สมาคมสายการบิน หารือ 'พิธา' ทบทวนภาษีน้ำมันเครื่องบิน-ลดค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่าธรรมเนียมวีซ่า พิธาลิ้มเจริญรัตน์ ภาษีน้ำมันเครื่องบิน สมาคมสายการบิน สายการบิน อินโฟเควสท์
สมาคมสายการบินประเทศไทย หารือร่วมกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ผลักดันมาตรการสำคัญเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูธุรกิจสายการบินให้แข็งแกร่ง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ พร้อมรับฟังนโยบาย ปัญหา และข้อเสนอแนะ สู่การให้ประเทศไทยเป็นฮับการท่องเที่ยวเดินทางในภูมิภาค โดยมีซีอีโอและผู้บริหารรวม 7 สายการบินร่วมหารือ
1. การส่งเสริมนโยบายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย เช่น การกำหนดอัตราที่เหมาะสมของภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน ฯลฯ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ก้าวไกล ค้าน กกต.จ่อรวบรัดยื่นศาลรธน.วินิจฉัยปม 'พิธา' ถือหุ้นสื่อ : อินโฟเควสท์นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้ส่งหนังสือด่วน ไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อคัดค้านการที่ กกต.จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยกรณีหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอนที่ระเบียบ กกต.ระบุไว้เอง มีความเร่งรัดเกินกว่าเหตุ จนน่าสงสัยในเจตนาของ กกต.ว่ากระทำโดยความเป็นกลางหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตามระเบียบของ กกต. เมื่อมีการร้องเรียนผู้สมัครคนใดเกี่ยวกับการกระทำ หรือการขาดคุณสมบัติ คณะกรมการต้องไต่สวน สืบสวน รวบรวมข้อเท็จจริง จากนั้นให้แจ้งข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ รวมถึงข้อกฎหมายทีเกี่ยวข้องให้ผู้ถูกร้องทราบ และให้ผู้ถูกร้องเข้าไปชี้แจง จากนั้นจึงดำเนินการต่อไปในการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อย่างไรก็ดี ในกรณีนี้ เมื่อมีการไต่สวนรวบรวมข้อเท็จจริงแล้ว ยังไม่มีการแจ้งข้อเท็จจริงให้นายพิธาทราบ และยังไม่มีการเรียกเจ้าตัวไปชี้แจง แต่กลับจะมีการเร่งรัดส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเท่ากับ กกต. กำลังทำผิดระเบียบของตนเองอยู่ “ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ อีกเพียง 4 วัน ก็จะถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี การที่จู่ๆ กกต. จะเร่งรัดทำข้ามขั้นตอน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทันที อาจทำให้สังคมตั้งคำถามได้ว่า องค์กรอิสระทำหน้าที่อย่างไม่เป็นกลาง มีเป้าประสงค์ทางการเมืองหรือไม่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
8 พรรคร่วมรัฐบาลมีมติให้ เพื่อไทย เสนอชื่อ 'พิธา' เป็นนายกฯ-ยังไม่สรุปเสียงหนุน ย้ำไม่มีแผนสำรอง : อินโฟเควสท์นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงผลการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 13 ก.ค.66 เพื่อลงมติให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมยืนยันชัดเจนให้ความเห็นชอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอชื่อ ซึ่งตนจะเป็นคนเสนอชื่อนายพิธาต่อที่ประชุมรัฐสภาเอง และเปิดให้สมาชิกซักถามผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ที่ประชุมมีการหารือถึงวิธีการโหวตนายกรัฐมนตรี โดยให้ ส.ส. 500 คนโหวตก่อน จากนั้นให้ 250 ส.ว.โหวตต่อ แต่หากเสนอเป็นญัตติให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาเรื่องนี้อาจจะทำให้บรรยากาศของการประชุมในวันดังกล่าวสร้างบรรยากาศที่ติดขัด สร้างความระแวงสงสัย จึงสรุปว่าอะไรที่จะทำให้บรรยากาศที่ประชุมไม่ดี เราจะหลีกเลี่ยง ดังนั้นจึงจะทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ โดยให้สมาชิกรัฐสภาโหวตเรียงตามตัวอักษร ที่ประชุมยังได้สอบถามเรื่องเสียงสนับสนุนของ ส.ว. ซึ่งนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกลตอบในมุมที่อยู่บนพื้นฐานความพยายามที่จะประสานและหาเสียงสนับสนุนให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ได้ระบุว่ามีจำนวนเท่าใด ส่วนเรื่องการรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ประชุมไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพูดคุย เพียงแต่มีเรื่องแจ้งให้ทราบว่าในวันดังกล่าว ทางรัฐสภาจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาร่วมฟังการประชุมโดยจัดสถานที่ให้ ซึ่งจะใช้ฝั่งวัดแก้วฟ้าจุฬามณีเป็นหลัก หากมีความจำเป็นอาจจะขออนุญาตปิดถนนทหารให้เป็นที่พักรอของประชาชนโดยยึดตรงนั้นเป็นหลัก ไม่อยากให้เข้ามาบริเวณอาคารรัฐสภา เพราะมีหลายกลุ่ม และไม่ได้คุยกันว่าการชุมนุมจะไปกดดัน ส.ว.หรือ ส.ส. เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน หากทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมายก็เป็นไปโดยสิทธิเสรีภาพ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ลุ้นกกต.บ่ายนี้ถกส่งศาลรธน.วินิจฉัยคุณสมบัติ 'พิธา' ถือหุ้นไอทีวี : อินโฟเควสท์รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ กกต.จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องตามมาตรา 82 ในกรณีที่ กกต. เห็นว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาคนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลง ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยของรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หรือแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ถือครองหุ้นบมจ. ไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีนายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงาน กกต. รวบรวมข้อมูล ข้อเท็จ ข้อกฎหมาย และพยานหลักฐาน ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว โดยจะเสนอให้ที่ประชุม กกต. พิจารณาในบ่ายวันนี้ ทั้งนี้ต้องลุ้นว่า ที่ประชุม กกต. จะลงมติในวันนี้เลยหรือไม่ แต่มีความเป็นไปได้ว่า จะเร่งลงมติเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ทัน เพราะศาลรัฐธรรมนูญจะมีการกระชุมทุกวันพุธ หากที่ประชุมมีมติในวันนี้ ก็จะได้ทันกับการประชุม ประกอบกับในวันที่ 13 กรกฎาคมจะมีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อลงมติโหวตนายกรัฐมนตรี โดย […]
อ่านเพิ่มเติม »
ส.ว.ดิเรกฤทธิ์ ห่วงปมคุณสมบัติ 'พิธา' ทำโหวตนายกฯ ติดหล่ม : อินโฟเควสท์นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมส่งพยานหลักฐานให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ปมถือหุ้นบมจ.ไอทีวี จะส่งผลกระทบต่อการโหวตนายกฯ ในการประชุมรัฐสภาวันที่ 13 ก.ค.นี้หรือไม่ว่า เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการโหวตเลือกนายกฯ ในที่ประชุมรัฐสภา อำนาจนี้อยู่ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ระบุว่า สมาชิกรัฐสภาต้องเลือกนายกฯ จากผู้มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ ปัญหาที่นายพิธา ถูกกล่าวหาอยู่ คือ มีคุณสมบัติ ณ วันที่จะโหวตเลือกหรือไม่ ฉะนั้น กกต. ถือเป็นหน่วยงานกลั่นกรองเบื้องต้น เหมือนพนักงานสอบสวนในคดีอาญา แต่คดีในรัฐธรรมนูญ เมื่อ กกต.รับเรื่องแล้ว ก็ควรจะตรวจหลักฐานว่าครบองค์ประกอบหรือไม่ ข้อกล่าวหามีพยานหลักฐานครบถ้วนหรือไม่เท่านั้นเอง ดังนั้นหน้าที่ของ กกต.คือต้องรีบส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตนคิดว่าเป็นเรื่องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย นายพิธา จะถูกหรือผิด จะมีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามหรือไม่ อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องชี้ “การที่กกต.เอาเรื่องมากอดไว้ ตรงนี้ต้องพิจารณา และทำให้เร็ว เพราะไม่อย่างนั้น เมื่อเปิดการประชุมรัฐสภา วันที่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
แกนนำพิราบขาว จี้ กกต.เร่งส่ง ศาล รธน.วินิจฉัยปม 'พิธา' ถือหุ้นสื่อ : อินโฟเควสท์นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ดำเนินการนำเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กรณีถือหุ้น บมจ.ไอทีวี และการโอนหุ้นให้บุคคลอื่นหลังวันเลือกตั้ง ว่าเข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) และเป็นเหตุให้สิ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) หรือไม่ ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยทันที เมื่อความปรากฏเห็น และรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว ทั้งนี้ ในเอกสารคำร้องยังระบุด้วยว่า หากความได้ปรากฏหรือเมื่อเห็น ก็สามารถตั้งกรรมการรวบรวมพยานหลักฐานนำส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเรียกผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำแต่อย่างใด ตามที่ กกต.ได้ชี้แจงผ่านสื่อ ขณะที่มีรายงานว่า กกต.ได้เชิญนายพิธา มาชี้แจงด่วนในเวลา 13.00 น. แต่ก็ได้รับการปฎิเสธว่าไม่ได้มีการนัดให้มาชี้แจงดังกล่าว รวมทั้งในส่วนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่มี ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนงานสืบสวนสอบสวน สำนักงาน กกต. เป็นประธาน ก็ไม่ได้เชิญมาชี้แจงแต่อย่างใด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »