ศิริเพ็ญ รามนุช ขึ้นเป็นผถห.ใหญ่อันดับ 1 ของ MAX ถือ 23.34% ไม่กระทบการบริหาร : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

ศิริเพ็ญ รามนุช ขึ้นเป็นผถห.ใหญ่อันดับ 1 ของ MAX ถือ 23.34% ไม่กระทบการบริหาร : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 12 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 8%
  • Publisher: 68%

ศิริเพ็ญ รามนุช ขึ้นเป็นผถห.ใหญ่อันดับ 1 ของ MAX ถือ 23.34% ไม่กระทบการบริหาร MAX หุ้นไทย แมกซ์เมทัลคอร์ปอเรชั่น อินโฟเควสท์

บมจ.แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ตามแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ ประจำวันที่ 22 สิงหาคม 2565 โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้แจ้งว่า

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 นางสาวศิริเพ็ญ รามนุช ได้ซื้อหุ้นจากนางสาวพรรณทิพา เนติพัฒน์ จำนวน 13,000,000,000 หุ้น และ นายสุเมธ เศษธะพานิข จำนวน 7,000,000,000 หุ้น รวมทั้งสิ้น 20,000,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ลือ Galaxy S23 Ultra จะใช้ Fingerprint Sensor แบบใหม่ ใหญ่ขึ้น สแกนได้เร็วขึ้นลือ Galaxy S23 Ultra จะใช้ Fingerprint Sensor แบบใหม่ ใหญ่ขึ้น สแกนได้เร็วขึ้นลือ Galaxy S23 Ultra จะใช้ Fingerprint Sensor แบบใหม่ ใหญ่ขึ้น สแกนได้เร็วขึ้น Samsung GalaxyS25Ultra ล้ำหน้าโชว์ ข่าวไอที TechOffside
อ่านเพิ่มเติม »

Samsung Galaxy S23 Ultra จะมีพื้นที่สแกนนิ้วมือมากขึ้น และสามารถสแกนได้เร็วขึ้น #beartaiยังคงมีข่าวลือหลุดออกมาเรื่อย ๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการระบุว่า Galaxy S23 จะมีกล้องความละเอียด 200 ล้านพิกเซล และจะใช้ชิป Snapdragon ของ Qualcomm ในวันนี้ข่าวลือที่ออกมาเพิ่มเติมเผยว่า Galaxy S23 Ultra จะใช้เซนเซอร์สแกนนิ้วมือ 3D Sonic Max จาก Qualcomm
อ่านเพิ่มเติม »

ชาวสิงคโปร์แห่เดินทางไปใช้จ่ายในมาเลเซียหลังเงินแข็งค่า ทำรถติด 4 ชั่วโมง : อินโฟเควสท์ชาวสิงคโปร์แห่เดินทางไปใช้จ่ายในมาเลเซียหลังเงินแข็งค่า ทำรถติด 4 ชั่วโมง : อินโฟเควสท์สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ที่พุ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนที่เชื่อมต่อกับมาเลเซีย เนื่องจากชาวสิงคโปร์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้หลั่งไหลเข้ามาเลเซีย เพื่อจับจ่ายซื้อสินค้าและใช้บริการด้านความบันเทิงหรือบริการต่าง ๆ ที่มีราคาแพง เช่น การดูแลสุขภาพ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้รถติดต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ชั่วโมง บริเวณจุดตรวจชายแดนระหว่างสิงคโปร์และรัฐยะโฮร์ ทางตอนใต้ของมาเลเซีย ขณะที่ในสถานการณ์ปกติ การเดินทางในเส้นทางนี้จะใช้เวลาเพียง 20 นาที ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวเข้าขั้นวิกฤตถึงขั้นที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของสิงคโปร์ออกประกาศผ่านวิทยุถึงสถานการณ์รถติด รวมถึงแนะนำให้ผู้คนยกเลิกแผนการเดินทางในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักเดินทางบางรายได้เผยแพร่เหตุความขัดแย้งบนท้องถนนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงกรณีที่มีหญิงรายหนึ่งที่ดึงป้ายทะเบียนรถคนอื่นออก ขณะที่นักเดินทางรายอื่นใช้งานแพลตฟอร์มติ๊กต๊อก เพื่อบรรยายสถานการณ์รถติดที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง อย่างไรก็ดี นางซูซาน ลิม ชาวสิงคโปร์วัย 68 ปีเปิดเผยว่ายินดีที่จะฝ่าปัญหารถติดเพื่อไปผ่าฟันคุดในรัฐยะโฮร์ เพราะเสียค่าใช้จ่ายเพียง 700 ริงกิตมาเลเซีย (157 ดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับในสิงคโปร์ที่กว่า 400 ดอลลาร์สิงคโปร์ (290 ดอลลาร์สหรัฐ) โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ส.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

ครม.เห็นชอบให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กัมพูชา 983 ลบ. ปรับปรุงถนนสาย NR67 : อินโฟเควสท์ครม.เห็นชอบให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กัมพูชา 983 ลบ. ปรับปรุงถนนสาย NR67 : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กัมพูชา สำหรับโครงการปรับปรุงถนนหมายเลข 67 ช่วงเสียมราฐ-อันลองเวง-จวม/สะงำ (NR67) และอนุมัติให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ดำเนินการตามขอบเขตของโครงการ NR67 ต่อไป โดยจะเป็นการให้วงเงินกู้จำนวน 983 ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณ จัดสรรงบประมาณให้เพื่อปล่อยเงินกู้ระหว่างปี 2567-2569 รวม 491.50 ล้านบาท หรือ 50% ของวงเงินโครงการ ส่วนอีก 491.50 ล้านบาท สพพ. จะดำเนินการกู้จากสถาบันการเงินในประเทศต่อไป ทั้งนี้ สพพ. ได้กำหนดเงื่อนไขให้กัมพูชาใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ภายใต้โครงการดังกล่าวจากไทยไม่น้อยกว่า 50 % ของมูลค่าสัญญา รวมถึงต้องให้ผู้รับเหมาก่อสร้างและวิศวกรที่ปรึกษาจากไทยเป็นผู้ดำเนินโครงการด้วย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการจำหน่ายสินค้า วัสดุ และอุปกรณ์ก่อสร้าง ตลอดจนสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยไปทำงานในต่างประเทศ และเป็นการกระจายรายได้จากโครงการสู่ผู้ผลิตวัสดุ อุปกรณ์ ก่อสร้างของไทยอย่างน้อย 50% ของมูลค่าโครงการ หรือมากกว่า 491.50 ล้านบาท น.ส.ไตรศุลี …
อ่านเพิ่มเติม »

ICHI มั่นใจ H2/65 โตรับลุยหนักตลาดอาเซียน,ออกสินค้าใหม่ตรงใจ-ต้นทุนเริ่มลง : อินโฟเควสท์ICHI มั่นใจ H2/65 โตรับลุยหนักตลาดอาเซียน,ออกสินค้าใหม่ตรงใจ-ต้นทุนเริ่มลง : อินโฟเควสท์นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะทำได้ดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ทั้งยอดขายและกำไร โดยที่คาดว่ายอดขายในครึ่งปีหลังของปีนี้จะเติบโตมากกว่า 10% โดยคาดว่าจะเห็นการเติบโตของยอดขายที่โดดเด่นในช่วงไตรมาส 4/65 เนื่องจากเป็นช่วงที่บริษัทจะมียอดขายที่เติบโตมากจากการที่เป็นช่วงเข้าสู่เทศกาล รวมถึงมีการเริ่มรับรู้รายได้จากเครื่องดื่มใหม่ที่ออกมาจำหน่ายในช่วงปลายไตรมาส 3/65 ประกอบกับในส่วนของรายได้จากการรับจ้างผลิตจะเริ่มเข้ามาในช่วงต้นไตรมาส 4/65 เป็นต้นไป โดยที่บริษัทยังคงมั่นใจในความแข็งแกร่งของช่องทางการขาย Traditional Trade และความเป็นแบรนด์ยอดนิยมครองใจคนไทยอันดับ 1 ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน พร้อมกับการขยายตลาดอาเซียนที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อผลักดันยอดขายในกลุ่มประเทศอาเซียนให้เติบโตขึ้นมาได้ตามแผนที่บริษัทวางไว้ โดยช่วงครึ่งปีแรกยอดขายในตลาดกัมพูชาและอินโดนีเซียกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมาก ซึ่งสะท้อนถึงทั้งกำลังซื้อที่ฟื้นตัวและการทำการตลาดที่ดี รวมถึงการปรับปรุงพัฒนาสินค้าเครื่องดื่มที่ถูกใจกับกลุ่มผู้บริโภค ภายใต้การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ “3N” (New Product, New Market, New Business) เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนยอดขายในกลุ่มประเทศอาเซียน และหนุนยอดขายรวมของบริษัทให้ทำได้ตามเป้าหมายในปี 65 ที่ตั้งเป้าเติบโต 24% จากปีก่อน หรือมาอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท ขณะที่การขยายตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียน ล่าสุดบริษัทได้นำเครื่องดื่มเข้าไปจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ในอาเซียน โดยนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตเครือ SM และอยู่ระหว่างการรอดูผลตอบรับของตลาด …
อ่านเพิ่มเติม »

ILM คาดยอดขาย Q3/65 โตต่อเนื่องหลังศก.ฟื้นหนุนกำลังซื้อ ส่งปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% : อินโฟเควสท์ILM คาดยอดขาย Q3/65 โตต่อเนื่องหลังศก.ฟื้นหนุนกำลังซื้อ ส่งปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% : อินโฟเควสท์นางกนกวรรณรัตน์ ศรีมณีศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบัญชีและการเงิน และเลขานุการ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) เปิดเผยว่า ทิศทางยอดขายในไตรมาส 3/65 คาดว่าจะมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2/65 และเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น และ ไม่มีการใช้มาตรการปิดเมือง (lockdown) เหมือนกับปีก่อน ในขณะเดียวกันภาพรวมเศรษฐกิจก็กลับมาฟื้นตัวได้อย่างดี เป็นปัจจัยหนุนให้กำลังซื้อของประชาชนฟื้นตัวตามไปด้วย ในขณะเดียวกันบริษัทยังได้มีการออกแบบสินค้าใหม่ๆให้มีความเหมาะสมแก่ความต้องการของกลุ่มลูกค้า และยังได้เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ อยู่ในระดับ B – B+ ผลกระทบเรื่องของกำลังซื้อจึงน้อยกว่ากลุ่มลูกค้ากลุ่มอื่นๆ “ด้วยสถานการณ์ต่างๆที่ปรับตัวดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง กำลังซื้อก็มีการปรับตัวดีขึ้นด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกัน การเลือกสินค้าที่เหมาะสมต่อความต้องการของลูกค้า และการปรับกลยุทธ์ในบริษัทให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จึงเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการของบริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ารายได้ทั้งปีจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 64 ที่ผ่านมา”นางกนกวรรณรัตน์ กล่าว นอกจากนี้บริษัทยังได้ตุนงานในมือ (Backlog) กว่า 900 ล้านบาท ในกลุ่มงานบ้านและคอนโดมิเนียม โดยในกลุ่มงานโครงการยังมีทิศทางการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช่วยหนุนให้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์กลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะทำให้ภาพรวม Backlog เติบโตขึ้นต่อเนื่องด้วย ด้านการเปิดสาขาใหม่ของบริษัทยังคงเป็นไปตามแผนที่มีแผนจะเปิด INDEX LIVING …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-16 03:26:20