ศก.ฟื้น-โควิดคลี่คลาย หนุนยอดใช้พลังงานสูงขึ้น LPG NGL NGV ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซโซลีนธรรมชาติ น้ำมัน พลังงาน สนพ อินโฟเควสท์
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์พลังงานในช่วง 9 เดือนของปี 65 พบว่า การใช้พลังงานขั้นต้นเพิ่มขึ้น 3% จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น รวมถึงมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มากขึ้น
– การใช้ LPG โพรเพน และบิวเทน เพิ่มขึ้น 8.0% อยู่ที่ระดับ 18.2 พันตันต่อวัน โดยการใช้ LPG เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งมีสัดส่วนการใช้สูงสุดคิดเป็น 45% มีการใช้เพิ่มขึ้น 8.6% รองลงมาภาคครัวเรือนซึ่งมีสัดส่วนการใช้คิดเป็น 31% มีการใช้เพิ่มขึ้น 1.8% ภาคขนส่งมีสัดส่วน 13% มีการใช้เพิ่มขึ้น 37.8% ภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีสัดส่วน 10% มีการใช้เพิ่มขึ้น 3.1% ในขณะที่การใช้เอง ซึ่งมีสัดส่วน 1% มีการใช้ลดลง 44.
– การใช้ ถ่านหิน/ลิกไนต์ เพิ่มขึ้น 8.95 อยู่ที่ระดับ 15,041 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ จากการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น 10.9% และการใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 3.9% ส่วนการใช้ลิกไนต์ ลดลง 1.4% ทั้งนี้ 95% ของการใช้ลิกไนต์เป็นการใช้ในการผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ส่วนที่เหลือ 5% นำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม
สำหรับแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานของประเทศปี 65 คาดว่าจะความต้องการพลังงานขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 2,056 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับปี 64 สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัว
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคพ.ย.ฟื้น 6 เดือนติด สูงสุดรอบ 20 เดือน : อินโฟเควสท์นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนพ.ย.65 อยู่ที่ 47.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือนนับตั้งแต่เดือนเม.ย.64 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 42.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำ อยู่ที่ 45.2 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 56.4 โดยปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น มาจาก สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เผย GDP ไตรมาส 3/65 ขยายตัวได้ 4.5% พร้อมทั้งคาดการณ์ GDP ทั้งปีนี้จะขยายตัวได้ 3.2% ขณะที่คาดว่าปี 66 GDP จะขยายตัวได้ 3-4% เป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากระดับราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง, ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น, เงินบาทแข็งค่า และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน และเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคให้ดีขึ้น ส่วนปัจจัยลบสำคัญ ได้แก่ ผู้บริโภคยังกังวลว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้า ตลอดจนปัญหาค่าครองชีพสูง รายได้ไม่พอกับรายจ่าย, คณะกรรมการนโยบายการเงิน …
อ่านเพิ่มเติม »
เปิดแผนปี 66 กนอ. ตั้งเป้ายอดขาย-เช่า 2.5 พันไร่ มองศก.ฟื้น-ทั่วโลกย้ายการลงทุน : อินโฟเควสท์นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในปี 66 กนอ. ได้ตั้งเป้ายอดขาย/เช่าพื้นที่ไว้ที่ 2,500 ไร่ เนื่องมาจากปัจจัยสำคัญ อาทิ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ทิศทางการเคลื่อนย้ายการลงทุนที่เกิดขึ้นทั่วโลก ประกอบกับแนวทางการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. ซึ่งได้รับความสนใจทั้งจากผู้ประกอบการและภาคเอกชน ในการร่วมจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม สำหรับผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณ 65 มีการดำเนินโครงการตามนโยบายรัฐบาลในโครงการสำคัญ อาทิ 1. โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่1) ล่าสุดความคืบหน้าการก่อสร้างอยู่ที่ 30.33 % โดยเป็นงานถมทะเลและขุดลอกร่องน้ำ ขณะที่โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 2) ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือสินค้าเหลว 200 ไร่ (แปลง A) และคลังสินค้าหรือธุรกิจเกี่ยวเนื่อง 150 ไร่ (แปลง C) มีการทำ Market Sounding เพื่อนำผลที่ได้มาปรับปรุงเอกสารก่อนประกาศเชิญชวน โดยล่าสุดได้มีการประกาศเชิญชวนครั้งที่ 2 ไปแล้วเมื่อวันที่ …
อ่านเพิ่มเติม »
สุชาติ เตือนเพื่อไทย หาเสียงคิดถึงหายนะ ศก. เหมือนโยนระเบิดเวลาให้ภาคธุรกิจสุชาติ เตือนเพื่อไทย หาเสียงคิดถึงหายนะ ศก. เหมือนโยนระ …
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 3.83 จุด แกว่งแคบไร้ปัจจัยใหม่ รอเงินเฟ้อสหรัฐ-เฟดสัปดาห์หน้า : อินโฟเควสท์ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ 1,629.14 จุด ลดลง 3.83 จุด (-0.23%) มูลค่าการซื้อขายราว 25,475 ล้านบาท การซื้อขายในช่วงเช้านี้ แกว่งตัวแคบๆ ทั้งในแดนบวกและลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,636.15 จุด และต่ำสุด 1,628.81 จุด นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาแกว่งในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน หลังตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในเดือน พ.ย.ออกมาชะลอตัวลงเป็นไปตามคาดการณ์ ทำให้ตลาดฯไม่ได้ตอบรับกับประเด็นดังกล่าวมากนัก รวมถึงค่าเงินบาทก็อ่อนค่าส่งผลให้เงินทุนต่างชาติไหลออก อีกทั้งคาดว่านักลงทุนยังอยู่ระหว่างรอติตดามการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในฝั่งสหรัฐ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า แนวโน้มช่วงบ่าย คาดแกว่งตัวแคบๆ คล้ายกันกับช่วงเช้า โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,625 จุด และแนวต้าน 1,640 จุด ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,750.44 ล้านบาท ปิดที่ 32.50 บาท …
อ่านเพิ่มเติม »
จีนส่งออก-นำเข้าเดือนพ.ย.ต่ำกว่าคาด เหตุดีมานด์ชะลอตัว-ผลกระทบล็อกดาวน์ : อินโฟเควสท์สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ (7 ธ.ค.) ว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย.หดตัวลง 8.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าอาจลดลง 3.5% หลังจากที่ขยับลง 0.3% ในเดือนต.ค. โดยยอดส่งออกของจีนได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัวลง ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนพ.ย.ร่วงลง 10.6% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจลดลง 6% หลังจากที่ปรับตัวลง 0.7% ในเดือนต.ค. โดยยอดนำเข้าของจีนได้รับแรงกดดันจากการอุปโภคบริโภคที่ทรุดตัวลงภายในประเทศ อันเป็นผลมาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนพ.ย.ที่ 6.984 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.81 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่มียอดเกินดุลในเดือนต.ค.ที่ระดับ 8.515 หมื่นล้านดอลลาร์ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
วิเคราะห์ชี้วิกฤตพลังงานฉุดเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ช่วงเลวร้ายสุดในรอบ 30 ปี : อินโฟเควสท์บลูมเบิร์ก อีโคโนมิกส์เปิดเผยรายงานการวิเคราะห์ฉบับใหม่ระบุว่า เศรษฐกิจโลกกำลังจะเผชิญกับปีที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 30 ปี เนื่องจากวิกฤตการณ์พลังงานที่เป็นผลมาจากสงครามในยูเครนนั้น ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นายสกอตต์ จอห์นสัน นักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์ก อีโคโนมิกส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวเพียง 2.4% ในปี 2566 ซึ่งลดลงจากปี 2565 ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.2% และจะเป็นอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2536 โดยไม่นับรวมวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปี 2552 และ 2563 อย่างไรก็ตาม ทิศทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศยังแตกต่างกัน โดยเศรษฐกิจของยูโรโซนจะเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงต้นปี 2566 และเศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยในช่วงปลายปี 2566 ซึ่งสวนทางกับเศรษฐกิจจีนที่คาดว่าจะขยายตัวมากกว่า 5% โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลมีแนวโน้มยุตินโยบายโควิดเป็นศูนย์เร็วกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งการใช้มาตรการฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ นายจอห์นสันยังกล่าวด้วยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่แตกต่างกันนี้จะเห็นได้จากการดำเนินนโยบายการเงินที่สวนทางกัน โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารต่าง ๆ ในยุโรปต่างก็ใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเป็นเวลานานนับปี ขณะที่จีนยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ “ในสหรัฐนั้น การปรับตัวขึ้นของค่าจ้างจะทำให้เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย ซึ่งทำให้เราคาดว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนแตะระดับสูงสุดที่ 5% และจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวจนถึงไตรมาส 1 ของปี 2567 ส่วนในยูโรโซนนั้น การชะลอตัวลงของเงินเฟ้อจะทำให้อัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดปรับตัวลดลง และมีแนวโน้มที่จะทำให้ธนาคารกลางยุโรปปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี …
อ่านเพิ่มเติม »