น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนจะถูกมิจฉาชีพหลอกลวง แม้จะมีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา แต่มิจฉาชีพจะปรับเปลี่ยนรูปแบบกลโกงให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ทำให้ยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินให้กับมิจฉาชีพ ซึ่งจากรายงานของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พบว่า 70% ของข่าวสารที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย คือ ข่าวปลอม ทั้งนี้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนได้รู้ทันข่าวปลอมผ่านสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะบนเฟซบุ๊ก ทางกระทรวงดีอีเอสจึงแนะนำให้ประชาชนสังเกตจุดสำคัญ 10 ข้อที่มีลักษณะเป็นข่าวปลอม ดังนี้ 1.สงสัยข้อความพาดหัว : ข่าวปลอมมักมีข้อความพาดหัวที่ดึงดูดความสนใจ โดยใช้ตัวหนังสือเด่นๆ และเครื่องหมายอัศเจรีย์ หากข้อความพาดหัวที่น่าตื่นตระหนกฟังดูไม่น่าเชื่อถือ ข่าวนั้นน่าจะเป็นข่าวปลอม 2.สังเกตที่ URL : URL หลอกลวง หรือดูคล้ายอาจเป็นสัญญาณของข่าวปลอมได้ เว็บไซต์ข่าวปลอมจำนวนมากเปลี่ยนแปลง URL เพียงเล็กน้อยเพื่อเลียนแบบแหล่งข่าวจริง เราอาจไปที่เว็บไซต์เพื่อเปรียบเทียบ URL กับแหล่งข่าวที่มี 3.สังเกตแหล่งที่มา : ตรวจดูให้แน่ใจว่าเรื่องราวเขียนขึ้นโดยแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือและมีชื่อเสียงด้านความถูกต้อง หากเรื่องราวมาจากองค์กรที่ชื่อไม่คุ้นเคย ให้ตรวจสอบที่ส่วน “เกี่ยวกับ” เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม 4.มองหาการจัดรูปแบบที่ไม่ปกติ : เว็บไซต์ข่าวปลอมจำนวนมากมักมีการสะกดผิดหรือวางเลย์เอาต์ไม่ปกติ โปรดอ่านอย่างระมัดระวังหากเราเห็นสัญญาณเหล่านี้ 5.พิจารณารูปภาพ : เรื่องราวข่าวปลอมมักมีรูปภาพหรือวิดีโอที่ไม่เป็นความจริง บางครั้งรูปภาพอาจเป็นรูปจริง […]
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนจะถูกมิจฉาชีพหลอกลวง แม้จะมีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา แต่มิจฉาชีพจะปรับเปลี่ยนรูปแบบกลโกงให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ทำให้ยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินให้กับมิจฉาชีพ ซึ่งจากรายงานของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่า 70% ของข่าวสารที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย คือ ข่าวปลอม
ทั้งนี้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนได้รู้ทันข่าวปลอมผ่านสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะบนเฟซบุ๊ก ทางกระทรวงดีอีเอสจึงแนะนำให้ประชาชนสังเกตจุดสำคัญ 10 ข้อที่มีลักษณะเป็นข่าวปลอม ดังนี้ข่าวปลอมมักมีข้อความพาดหัวที่ดึงดูดความสนใจ โดยใช้ตัวหนังสือเด่นๆ และเครื่องหมายอัศเจรีย์ หากข้อความพาดหัวที่น่าตื่นตระหนกฟังดูไม่น่าเชื่อถือ ข่าวนั้นน่าจะเป็นข่าวปลอมURL หลอกลวง หรือดูคล้ายอาจเป็นสัญญาณของข่าวปลอมได้ เว็บไซต์ข่าวปลอมจำนวนมากเปลี่ยนแปลง URL เพียงเล็กน้อยเพื่อเลียนแบบแหล่งข่าวจริง...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
'ซิลเวอร์เกต' สั่งระงับเครือข่ายชำระเงินคริปโทฯ ราคาหุ้นร่วงหลังปิดตลาด : อินโฟเควสท์ซิลเวอร์เกต แคปิตอล คอร์ป เปิดเผยในวันศุกร์ (3 มี.ค.) ว่า บริษัทได้ตัดสินใจที่จะระงับเครือข่ายการชำระเงินคริปโท (Silvergate Exchange Network – SEN) หลังจากพิจารณาจากความเสี่ยงต่าง ๆ และหลังจากที่ซิลเวอร์เกตซึ่งดำเนินธุรกิจธนาคารด้านสินทรัพย์ดิจิทัลแสดงความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความอยู่รอดของบริษัท ซิลเวอร์เกตระบุในแถลงการณ์ที่โพสต์บนเว็บไซต์ของบริษัทว่า “ซิลเวอร์เกต แบงก์ ได้ตัดสินใจโดยพิจารณาจากความเสี่ยงที่จะระงับเครือข่าย SEN โดยมีผลบังคับใช้ทันที ขณะที่บริการที่เกี่ยวกับการฝากเงินอื่น ๆ ทั้งหมดยังคงดำเนินการได้” เครือข่าย SEN เป็นหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของซิลเวอร์เกต โดยการโอนเงินระหว่างนักลงทุนและตลาดคริปโทฯ ต่าง ๆ สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งต่างจากเครือข่ายของธนาคารดั้งเดิมซึ่งมักต้องใช้เวลาหลายวันในการโอนเงิน ทั้งนี้ ราคาหุ้นซิลเวอร์เกตร่วงลงมากกว่า 2% ในวันศุกร์นอกเวลาทำการซื้อขายหลังปิดตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซิลเวอร์เกตได้แจ้งเตือนเมื่อวันพุธ (1 มี.ค.) ว่า บริษัทกำลังประเมินความสามารถในการดำเนินธุรกิจ โดยเปิดเผยว่า บริษัทได้ขายตราสารหนี้เพิ่มเติมในปีนี้ในราคาที่ขาดทุน และการขาดทุนมากขึ้นนั้นอาจจะทำให้บริษัทมีเงินทุนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: กกต. ออกประกาศแบ่งเขตใหม่ หลังศาลรธน.มีมติไม่นับรวมต่างด้าว : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกประกาศการกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมีใหม่ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ให้นำจำนวนคนต่างด้าวมาใช้ในการคำนวณ ส.ส. ดังนั้นทางสำนักงานกกต. จึงได้เสนอให้กกต.พิจารณากำหนดจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตกรณีใช้จำนวนราษฎรสัญชาติไทย โดยพิจารณาจากจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งมีจำนวน 65,106,481 คน จึงมีจำนวนราษฎรโดยเฉลี่ยประมาณ 162,766 คน ต่อจำนวนส.ส. 1 คน ซึ่งกกต.มีมติเห็นชอบและจะจัดทำและประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างน้อย 3 รูปแบบ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัดเป็นเวลา 10 วัน ในระหว่างวันที่ 4-13 มีนาคม 66 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี เพื่อเป็นการเตรียมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีขึ้น ดังนี้ 1. จำนวนราษฎรสัญชาติไทยทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565มีจำนวน 65,106,481 คน 2. จำนวนราษฎรโดยเฉลี่ย 162,766 คน ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งคน 3. จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ที่คำนวณเฉพาะราษฎรสัญชาติไทย […]
อ่านเพิ่มเติม »
KBANK ให้กรอบบาทสัปดาห์หน้า 34.40-35 จับตาเงินเฟ้อไทย-ถ้อยแถลงปธ.เฟด : อินโฟเควสท์ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (6-10 มี.ค.) ที่ระดับ 34.40-35.00 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดวันศุกร์ 3 มี.ค. 66 ที่ระดับ 34.68 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จากสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 7-8 มี.ค. นี้ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของไทย ทิศทางเงินลงทุนของต่างชาติและสกุลเงินเอเชีย ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน จาก ADP เดือนก.พ. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางออสเตรเลีย รวมถึงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค.-ก.พ. ดัชนีราคาผู้บริโภค และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.พ. ของจีนด้วยเช่นกัน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทเคลื่อนไหวอย่างผันผวน โดยอ่อนค่าในช่วงแรก ก่อนพลิกแข็งค่ากลาง-ปลายสัปดาห์ ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าไปที่ 35.39 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือน โดยมีปัจจัยลบจากข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่พลิกกลับมาขาดดุลในเดือนม.ค. […]
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาล ย้ำไทยมีกม.คุมเข้มร้านอาหารใส่กัญชา หลังมีคำเตือนต่างชาติให้ระวัง : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่มีรายงานข่าวระบุถึงกรณีทางการของต่างประเทศได้มีคำเตือนประชาชนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยให้ระมัดระวังการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาที่อาจพบได้โดยทั่วไปนั้น ขอชี้แจงว่ารัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินดูแลและควบคุมในเรื่องนี้อย่างรัดกุม มีกฎหมายกำหนดให้ร้านอาหารทุกแห่งที่จำหน่ายเมนูซึ่งมีส่วนผสมของกัญชา กัญชง ต้องดำเนินการปิดป้ายแสดงให้ลูกค้าทราบอย่างจัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภครวมถึงนักท่องเที่ยวทราบและตัดสินใจเลือกได้ว่าจะรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมนั้นหรือไม่ โดยหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม จะมีโทษปรับ 50,000 บาท ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 โดยตามประกาศฯ ได้กำหนดให้ร้านอาหารที่มีการนำกัญชาหรือกัญชง มาเป็นส่วนประกอบต้องดำเนินการ ดังต่อไปนี้ 1) แสดงข้อความหรือป้ายสัญลักษณ์ว่าเป็นสถานที่จำหน่ายอาหาร ที่มีการใช้กัญชา หรือกัญชง เป็นส่วนประกอบ 2) แสดงรายการอาหารที่มีการใช้กัญชา หรือกัญชง เป็นส่วนประกอบ 3) แสดงข้อแนะนำความปลอดภัยในการบริโภค อาทิ บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ควรงดเว้นรับประทาน, ถ้ามีอาการผิดปกติ ควรหยุดรับประทานทันที รีบพบแพทย์หากมีอาการรุนแรง, รับประทานแล้วเกิดอาการง่วง ซึม ให้หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล เป็นต้น (อ่านประกาศฉบับเต็ม : […]
อ่านเพิ่มเติม »
สหภาพแรงงานญี่ปุ่นเรียกร้องปรับขึ้นค่าแรงครั้งใหญ่สุดในรอบ 25 ปี : อินโฟเควสท์สมาพันธ์สหภาพแรงงานญี่ปุ่น (Rengo) เปิดเผยว่า บรรดาสหภาพแรงงานของบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นกำลังเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าแรงมากที่สุดในรอบ 25 ปี ขณะที่เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นส่งผลกระทบต่อรายได้ของครัวเรือนทั่วประเทศ ณ วันที่ 1 มี.ค. เจ้าหน้าที่สหภาพฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้องเพื่อขอขึ้นค่าแรงรายเดือน โดยขอเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4.49% หรือ 13,338 เยน (98 ดอลลาร์ หรือราว 3,375 บาท) ต่อเดือน โดยครั้งหลังสุดที่สมาชิกสหพันธ์ฯ เรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าแรงมากกว่า 4% นั้นเกิดขึ้นในปี 2541 ทั้งนี้ การเจรจาเรื่องค่าแรงบ่งชี้ถึงความยากลำบากที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญในการขอขึ้นค่าแรงอย่างมาก ท่ามกลางภาวะที่ราคาอาหารและเชื้อเพลิงปรับตัวขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า การปรับขึ้นค่าแรงมีความสำคัญกับ BOJ ในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในการเจรจาเรื่องค่าแรงระหว่าง Rengo กับสหพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นที่เริ่มขึ้นในปลายเดือนม.ค.นั้น ทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินการเพื่อที่จะปรับขึ้นค่าแรง โดยเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะปรับขึ้นค่าแรงอย่างมากท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดยทาง Rengo เองนั้นได้ขอปรับขึ้นค่าแรงประมาณ 5% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดในรอบ 28 ปี โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มี.ค. […]
อ่านเพิ่มเติม »
นายกฯ ปลื้มสื่อนอกยกเงินบาทมีเสถียรภาพ : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยินดีที่ Financial Times สื่อดังจากอังกฤษที่นำเสนอข่าวสารด้านธุรกิจและการเงิน ลงบทความวิเคราะห์ โดย รูชีร์ ชาร์มา (Ruchir Sharma) เรื่อง The untold story of the world’s most resilient currency ซึ่งได้กล่าวถึง เงินบาทด้วยความชื่นชมในความมีเสถียรภาพและมีความยืดหยุ่นที่สุดในโลก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมมุ่งมั่นเดินหน้าฟื้นฟู และกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ประเทศไทยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว มั่นคง อย่างสมดุล จากกรณีสื่ออังกฤษด้านธุรกิจและการเงิน Financial Times ลงบทความยกให้ “เงินบาท” ของไทย เป็นสกุลเงินที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุดในโลก (World’s most resilient currency) รวมทั้งยังมีเสถียรภาพ โดยชี้ให้เห็นว่านับตั้งแต่ที่ไทยเผชิญกับวิกฤตการเงินช่วงปี พ.ศ. 2541 เงินบาทได้กลายเป็นสกุลเงินที่มีเสถียรภาพในระยะยาว และทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อน้อยที่สุดอีกด้วย และแม้ค่าเงินบาทจะแข็งค่า แต่ไทยก็สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ […]
อ่านเพิ่มเติม »