ลูกหลานโอมิครอน BA.2.75 เพิ่มสูงขึ้น ตรวจพบจาก 23.6% เป็น 42.9% ส่วน XBB พบในไทย 13 คน BQ.1 พบแล้ว 9 คน กรมวิทย์ฯ ยังไม่พบสัญญาณความรุนแรง แต่อาจทำให้แพร่เร็ว-ติดเชื้อง่ายขึ้น . คลิกอ่านข่าว : . ข่าวออนไลน์7HD Ch7HDNews ข่าวช่อง7HD
ลูกหลานโอมิครอน BA.2.75 เพิ่มสูงขึ้น ตรวจพบจาก 23.6% เป็น 42.9% ส่วน XBB พบในไทย 13 คน BQ.1 พบแล้ว 9 คน กรมวิทย์ฯ ยังไม่พบสัญญาณความรุนแรง แต่อาจทำให้แพร่เร็ว-ติดเชื้อง่ายขึ้น
ลูกหลานโอมิครอน โควิดกลายพันธุ์ วันนี้ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิดกลายพันธุ์ ว่า สถานการณ์ระบาดของโควิด นำไปสู่การกลายพันธุ์ภายในสายพันธุ์เดียวกันอย่างต่อเนื่อง ในไทยโอมิครอนยังเป็นสายพันธุ์หลัก ข้อมูลล่าสุดที่กรมวิทย์ฯ ร่วมกับเครือข่ายตรวจเฝ้าระวัง ระหว่างวันที่ 12-18 พ.ย.65 พบสัดส่วนของ BA.2.75 เพิ่มขึ้นเป็น 42.9% จากสัปดาห์ก่อนที่มีสัดส่วน 23.6% เมื่อแยกตามกลุ่มพบว่า การติดเชื้อในประเทศจาก 23.2% เพิ่มเป็น 43.
จากการถอดรหัสพันธุกรรมแบบทั้งตัว พบสายพันธุ์ BA.2.75 และลูกหลานของ BA.2.75 เช่น BA.2.75.2, BA.2.75.5.1 , BA.2.75.1.2 จำนวนมากกว่า 138 คน นอกจากนี้ยังพบสายพันธุ์ BQ.1 ที่ระบาดในอเมริกาและยุโรป จำนวน 9 คน ส่วนสายพันธุ์ XBB ที่ระบาดมากในสิงคโปร์ พบจำนวน 13 คน ทั้งนี้ยังไม่พบสัญญาณความรุนแรงของเชื้อที่กลายพันธุ์ แต่อาจทำให้มีการแพร่และติดเชื้อง่ายขึ้น
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์ BA.2.75 ตรวจพบครั้งแรกในอินเดีย เมื่อเดือนพ.ค. 65 และได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้สายพันธุ์ BA.2.75 มีการกลายพันธุ์บนโปรตีนหนาม ซึ่งจับกับตัวรับในเซลล์ของมนุษย์ และเกี่ยวข้องกับการหลบภูมิคุ้มกัน การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบ่งชี้ว่าอาจมีข้อได้เปรียบในการแพร่ระบาด โดยในประเทศไทยรายงาน BA.2.75 ครั้งแรกเมื่อปลายเดือน มิ.ย. 65