว นายจุรินทร์ ย้ำว่า การปรับ ครม.ในสัดส่วนของพรรค จะไม่ทำให้เกิดการกระเพื่อมภายในพรรค หรือทำให้คนที่ไม่ได้ตำแหน่งมีปัญหา เพราะพรรคประชาธิปัตย์เคยตั้ง ครม.มาหลายชุด หลายยุค หลายสมัยแล้ว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ครม.ถกเยียวยาน้ำท่วม/คลัง ชงเว้นภาษีเครื่องจักรการเกษตร/เวนคืนที่ดินบางแค-หนองแขม : อินโฟเควสท์รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม โดยคาดว่าการประชุม ครม. วันนี้ จะได้หารือเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดต่างๆ พร้อมหารือถึงมาตรการควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงดังเช่นที่เกิดขึ้นใน จ.หนองบัวลำภู นอกจากนี้ ยังต้องจับตาการเสนอปรับ ครม. ตามที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอ ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับเพียงตำแหน่งเดียว เพื่อเข้ามาทดแทนนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. มีวาระการพิจารณาที่น่าสนใจ อาทิ – กระทรวงการคลัง เสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับเครื่องจักรกลการเกษตร – กระทรวงพลังงาน เสนอขออนุมัติผ่อนผันให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน และขออนุมัติมติ ครม. ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน สถานที่ตั้งโรงไฟฟ้าบางปะกง ของกฟผ. รวมทั้งสายส่งไฟฟ้าของโครงการ – กระทรวงกลาโหม สนับสนุนกำลังพลกองทัพไทย เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในกองกำลังชั่วคราวรักษาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ – กระทรวงมหาดไทย เสนอโครงการเพื่อการพัฒนาปี 2566 …
อ่านเพิ่มเติม »
ซีอีโอเจพีมอร์แกนแนะสหรัฐผลิตน้ำมันเพิ่ม เตือนโลกเสี่ยงเผชิญวิกฤตพลังงาน : อินโฟเควสท์นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชสให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในวันจันทร์ (10 ต.ค.) ว่า สหรัฐควรผลิตน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาวิกฤตการณ์พลังงานทั่วโลก โดยระบุว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวไม่ต่างจากความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติที่เกิดจากวิกฤตพลังงานในช่วงสงคราม นายไดมอนกล่าวว่า วิกฤตการณ์พลังงานจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับในอดีตที่ยุโรปต้องเผชิญเนื่องจากพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมากเกินไป พร้อมกับเรียกร้องให้บรรดาประเทศตะวันตกช่วยสนับสนุนสหรัฐในการมีบทบาทเป็นผู้นำความมั่นคงด้านพลังงานโลก “ในมุมมองของผมนั้น สหรัฐควรผลิตน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้น และภารกิจนี้ควรได้รับการสนับสนุน สหรัฐจำเป็นต้องมีบทบาทเป็นผู้นำที่แท้จริง โดยสหรัฐจะทำการปรับเพิ่มหรือลดอุปทานตามยุทธศาสตร์เพื่อให้ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (Swing Producer) ไม่ใช่ซาอุดีอาระเบีย และเราควรจะเริ่มภารกิจนี้ในเดือนมี.ค.ปีหน้า” นายไดมอนกล่าว ทั้งนี้ ยุโรป ซึ่งเป็นผู้นำเข้าพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย โดยต้องพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในอัตราส่วนสูงถึง 45% นั้น เป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตพลังงานรุนแรงที่สุด โดยเผชิญทั้งราคาที่สูงขึ้นและภาวะอุปทานที่ลดลง อันเนื่องมาจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียหลังจากที่ส่งกำลังทหารรุกรานยูเครน นายไดมอนกล่าวว่า ในขณะที่ชาติยุโรปได้บรรลุเป้าหมายการเพิ่มอุปทานก๊าซในฤดูหนาวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้นำประเทศควรจะพิจารณาถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับมั่นคงด้านพลังงานในอนาคตด้วย “ขณะนี้เรากำลังเผชิญปัญหาระยะยาว ซึ่งเกิดจากการที่ทั่วโลกไม่ได้ผลิตน้ำมันและก๊าซให้เพียงพอที่จะลดการใช้ถ่านหินได้ ทำให้โลกสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างความมั่นคงให้กับประชาชน” นายไดมอนกล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ดัชนี SET ต้นภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุด รับแรงขายกลุ่มบิ๊กแคป : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าปรับตัวลงกว่า 10 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าจะเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าทะลุ 38 บาท/ดอลลาร์ กดดันเม็ดเงินต่างประเทศไหลออก โดยมีแรงขายออกมาอย่างมากในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ เมื่อเวลา 10.04 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,560.37 จุด ลดลง 10.20 จุด (- 0.65%) นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงไปกว่า 10 จุด โดยยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลในเรื่องเดิมๆ โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด และโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะถดถอย ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และค่าเงินดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้น เป็นแรงกดดันให้เงินทุนต่างชาติไหลออก นอกจากนั้น สัปดาห์นี้คาดว่านักลงทุนจะชะลอการลงทุนและขายลดความเสี่ยง เนื่องจากตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการในวันที่ 13-14 ต.ค.นี้ และอยู่ระหว่างรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐด้วย ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,555-1,556 จุด และแนวต้าน 1,570 จุด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 65) …
อ่านเพิ่มเติม »
สิงคโปร์ไฟเขียว 'คอยน์เบส' ให้บริการชำระเงินดิจิทัลในประเทศได้ : อินโฟเควสท์บริษัทคอยน์เบส โกลบอล อิงค์ (Coinbase Global Inc) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางสิงคโปร์ให้ดำเนินธุรกิจด้านบริการชำระเงินในสิงคโปร์ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การอนุมัติในหลักการซึ่งธนาคารกลางสิงคโปร์เริ่มนำมาใช้กับบริษัทคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อปีที่แล้วนั้น ระบุว่า ประชาชนทั่วไปและสถาบันต่าง ๆ สามารถใช้การบริการโทเคนการชำระเงินดิจิทัล และบริษัทต่าง ๆ ที่ใช้บริการดังกล่าวนั้น จะต้องเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลางและกฎหมายด้านการให้บริการชำระเงิน (Payment Services Act) คอยน์เบสระบุในแถลงการณ์ว่า การได้รับใบอนุญาตครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ โดยบริษัทได้เข้าไปตั้งฐานธุรกิจในสิงคโปร์และปัจจุบันมีพนักงานเกือบ 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิศวกรผลิตภัณฑ์ พร้อมกับกล่าวว่า สิงคโปร์ถือเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์สำหรับคอยน์เบส และเป็นศูนย์กลางนวัตกรรม Web3 ระดับโลก นอกเหนือจากคอยน์เบสแล้ว ยังมีบริษัทคริปโทดอทคอม และดีบีเอส วิคเกอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ในเครือของธนาคารดีบีเอส ที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารกลางสิงคโปร์ในครั้งนี้ ในช่วงกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมา นายราวี เมนอน ผู้ว่าการธนาคารกลางสิงคโปร์กล่าวว่า สิงคโปร์จะเพิ่มขอบข่ายการใช้กฎระเบียบควบคุมคริปโทฯ โดยกฎระเบียบใหม่นี้ อาจรวมถึงการเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมบรรดานักลงรายย่อยที่จะเข้าลงทุนในคริปโทฯ และเพิ่มขอบข่ายการใช้กฎระเบียบเพื่อควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ เป็นวงกว้างมากขึ้น ทั้งนี้ สิงคโปร์ยังคงใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมการลงทุนในคริปโทฯ ซึ่งรวมถึงการควบคุมการทำตลาดคริปโทฯ และกำหนดให้ผู้ที่ให้บริการด้านคริปโทฯ ต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลสิงคโปร์ แม้ว่าบริษัทเหล่านั้นทำธุรกิจอยู่ในต่างประเทศก็ตาม …
อ่านเพิ่มเติม »