ไม่เร่งขยายสินเชื่อจนเกินไป เนื่องจากสินเชื่อขยายตัว 5% QoQ และ 7% YTD ใน 2Q66 บริษัทจึงยังคงเป้าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อปี 2566 เอาไว้เท่าเดิมที่ 10-20%
ซึ่งหมายความว่าโมเมนตัมการเติบโของสินเชื่อในงวด 2H66 จะอยู่ในระดับปานกลาง สอดคล้องกับการที่ไม่มีการขยายสาขาเพิ่มในงวด 1H66 และไม่มีแผนจะเร่งขยายสาขาในงวด 2H66 ทั้งนี้ ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น แต่ไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนั้น มาร์จิ้น ใน 2H66 จึงน่าจะลดลงประมาณ 20-30bps HoHบริษัทสามารถเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมได้ประมาณ 28% YoY ซึ่งเร็วกว่าที่วางแผนเอาไว้ที่ 20-25% ในขณะเดียวกัน การเร่งเพิ่มจำนวนพนักงานขายทางโทรศัพท์ หรือ telesales และการเร่งเพิ่มจำนวนตัวแทน...
1% ในงวด 1H66 และสัดส่วน NPL coverage ยังอยู่ในระดับสูงที่ 260% ดังนั้น เราจึงมองว่า TIDLOR น่าจะสามารถลด credit cost ลงได้ใน 2H66 เต็มปีเอาไว้ที่ 3.3-3.5%)ขยับไปใช้ราคาเป้าหมายใหม่ และ de-rate PE เหลือ 16.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี CHG - แนวโน้มท้าทายเราคาดกำไรของ CHG จะแข็งแกร่งขึ้น hoh ใน 2H แต่กำไรปี FY23F ก็ยังอาจจะต่ำกว่าประมาณการเดิมของเรา ซึ่งถูกกดดันจากผลขาดทุนของโรงพยาบาลจุฬารัตน์แม่สอดที่เพิ่งเปิดใหม่
อ่านเพิ่มเติม »
โปรแกรมกีฬา โปรแกรมมวย วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2566โปรแกรมการแข่งขันกีฬาในประเทศ และ ต่างประเทศ พร้อม ช่องถ่ายทอดสดกีฬา วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2566
อ่านเพิ่มเติม »
วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.โกลเบล็ก TNP กำไร 2Q66 โตดีในทิศทางเดียวกับที่คาดงวด 2Q66 มีกำไร 37.8 ลบ. +10.5%YoY +4.4%QoQ ในทิศทางเดียวกับที่คาด: งวด 2Q66 บริษัทมีรายได้จากการขาย 643.8 ลบ. +11.2%YoY +3.6%QoQ เติบโตแม้จะไม่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหมือนปีก่อน
อ่านเพิ่มเติม »
วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ ORI ผลประกอบการ 2Q66: กำไรมาตามคาดโดยรวมกำไรพิเศษแล้วORI มีกำไรสุทธิใน 2Q66 ที่ 873 ลบ. ใกล้เคียงกับเราคาดไว้ที่ 872 ลบ.แต่สูงกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 849 ลบ. ขณะที่ ธุรกิจหลักด้านอสังหา ฯ อ่อนตัวตามยอดโอน (transfer) ที่อยู่อาศัยล่าช้า
อ่านเพิ่มเติม »
TIDLOR แกร่งกำไร Q2/66 ทะลุ 927 ลบ. ชูคุม NPL และ Credit Cost ได้ดี : อินโฟเควสท์นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 บริษัทยังคงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจนายหน้าประกันภัยและธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 927 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของพอร์ตสินเชื่อรวมและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายและสภาวะตลาด ด้านผลการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัยยังคงสามารถสร้างเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง โดยไตรมาส 2/2566 ค่าเบี้ยประกันวินาศภัยเติบโตเพิ่มขึ้น 28.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะจากช่องทางดิจิทัล ทั้งออนไลน์และแพลตฟอร์มอารีเกเตอร์ และยังคงเป้าการเติบโตเบี้ยประกันภัยวินาศภัยที่ 20%-25% สำหรับผลการดำเนินงานด้านสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันในไตรมาส 2/66 มียอดสินเชื่อคงค้างรวม อยู่ที่ 87,245 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 23.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และยังคงเป้าการเติบโตทั้งปีที่ 10-20% โดยยังคงดำเนินนโยบายพิจารณาการปล่อยสินเชื่อที่เหมาะสมและยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน พร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้ในการยกระดับด้านบริการให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในปัจจุบัน ขณะที่บัตรติดล้อ (TIDLOR Card) หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการเติบโตทางธุรกิจนั้น ยังคงมีปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของลูกค้าสินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง และรถกระบะ โดยในเดือนมิถุนายน 2566 ได้มีการออกบัตรติดล้อให้ลูกค้าแล้วกว่า 576,000 ใบ นอกจากนี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »