สภาผู้แทนฯ สหรัฐ ไฟเขียวร่างกม.หนุนอุตสาหกรรม เซมิคอนดักเตอร์ ส่งต่อไบเดนลงนาม อินโฟเควสท์
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียง 243 ต่อ 187 เสียง ผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตเซมิคอนดักเตอร์ โดยมีเป้าหมายที่ช่วยให้บริษัทสหรัฐมีศักยภาพในการแข่งขันกับบริษัทของจีนและประเทศอื่น ๆ ได้ ซึ่งการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และพรรคเดโมแครต
ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า Chips and Science Act ได้ผ่านมติเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวันพุธที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพฤหัสบดีที่ 28 ก.ค. โดยขณะนี้ทำเนียบขาวได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับปธน.ไบเดนแล้ว และคาดว่าปธน.ไบเดนจะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
ปธน.ไบเดนเปิดเผยหลังจากร่างกฎหมาย Chips and Science Act ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นในการผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยร่างกฎหมายครอบคลุมถึงงบประมาณกว่า 5.
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปธน.ไบเดนได้จัดการประชุมผ่านระบบออนไลน์กับผู้บริหารของบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน คอร์ป, เมดทรอนิค และคัมมินส์ อิงค์ พร้อมกับผู้นำแรงงาน โดยการประชุมดังกล่าวเป็นความพยายามของรัฐบาลสหรัฐในการผลักดันกฎหมายเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
LH Bank ออกเงินฝากประจำพิเศษ 24 เดือนดอกเบี้ย 1.80% และ 36 เดือน ที่ 3.25% : อินโฟเควสท์นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำพิเศษ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงที่เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น โดยชูจุดเด่นที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง และรับดอกเบี้ยทุกเดือน ได้แก่ เงินฝากประจำพิเศษ 24 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.80% ต่อปี และเงินฝากประจำพิเศษ 36 เดือน (Step rate) อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 3.25% ต่อปี โดยมีรายละเอียดดังนี้ – เงินฝากประจำพิเศษ 24 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.80% และรับดอกเบี้ยทุกเดือน เปิดบัญชีขั้นต่ำ 100,000 บาท และไม่เกิน 100,000,000 บาทต่อรายลูกค้า – เงินฝากประจำพิเศษ 36 เดือน อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 3.25% (อัตราดอกเบี้ยแบบ Step rate) และรับดอกเบี้ยทุกเดือน โดยอัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1-6 ที่ …
อ่านเพิ่มเติม »
ยักษ์ใหญ่วงการสินค้าอุปโภคบริโภคแห่ขึ้นราคาสินค้ารับมือต้นทุนสูง : อินโฟเควสท์ยูนิลีเวอร์, โคคา-โคลา และแมคโดนัลด์ร่วมกันเปิดเผยเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.) ว่า ผลกระทบของเงินเฟ้อทั่วโลกได้ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น และทำให้สินค้ามีราคาแพงขึ้นซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้กับภาคครัวเรือนมากขึ้น ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า กลุ่มบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่สุดในโลกบางกลุ่มได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาสินค้าที่จำเป็น หลังจากวอลมาร์ทซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกของสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงกำลังส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี บริษัทแอมะซอนได้ปรับเพิ่มราคาค่าสมาชิกโปรแกรมไพร์ม (Prime) ในตลาดหลัก ๆ ของยุโรป โดยทางแอมะซอนโทษว่าเป็นเพราะอัตราเงินเฟ้อและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยูนิลีเวอร์เตือนถึงสถานการณ์ด้านต้นทุนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยูนิลีเวอร์เปิดเผยว่า ราคาสินค้าของบริษัท ซึ่งรวมถึงสบู่โดฟ, มายองเนสเฮลแมนส์ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดซิฟ (Cif) เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 11.2% ในไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบกับปีก่อน และจะยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นนี้ช่วยให้ยูนิลีเวอร์รายงานยอดขายที่สูงกว่าคาด แม้ว่าปริมาณที่ขายได้ลดลง 2% เนื่องจากผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้สินค้าที่ราคาถูกกว่า ด้านโคคา-โคลาเองเปิดเผยรายงานแนวโน้มที่คล้ายคลึงกัน โดยราคาผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ขณะที่แมคโดนัลด์เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาเพิ่มตัวเลือกเมนูลดราคามากขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อกระตุ้นให้ผู้บริโภคบางรายเปลี่ยนไปซื้อสินค้าทางเลือกที่มีราคาถูกกว่า และยังระบุเสริมว่า ยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั้นได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มราคาเชิงกลยุทธ์ในเมนู ทั้งนี้ ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกในสหรัฐร่วงลงอย่างหนักในวันอังคาร (26 ก.ค.) หลังจากบริษัทวอลมาร์ทได้ออกประกาศเตือนเรื่องผลกำไรเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 สัปดาห์ เนื่องจากลูกค้าของบริษัทลดการซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น …
อ่านเพิ่มเติม »
'การบินไทย' เปิดเส้นทางกรุงเทพ-เจดดาห์หลังฟื้นสัมพันธ์ซาอุฯ เริ่มบิน 19 ส.ค.นี้ : อินโฟเควสท์นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า การบินไทยเปิดเส้นทางบินใหม่สู่เจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย เป็นการกลับมาทำการบินเที่ยวบินเชิงพาณิชย์สู่ซาอุดีอาระเบียในรอบ 32 ปี โดยจะเริ่มในวันที่ 19 ส.ค.นี้ การเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-เจดดาห์ ในครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย ภายหลังจากที่รัฐบาลไทยได้เดินทางไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ รวมทั้งเป็นการสนับสนุนให้พี่น้องมุสลิมได้เดินทางแสวงบุญตามกิจสำคัญของศาสนา ที่ผ่านมา การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ได้สนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการจัดเที่ยวบินพิเศษขนส่งผู้แสวงบุญฮัจย์ไปยังนครเมกกะ และเมดินะห์ ซาอุดีอาระเบีย มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ THAI เปิดเผยว่า เส้นทางบินกรุงเทพฯ-เจดดาห์ เป็นเส้นทางบินที่มีศักยภาพ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของทุกๆ ตลาดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นด้านศาสนา ธุรกิจแรงงาน และการท่องเที่ยว อีกทั้ง ยังเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางของผู้โดยสารจากประเทศในกลุ่มภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเดินทางไปยังประเทศในตะวันออกกลางได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย การบินไทยจะเริ่มทำการบินเที่ยวบินแรกในวันที่ 19 ส.ค.65 ในชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด ด้วยตารางบินที่สะดวกสบาย ทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์ …
อ่านเพิ่มเติม »
สิงคโปร์ขยายเวลาพำนักในประเทศให้อดีตปธน.ศรีลังกาอีก 14 วัน : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวในวันนี้ (27 ก.ค.) ว่า สิงคโปร์อนุญาตให้อดีตประธานาธิบดีโคฐาภยะ ราชปักษะ ผู้นำศรีลังกาพำนักอยู่ในสิงคโปร์เพิ่มอีก 14 วัน รายงานระบุว่า สิงคโปร์ได้ขยายเวลาใบอนุญาตพำนักระยะสั้นที่นายราชปักษะได้รับเมื่อครั้งเดินทางสู่สิงคโปร์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ทำให้นายราชปักษะ สามารถอยู่ในสิงคโปร์ได้จนถึงวันที่ 11 ส.ค. อย่างไรก็ตาม สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสิงคโปร์ยังไม่ได้ออกมายืนยันเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ นายราชปักษะเดินทางถึงสิงคโปร์ในวันที่ 14 ก.ค. หลังหลบหนีวิกฤติการเมืองออกนอกประเทศผ่านทางมัลดีฟส์ เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ประท้วงกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศ ในเวลานั้น รัฐบาลสิงคโปร์ระบุว่าไม่ได้อนุญาตให้นายราชปักษะลี้ภัยในประเทศ โดยการพำนักอยู่ในสิงคโปร์นั้นเป็นเพียงการเดินทางเยือนแบบเป็นส่วนตัวเท่านั้น โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
AMARC เดินหน้าเทรด mai ปีนี้หลัง ก.ล.ต.ไฟเขียวขาย IPO 120 ล้านหุ้น : อินโฟเควสท์บมจ.ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย (AMARC) เตรียมพร้อมเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปี 65 หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุญาตให้เสนอขายหุ้น IPO แล้ว AMARC เป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจการให้บริการทางวิทยาศาสตร์ ด้านเกษตร อาหาร ยา และสิ่งแวดล้อม อย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ การสอบเทียบเครื่องมือ การตรวจสอบ รับรอง ตามระบบคุณภาพและมาตรฐานสากล เป็นอีกหุ้นไอพีโอน้องใหม่ที่น่าสนใจ นายชินดนัย ไชยยอง กรรมการผู้จัดการ AMARC เชื่อมั่นว่าการระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 120 ล้านหุ้นในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันและความพร้อมในการขยายธุรกิจ ตามความต้องการและมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์การเกษตรและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบจากห้องแล็บที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย อีกทั้งเป็นการยกระดับมาตรฐานของบริษัทฯ เข้าสู่มาตรฐานสากล เพิ่มความน่าเชื่อถือในด้านภาพลักษณ์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าและคู่ค้า โดยบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อการจัดซื้อเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนเวียนในการประกอบธุรกิจ ด้านนายวิศรุต อังศุภากร ผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บล.โนมูระ …
อ่านเพิ่มเติม »
SCC หั่นงบลงทุนปี 65 เหลือ 7 หมื่นลบ.จาก 8 หมื่นลบ.หลังจัดลำดับความสำคัญโครงการ : อินโฟเควสท์บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) คาดการณ์รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนในปี 65 ลดลงเหลือ 70,000 ล้านบาท จากเดิม 80,00 ล้านบาทที่ได้ประมาณการก่อนหน้า เนื่องจากมีการจัดลำดับความสำคัญของโครงการลงทุน ทั้งนี้ รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนในช่วงครึ่งแรกของปี 65 มีมูลค่าเท่ากับ 22,445 ล้านบาท โดยสัดส่วนการลงทุนเป็นของธุรกิจเคมิคอลส์ 58% ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 23% ธุรกิจแพคเกจจิ้ง 14% และส่วนงานอื่น 5% โดยรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุน ส่วนใหญ่ใช้สำหรับโครงการปิโตรเคมีครบวงจรของ LSP ในช่วงครึ่งแรกของปี 65 EBITDA เท่ากับ 42,468 ล้านบาท ในขณะที่มีกระแสเงินสดจ่ายทั้งสิ้น 44,762 ล้านบาท ประกอบด้วยรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุน 22,445 ล้านบาท จ่ายเงินปันผล 13,932 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ย 4,377 ล้านบาท และจ่ายภาษีเงินได้ 4,008 ล้านบาท โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ค. 65) …
อ่านเพิ่มเติม »