สภาพัฒน์ชี้การพัฒนาปท.ให้สำเร็จตามแผนฯ 13 ต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน สภาพัฒน์ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เศรษฐกิจ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อินโฟเควสท์
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ชี้แจงสาระสำคัญของร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และแนวทางการขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติ ในงานประชุมประจำปี 2565 เรื่อง “พลิกโฉมประเทศไทย ก้าวไปด้วยกัน” ว่า ภายใต้ความท้าทายของการพัฒนาประเทศที่ต้องเผชิญในระยะต่อไป ทั้งในเรื่องการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล ความร่วมมือในการลดก๊าซเรือนกระจกในระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเป็นสังคมสูงวัย ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน...
หมุดหมายที่ 2 ไทยเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน โดยลดการท่องเที่ยวที่เน้นปริมาณ สร้างการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หมุดหมายที่ 5 ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุน และยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค โดยพัฒนาความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนกับต่างประเทศปรับปรุงระบบคมนาคมและโลจิสติกส์ ให้เชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ
หมุดหมายที่ 9 ไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลง และมีความคุ้มครองทางสังคมที่เพียงพอ เหมาะสม โดยการสนับสนุนครัวเรือนยากจนให้เข้าถึงการศึกษาและการพัฒนาทักษะอาชีพ ตลอดจนสร้างความคุ้มครองทางสังคมที่เหมาะสม และครอบคลุมคนทุกกลุ่มหมุดหมายที่ 10 ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ ให้ความสำคัญกับการนำขยะและของเสียมาหมุนเวียนใช้ประโยชน์ รวมถึงเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ให้ไปสู่ความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคีการพัฒนา ประกอบด้วย ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษาสถาบันวิจัย ประชาคมระหว่างประเทศ และประชาชนทุกคนร่วมดำเนินการ ดังนี้
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
โนมูระหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจจีนปีหน้าโต 4.3% ผลพวงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ : อินโฟเควสท์ทีมนักวิเคราะห์ของบริษัทโนมูระปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2566 ลงเหลือ 4.3% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 5.1% โดยระบุถึงผลกระทบจากการที่จีนใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-COVID Policy) มาเป็นเวลานาน และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในประเทศหลังจากที่จีนเริ่มเปิดประเทศในเดือนมี.ค. สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของโนมูระมีขึ้น หลังจากเมื่อต้นสัปดาห์นี้โกลด์แมน แซคส์ เพิ่งปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปี 2566 ลงสู่ระดับ 4.5% จากระดับ 5.3% ด้านธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 3.3% ในปี 2565 ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ค.ที่ระดับ 4% และระดับ 5% ในเดือนเม.ย. ส่วนในปี 2566 คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 4.5% ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.8% ทั้งนี้ มาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ ๆ ของจีนได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนหอการค้ายุโรปออกรายงานเตือนว่า บริษัทต่าง ๆ ของยุโรปเริ่มขาดความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจในประเทศจีน และปรับลดมุมมองที่เคยยกให้จีนเป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่จีนใช้นโยบายควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ขาดความยืดหยุ่นและไม่มีความต่อเนื่อง โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 …
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบ หลังแบงก์ชาติสำคัญแห่ขึ้นดอกเบี้ย : อินโฟเควสท์หุ้นยุโรปเปิดตลาดลบเล็กน้อยในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสำคัญหลายแห่งแห่ขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 399.69 จุด ลดลง 0.07 จุด หรือ -0.02% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 12,506.64 จุด ลดลง 24.99 จุด หรือ -0.20% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 5,906.18 จุด ลดลง 12.32 จุด หรือ -0.21% เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ติตต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมเมื่อวันพุธ (21 ก.ย.) ขณะที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์สิ้นสุดยุคอัตราดอกเบี้ยติดลบด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 0.50% จากเดิมอยู่ที่ -0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 15 ปี หุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปร่วง …
อ่านเพิ่มเติม »
สิงคโปร์แซงฮ่องกงเป็นฮับการเงินอันดับ 1 ของเอเชีย-อันดับ 3 ของโลก : อินโฟเควสท์สิงคโปร์แซงหน้าฮ่องกงขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับหนึ่งของเอเชียแล้วในขณะนี้ และผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับ 3 ของโลก Global Financial Centres Index (GFCI) จัดอันดับให้มหานครนิวยอร์กของสหรัฐเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับ 1 ของโลก รองลงมาได้แก่กรุงลอนดอนของอังกฤษอยู่ที่อันดับ 2 ส่วนสิงคโปร์ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 3 และฮ่องกงหล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 4 ของโลก เนื่องจากผลกระทบของการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 และปัญหาการย้ายถิ่นฐานของบุคลากรที่มีทักษะสูง ขณะที่เมืองซานฟรานซิสโกของสหรัฐขยับขึ้นมาอยู่ใน 5 อันดับเมืองที่เป็นศูนย์กลางการเงินของโลก ที่ผ่านมานั้น ฮ่องกงเผชิญกับความยากลำบากในการพลิกฟื้นสถานะของการเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก เนื่องจากฮ่องกงจำเป็นต้องดำเนินการตามแนวทางของจีนในการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำที่สุด สวนทางกับประเทศอื่น ๆ ในโลกที่เริ่มเปิดพรมแดน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากกว่า 4 ล้านคนในปี 2565 นอกจากนี้ การที่สิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการประชุม Milken Institute Asia Summit, การประชุม Forbes Global CEO Conference และการแข่งขัน Singapore Grand Prix จะช่วยยกสถานะของสิงคโปร์ให้เป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทาง ส่วนเมืองเซี่ยงไฮ้ …
อ่านเพิ่มเติม »
ORI ปรับโครงสร้างธุรกิจขยายลงทุน กางแผนดัน 3 บ.ย่อยเข้าตลาดหุ้นในปี 65-68 : อินโฟเควสท์บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 ได้มีมติอนุมัตินโยบายการบริหารจัดการโครงสร้างธุรกิจและการแบ่งประเภทธุรกิจ เพื่อให้การบริหารจัดการ การพัฒนาและการลงทุนในอนาคตมีความชัดเจนและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อให้ง่ายต่อการนำบริษัทย่อยตามกลุ่มธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทฯ มีแผนในการนำบริษัทย่อยของแต่ละกลุ่มธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อขยายการลงทุนในอนาคต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทในแต่ละกลุ่มธุรกิจสามารถระดมทุนได้เองผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)และสามารถระดมทุนด้วยเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ รวมถึงเป็นการส่งเสริมชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของกลุ่มธุรกิจนั้น ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มฐานลูกค้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสในการแสวงหาบุคลากรและพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในธุรกิจนั้น ๆ ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเบื้องต้น ภายในปี 65-68 บริษัทฯ มีแผนที่จะนำบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด และ บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามลำดับ (ทั้งนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มบริษัท) …
อ่านเพิ่มเติม »