สภาขึ้นครองราชย์ประกาศสถาปนากษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 อย่างเป็นทางการวันนี้ อินโฟเควสท์
หลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดี เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ องค์มกุฎราชกุมารผู้ดำรงพระยศเจ้าชายแห่งเวลส์มาอย่างยาวนานได้ทรงสืบทอดราชบัลลังก์เป็นกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ในทันที
ด้านสภาการขึ้นครองราชย์ ซึ่งประกอบไปด้วยเหล่าองคมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอาวุโสทั้งในอดีตและปัจจุบัน สมาชิกสภาขุนนาง ข้าราชการระดับสูง รวมทั้งข้าหลวงใหญ่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ประจำรัฐต่าง ๆ ในเครือจักรภพ ได้ประกาศการสืบทอดบัลลังก์ของพระองค์อย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นที่พระราชวังเซนต์เจมส์ในกรุงลอนดอน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในการมีพระราชดำรัสแรกต่อประชาชนหลังขึ้นครองราชย์ในฐานะกษัตริย์นั้น กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ได้ทรงปฏิญาณเมื่อวันศุกร์ ว่า จะรับใช้ชาติด้วยความภักดี ความเคารพ และความรัก ทั้งนี้ กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงเป็นประมุขแห่งสหราชอาณาจักรและอีก 14 อาณาจักร รวมทั้งออสเตรเลีย แคนาดา จาเมกา นิวซีแลนด์ และปาปัวนิวกินี
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
อังกฤษจะแต่งตั้งสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 อย่างเป็นทางการวันนี้อังกฤษจะแต่งตั้งสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 อย่างเป็นทางการวันนี้ 👉 อ่านข่าว : อังกฤษ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่3 แต่งตั้งสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่3
อ่านเพิ่มเติม »
ทำเนียบรัฐบาล ทุ่มงบเกือบ 50 ลบ.ยกระดับระบบรักษาความปลอดภัย : อินโฟเควสท์รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ได้ออกประกวดราคาซื้อโครงการเพิ่มประสิทธิภาพทำเนียบรัฐบาล จำนวน 1 โครงการ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงินทั้งสิ้น 48,368,110 บาท ปรับปรุงระบบการคัดกรองบุคคลและยานพาหนะที่เข้า – ออกทำเนียบรัฐบาล ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ สามารถรายงานผลแจ้งเตือน และป้องกันเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นภายในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลได้ทันท่วงที เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติราชการของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ข้าราชการเมือง และผู้บริหารระดับสูง อีกทั้งเป็นสถานที่ต้อนรับผู้นำต่างประเทศที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยและเป็นสถานที่จัดงานรัฐพิธีต่าง ๆ ของรัฐบาล การจัดซื้อดังกล่าว ประกอบไปด้วย ระบบคัดกรองยานพาหนะพร้อมไม้กั้น, ระบบคัดกรองบุคคลพร้อมประตูอัตโนมัติควบคุมการเข้า-ออก, ระบบตรวจใต้ท้องยานพาหนะ, ชุดสกัดกั้นยานพาหนะ, ระบบการสื่อสารภายในระหว่างศูนย์ควบคุมกลางกับศูนย์เครือข่ายย่อย, ศูนย์ควบคุมส่วนกลาง, ศูนย์เครือข่ายย่อยและป้อมรักษาความปลอดภัย เนื่องจากปัจจุบันระบบการรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาลใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 เป็นหลักในการตรวจสอบ คัดกรอง บุคคลและยานพาหนะที่ผ่านเข้า – ออกพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งยังไม่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งระบบ และไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันระหว่างประตูเข้า – ออกได้ อีกทั้งไม่มีเครื่องมือตรวจสอบยานพาหนะและเครื่องสกัดกั้นยานพาหนะที่มีประสิทธิภาพในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน ดังนั้น เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยของสถานที่และบุคคลภายในทำเนียบรัฐบาลมีประสิทธิภาพ ทันสมัย และมีความปลอดภัย สามารถตรวจสอบติดตามกรณีมีผู้ก่อเหตุในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลรวมถึงเพื่อเป็นการป้องกัน …
อ่านเพิ่มเติม »
เพื่อไทย หาเสียงเชียงใหม่เปิดตัว 2 นโยบายชูเพิ่มรายได้ แก้ปมเศรษฐกิจ : อินโฟเควสท์น.ส. แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ว่า มั่นใจว่าในภาคเหนือ พรรคเพื่อไทยทำได้ดีกว่าทุกคน เพราะมีความคุ้นเคยมากกว่าทุกพรรค ด้วยความพร้อมด้านว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า มั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้งแบบแลนสไลด์ทั้งภาคเหนือ ทั้งนี้ ในแต่ละพื้นที่มีปัญหาแตกต่างกัน จากวานนี้ได้พบปัญหาเชิงลึกที่เกษตรกรสะท้อนปัญหาทำให้พรรคเพื่อไทยมองว่า จะต้องกระจายความเจริญใปทุกจังหวัด ทุกจังหวัดต้องเข้าถึงโอกาสเพิ่มเงินในกระเป๋า ขจัดหนี้ออกไปจากชีวิต หลายอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงแบบยกเครื่องใหม่ทั้งกระบวนการ พรรคเพื่อไทยจึงขอเปิดตัว 2 นโยบาย ได้แก่ นโยบายที่ 1 นโยบายด้านการเกษตร ภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ตลาดนำ โดยการเอาความต้องการของตลาดเป็นที่ตั้ง ทำการเกษตรตามที่ตลาดต้องการ พรรคเพื่อไทยมีฝีมือและประสบการณ์ในการทำตลาดสินค้าไทยมาแล้ว สินค้าเกษตรทุกรายการจะขายได้ราคา มีกำไร ด้วยหลัก “ตลาดนำการผลิต” ที่พรรคเพื่อไทยทำได้และทำสำเร็จมาแล้ว อีกทั้งพรรคเพื่อไทยมีที่ปรึกษาทางการตลาดคนสำคัญที่ประชาชนคนไทยทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี น.ส.แพทองธาร ยังได้ประกาศตัวขออาสาเป็น Salesman ขายสินค้าเกษตรในต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับคนไทย เพราะน่าเป็นห่วงที่ประเทศไทย ประชากรไทย 40% ประกอบอาชีพเกษตรกร แต่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจากภาคการเกษตรมีเพียง 8% เท่านั้น นวัตกรรมทางการเกษตร ช่วยให้เกษตรกรเหนื่อยน้อยลง …
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาลโชว์ยอดใช้จ่ายสะสม 3 โครงการกระตุ้นบริโภคในปท.กว่า 1.6 หมื่นลบ. : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยยอดรวมการใช้จ่ายภาครัฐและประชาชน ภายใต้ “มาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศปี 2565” ณ วันที่ 9 กันยายน 65 เวลา 23.00 น. ผู้ใช้สิทธิสะสม รวม 32.15 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสมรวม 16,126.4 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 20.16 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 13,740.7 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 6,957.3 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 6,783.4 ล้านบาท โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 11.24 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 2,237.3 ล้านบาท โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 747,751 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 148.4 …
อ่านเพิ่มเติม »
'เบอร์เกอร์ คิง' เตรียมควักเงินทุน 400 ล้านดอลล์ หวังเพิ่มยอดขายในสหรัฐ : อินโฟเควสท์เบอร์เกอร์ คิง ร้านอาหารประเภทแฮมเบอร์เกอร์ชื่อดัง ได้วางแผนที่จะลงทุน 400 ล้านดอลลาร์ในช่วง 2 ปีข้างหน้า เพื่อปรับปรุงร้านค้าและเพิ่มยอดขายในสหรัฐ เบอร์เกอร์ คิงเปิดเผยในวันศุกร์ (9 ก.ย.) ว่า การลงทุนดังกล่าวนั้นรวมถึงการปรับปรุงร้านค้า รวมไปถึงปรับปรุงด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์ครัว วงเงินราว 250 ล้านดอลลาร์ และจัดสรรงบสำหรับการโฆษณาราว 120 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ เบอร์เกอร์ คิงยังวางแผนใช้จ่ายเงิน 30 ล้านดอลลาร์เพื่ออัปเกรดแอปพลิเคชันเพื่อให้การสั่งซื้อสินค้าเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้นด้วย สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า แผนการดังกล่าวมีขึ้น หลังจากร้านค้า 7,058 แห่งของเบอร์เกอร์ คิงในสหรัฐมียอดขายที่น่าผิดหวังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยในปี 2562 ยอดขายของร้านเบอร์เกอร์ คิง เพิ่มขึ้นน้อยกว่า 2% เมื่อเทียบกับยอดขายของร้านแมคโดนัลด์ ซึ่งเป็นเจ้าตลาดในสหรัฐที่เพิ่ม 5% โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
แผ่นดินไหว 6.2 แมกนิจูดเขย่าจังหวัดปาปัวของอินโดนีเซีย ยังไม่มีเตือนสึนามิ : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.2 แมกนิจูดที่จังหวัดปาปัวทางตะวันออกของอินโดนีเซียในวันนี้ (10 ก.ย.) แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บเสียชีวิต สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศ และธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวไม่มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิแต่อย่างใด สำนักงานฯ รายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 07.05 น.ตามเวลาท้องถิ่นและเวลาประเทศไทย โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากอำเภอมัมเบราโม เตงกา (มัมเบราโมกลาง) ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 37 กิโลเมตร ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »