ศาลสหรัฐสั่งจำคุกชาวนิวยอร์กผู้ขโมยความลับทางการค้า 'เจเนอรัล อิเล็กทริก' ให้จีน : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

ศาลสหรัฐสั่งจำคุกชาวนิวยอร์กผู้ขโมยความลับทางการค้า 'เจเนอรัล อิเล็กทริก' ให้จีน : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 55 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 25%
  • Publisher: 68%

ศาลสหรัฐ สั่งจำคุกชาว นิวยอร์ก ผู้ ขโมยความลับ ทางการค้า 'เจเนอรัล อิเล็กทริก' ให้ จีน สหรัฐ เจเนอรัลอิเล็กทริก เศรษฐกิจสหรัฐ เสี่ยวฉิงเจิง อินโฟเควสท์

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยว่า ชายชาวนิวยอร์กคนหนึ่งถูกตัดสินจำคุก 2 ปีในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการขโมยความลับทางการค้าของบริษัทเจเนอรัล อิเล็กทริก เพื่อผลประโยชน์ต่อจีน

กระทรวงฯ ระบุว่า นายเสี่ยวฉิง เจิง วัย 59 ปี จากเมืองนิสกายูนา รัฐนิวยอร์ก ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกระทำการจารกรรมทางเศรษฐกิจ หลังการพิจารณาคดีของคณะลูกขุนเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว นอกจากนี้ นางแมร์ ดีอาโกสติโน ผู้พิพากษาเขตของสหรัฐยังสั่งปรับนายเจิงอีก 7,500 ดอลลาร์และถูกคุมประพฤติอีก 1 ปีหลังออกจากคุก

เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า รัฐบาลจีนเป็นภัยคุกคามระยะยาวที่ใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของสหรัฐ และกำลังดำเนินการขโมยเทคโนโลยีที่สำคัญจากธุรกิจและนักวิจัยของสหรัฐในลักษณะที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งเบื้องต้นจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงฯ เผยว่า นายเจิงทำงานอยู่ที่บริษัทจีอี พาวเวอร์ ในเมืองสเกอเนคเทอดี รัฐนิวยอร์กในตำแหน่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการซีลกังหัน โดยเขาทำงานที่จีอีมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงช่วงฤดูร้อนปี 2561

กระทรวงฯ เสริมว่า หลักฐานในการพิจารณาคดีแสดงให้เห็นว่า นายเจิงและพรรคพวกในประเทศจีนสมรู้ร่วมคิดกันวางแผนขโมยความลับทางการค้าของจีอีเกี่ยวกับเทคโนโลยีกังหันที่ใช้สำหรับภาคพื้นดินและการบิน เพื่อผลประโยชน์ต่อจีน รวมถึงบริษัทและมหาวิทยาลัยในจีนที่ทำการวิจัยและผลิตชิ้นส่วนสำหรับกังหัน

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

'อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะเคาะมาตรการรับทัวร์จีนพรุ่งนี้ นายกฯสั่งเน้นสมดุล : อินโฟเควสท์'อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะเคาะมาตรการรับทัวร์จีนพรุ่งนี้ นายกฯสั่งเน้นสมดุล : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (5 ม.ค.65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข จะเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการต่างประเทศ การประชุมจะหารือถึงมาตรการต่างๆ ที่แต่ละหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมรับกรณีมีผู้เดินทางมาจากจีนมากขึ้น หลังทางการจีนได้มีนโยบายทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.66 เป็นต้นไป ซึ่งนายอนุทินจะได้ชี้แจงถึงภาพรวมนโยบายของรัฐบาล และหารือเพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานของแต่ละหน่วยงานอย่างรอบด้านและรัดกุม ให้ประเทศไทยสามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง พร้อมไปกับการเฝ้าระวังโรคอย่างมีประสิทธิภาพ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ให้แนวทางไว้ตั้งแต่ได้รับรายงานกรณีที่ทางการจีนจะผ่อนคลายการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการวางมาตรการรองรับ และประสานการทำงานอย่างรอบด้าน เนื่องจากคาดว่าผู้เดินทางจากจีนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะต่อไป ให้มีการดูแลอย่างสมดุลระหว่างการฟื้นฟูเศรษฐกิจและควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว สำหับวาระการประชุมในวันที่ 5 ม.ค.65 จะมีการพิจารณาในหลายหัวข้อ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุขจะเสนอมาตรการด้านสาธารณสุขในการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางจากประเทศจีน และการรายงานถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกในปัจจุบัน ส่วนหน่วยงานอื่นๆ จะรายงานการเตรียมความพร้อมในแต่ละด้าน ประกอบด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานการเตรียมความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย […]
อ่านเพิ่มเติม »

ผู้เชี่ยวชาญชี้ออสเตรเลียเสี่ยงถูกลากเข้าสู่สงครามหากยังเป็นลิ่วล้อให้สหรัฐ : อินโฟเควสท์ผู้เชี่ยวชาญชี้ออสเตรเลียเสี่ยงถูกลากเข้าสู่สงครามหากยังเป็นลิ่วล้อให้สหรัฐ : อินโฟเควสท์นายจอห์น เมนาดู อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีของออสเตรเลียกล่าวว่า ออสเตรเลียอาจถูกลากเข้าสู่สงคราม หากยังคงทำหน้าที่เป็น “ลิ่วล้อ” ให้กับสหรัฐ ทั้งนี้ นายเมนาดูแสดงความเห็นดังกล่าวในบทความที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์ม Pearls and Irritations ที่หารือด้านนโยบายสาธารณะ นายเมนาดู อดีตเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำญี่ปุ่น และปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการของแพลตฟอร์ม Pearls and Irritations กล่าวว่า “ผู้นำทางทหารและกลาโหมของเราจำเป็นต้องพึ่งกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ซีไอเอ และเอฟบีไอเพื่อขอคำแนะนำอย่างมาก เราทำหน้าที่เป็นสำนักงานสาขาของพวกเขา” นายเมนาดูเตือนถึงอันตรายในการทำตามสหรัฐว่า ออสเตรเลียปล่อยให้ตนเองถูกลากเข้าสู่สงครามระหว่างจักรวรรดิของอังกฤษและสหรัฐครั้งแล้วครั้งเล่า และระบุว่า “กว่าสองศตวรรษที่สหรัฐได้ล้มล้างและโค่นล้มรัฐบาลจำนวนมาก ทั้งยังมีความซับซ้อนทางทหารและธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับสงครามเพื่ออิทธิพลและความมั่งคั่ง” นายเมนาดูกล่าวว่า เอกราชและความเป็นอิสระของออสเตรเลียกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก เนื่องจากผู้มีอำนาจในรัฐบาลออสเตรเลียมีแนวคิดว่า การทำงานร่วมกันกับสหรัฐเป็นเหมือน “จอกศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งเขาก็กล่าวเตือนอีกด้วยว่า “สหรัฐปฏิบัติตามกฎสากลเฉพาะเมื่อตนได้รับผลประโยชน์ด้วยเท่านั้น” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

BAY ให้กรอบบาทสัปดาห์นี้ 34.10-34.75 จับตาเงินเฟ้อไทย-ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ : อินโฟเควสท์BAY ให้กรอบบาทสัปดาห์นี้ 34.10-34.75 จับตาเงินเฟ้อไทย-ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ : อินโฟเควสท์กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.10-34.75 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.53 บาท/ต่อดอลลาร์ สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า ตลาดจะติดตามข้อมูลภาคการผลิต ภาคบริการ การจ้างงานเดือน ธ.ค.ของสหรัฐฯ และรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 13-14 ธ.ค. ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อประเมินทิศทางภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป ขณะที่นักลงทุนเตรียมรับภาวะถดถอยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้หลังเฟดคุมเข้มนโยบายการเงินแบบเชิงรุกเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ตลาดจะจับตาสถานการณ์ในจีนหลังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคอย่างรวดเร็ว ทางด้านเงินเยนอาจได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ของผู้ร่วมตลาดที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ แม้บีโอเจระบุว่ายังคงสนับสนุนให้มีการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษต่อไปก็ตาม ส่วนปัจจัยในประเทศ คาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและพื้นฐานเดือน ธ.ค.ของไทยจะขยับสูงขึ้น ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ย.พลิกขาดดุล 0.4 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวจากแรงส่งภาคบริการตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและการบริโภคภาคเอกชน แต่ยังมีปัจจัยฉุดรั้งจากเศรษฐกิจโลกที่จะกระทบการส่งออก อนึ่ง ในระยะนี้ เราคาดว่าตลาดจะติดตามมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการกลับมาต้อนรับผู้เดินทางจากจีนอีกครั้ง โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ม.ค. 66) Facebook […]
อ่านเพิ่มเติม »

เคาะเกณฑ์ต่ออายุขึ้นทะเบียนตำรับยา เพิ่มโอกาสแข่งขัน : อินโฟเควสท์เคาะเกณฑ์ต่ออายุขึ้นทะเบียนตำรับยา เพิ่มโอกาสแข่งขัน : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงการต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยา พ.ศ…. ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ซึ่งเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอต่ออายุ และการอนุญาตให้ต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยา เพื่อรองรับการสิ้นอายุใบสำคัญฯ เช่น ระยะเวลาการยื่นคำขอต่ออายุที่ผู้รับใบสำคัญฯ ต้องยื่นคำขอต่ออายุภายใน 1 ปี ก่อนวันที่ใบสำคัญฯ จะสิ้นอายุ กำหนดเอกสารหลักฐานในการยื่น ขั้นตอนและการดำเนินการของผู้อนุญาต และการให้ดำเนินการยื่นคำขอต่ออายุ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก เป็นต้น ก่อนหน้านี้ ใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยา จะมีอายุตราบเท่าที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ยังคงเป็นผู้ผลิต หรือนำ หรือสั่งยา เข้ามาในราชอาณาจักร หากไม่ได้ดำเนินการดังกล่าวเป็นเวลา 2 ปี ให้ทะเบียนตำรับยานั้นเป็นอันยกเลิก แต่ปัจจุบันได้มีการแก้ไขอายุใบสำคัญฯ โดย พ.ร.บ. ยา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2562 ซึ่งกำหนดให้สิ้นอายุเมื่อครบ 7 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญฯ ส่วนใบสำคัญฯ ที่ออกให้ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ให้ทยอยสิ้นอายุ ดังนี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »

แบงก์ชาติเกาหลีใต้ พร้อมงัดมาตรการต่าง ๆ เพื่อพยุงเศรษฐกิจซอฟต์แลนดิ้ง : อินโฟเควสท์แบงก์ชาติเกาหลีใต้ พร้อมงัดมาตรการต่าง ๆ เพื่อพยุงเศรษฐกิจซอฟต์แลนดิ้ง : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (3 ม.ค.) ว่า นายรี ชาง-ยอง ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) กล่าวว่า BOK จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง (soft landing) ท่ามกลางสภาวะที่ไม่แน่นอนทั้งภายในประเทศและภายนอก นายรี เปิดเผยระหว่างกล่าวปราศรัยในกิจกรรมงานวันปีใหม่ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐบาล ฝ่ายนิติบัญญัติ และตัวแทนบริษัทและหน่วยงานด้านการเงินต่าง ๆ เข้าร่วมว่า BOK และรัฐบาลเกาหลีใต้จะร่วมมือกันและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อออกนโยบายที่ซับซ้อนเพื่อให้เศรษฐกิจเกาหลีใต้เข้าสู่ภาวะซอฟต์แลนดิ้งในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทั้งภายในและภายนอกประเทศ นายรีกล่าวว่า BOK จะพุ่งเป้าไปที่การเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของตลาดเงินและตลาดปริวรรตเงินตรา ควบคู่ไปกับการคงจุดยืนของนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านราคาเอาไว้ BOK จะจัดการประชุมเพื่อตัดสินใจเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปี 2566 ในวันที่ 13 ม.ค. นี้ โดยก่อนหน้านี้ได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือน ส.ค. 2564 รวมทั้งสิ้น 2.75% สู่ระดับ 3.25% “ธนาคารกลางเกาหลีใต้จะดำเนินมาตรการเชิงรุกในกรณีที่จำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดผ่านการสื่อสารและการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานในภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง” นายรี กล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE […]
อ่านเพิ่มเติม »

CH จ่อออกสินค้าใหม่รอรับนักท่องเที่ยวจีน-ปูพรมตลาดอาเซียนปั๊มยอดขายปี 66 โต 10% : อินโฟเควสท์CH จ่อออกสินค้าใหม่รอรับนักท่องเที่ยวจีน-ปูพรมตลาดอาเซียนปั๊มยอดขายปี 66 โต 10% : อินโฟเควสท์นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจริญอุตสาหกรรม (CH) เปิดเผยว่า ตามที่จีนเปิดประเทศให้ประชาชนออกมาเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้ นับเป็นข่าวดีและถือเป็นของขวัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยและภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร โรงพยาบาล สายการบิน บริษัททัวร์ รวมถึงสินค้าของฝากและของที่ระลึก โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะทยอยเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะธุรกิจของฝากและของที่ระลึก CH ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป ภายใต้แบรนด์บริษัท ( Bangkok Tasty ) และภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (OEM) ได้กำหนดมาตรการไว้รอต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีนไว้ 3 แนวทาง ได้แก่ 1. เพิ่มกำลังการผลิตผลไม้อบแห้ง โดยเฉพาะมะม่วง แบรนด์ Bangkok Tasty ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทฯ ที่มีเนื้อสัมผัสใกล้เคียงกับมะม่วงสดมากที่สุด รสชาติอร่อย ดีต่อสุขภาพ และเป็นผลไม้ที่ชาวจีนชื่นชอบและนิยมซื้อเป็นของฝาก 2. เพิ่มการรับผลิตผลไม้อบแห้ง ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (OEM) สำหรับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ๆ ที่ขณะนี้เริ่มมีการติดต่อและออเดอร์ทยอยเข้ามาบ้างแล้ว และ 3. การพัฒนาและออกสินค้าใหม่ที่หลากหลายอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนการขยายตลาดสินค้าของฝากของที่ระลึกให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจุดหมายปลายทางแหล่งพักผ่อนยอดนิยมสุดฟินของนักท่องเที่ยวจีนในแต่ละภูมิภาค […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-21 20:35:38