รู้ยัง! สิทธิบัตรทอง เปลี่ยน สถานพยาบาล ได้ปีละ 4 ครั้ง ผ่านแอปฯ สปสช. บัตรทอง อินโฟเควสท์
add เป็นเพื่อน เพียงสแกน QR Code หรือพิมพ์ค้นหาใช้ช่อง ID ว่า @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สถานีอนามัย ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง โรงพยาบาลของรัฐได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ชั้น 2 อาคาร B ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ในวัน-เวลาราชการ หรือโทรสายด่วน 1330เด็กเล็กใช้สูติบัตร คู่กับบัตรประจำตัวประชาชนผู้ปกครอง เลือกสถานพยาบาล หากไม่ตรงตามที่อยู่บัตรประชาชน ให้แสดงหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ 1.หนังสือรับรองของเจ้าบ้าน 2.
“ผู้มีสิทธิบัตรทอง หากย้ายที่พักอาศัย สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาล ประจำตัวได้ 4 ครั้งต่อปี ใช้สิทธิรักษาได้ทันที โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รัฐบาลพร้อมดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม มุ่งมั่นยกระดับเพิ่มสิทธิการดูแลด้านสาธารณสุขไทยให้ครอบคลุมอย่างมีคุณภาพ”
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ฟังทางนี้!! ผู้มีสิทธิบัตรทอง เปลี่ยนสถานพยาบาลง่ายๆ ผ่านแอปฯ สปสช. ได้ 4 ครั้งต่อปีงบประมาณฟังทางนี้!! ผู้มีสิทธิบัตรทอง เปลี่ยนสถานพยาบาลง่ายๆ ผ่านแอปฯ สปสช. ได้ 4 ครั้งต่อปีงบประมาณ siamrath สยามรัฐ siamrathonline สยามรัฐออนไลน์ ข่าววันนี้ สิทธิบัตรทอง บัตรทอง เปลี่ยนสถานพยาบาล สปสช.
อ่านเพิ่มเติม »
ย้ำ ผู้มีสิทธิบัตรทอง สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาล ได้ 4 ครั้งต่อปีฯรองโฆษกรัฐบาล ย้ำ ผู้มีสิทธิบัตรทอง สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาล ได้ 4 ครั้งต่อปีงบประมาณ ใช้สิทธิรักษาได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เปลี่ยนได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน สปสช.
อ่านเพิ่มเติม »
“บัตรทอง” เปลี่ยนสถานพยาบาลได้ 4 ครั้ง/ปี ใช้สิทธิรักษาได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพประชาชนและการเข้าถึงบริการภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้เพิ่มคุณภาพและบริการให้ผู้ถือบัตรทอง (บัตร 30 บาท) สามารถเข้ารับการรักษาได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อ่านเพิ่มเติม »
OR มั่นใจผลงานทั้งปีโตรับอานิสงส์เปิดประเทศ-ค่าการตลาดดีขึ้นแม้คาดราคาน้ำมันอ่อนตัว : อินโฟเควสท์นางวิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงิน บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานปี 66 จะเติบโตดีกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน โดยปี 65 มีรายได้ 793,418.24 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 10,370.40 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 1/66 ทำรายได้แล้ว 198,675.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,975.01 ล้านบาท รับอานิสงส์การเปิดประเทศช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อ้างอิงข้อมูลจาก IMF คาดการณ์ว่าปี 66 เศรษฐกิจโลก (GDP) จะขยายตัว 2.8% จากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งหนุนการบริโภค และการเปิดประเทศของจีนช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเอเชีย ขณะที่เศรษฐกิจไทยก็ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องราว 2.7-3.7% โดยหลักมาจากภาคการท่องเที่ยว โดยคาดจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 28 ล้านคน ซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่อเนื่องไปยังภาคบริโภคของภาคเอกชนที่คาดจะเติบโต 3-4% รวมถึงการส่งออกเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวจากที่เคยหดตัวไปในช่วงก่อนหน้า ทำให้มองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยน่าจะเห็นความชัดจนได้ในครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อของไทยกลับมาอยู่ในกรอบเป้าหมาย หลังผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในช่วงปลายปี 65 โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปีนี้จะอยู่ที่ 2.9% ตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลง และมาตรการอุดหนุนพลังงานที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง […]
อ่านเพิ่มเติม »
เงินบาทแนวโน้มผันผวน ลุ้นหัว-ก้อยการเมืองไทย ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ : อินโฟเควสท์ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมา เงินบาทแกว่งตัวในกรอบกว้าง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของปัจจัยหลัก 3 เรื่อง ซึ่งมาจากทั้งปัจจัยในต่างประเทศ และปัจจัยเฉพาะของไทยเอง โดย 3 เรื่องหลักๆ ที่มีผลกระทบต่อสถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และค่าเงินบาท ประกอบด้วย 1. การพลิกกลับไป-กลับมา ของมุมมองที่มีต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ 2. ทิศทางค่าเงินหยวน และมุมมองที่มีต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน และ 3. สถานการณ์ทางการเมืองของไทย โดยเฉพาะในเดือน พ.ค.66 ทั้งนี้ ความผันผวนของค่าเงินบาทในปี 2566 เพิ่มสูงขึ้นมาก และสูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย ตามหลังเพียงแค่เงินเยนของญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินในฝั่งเอเชียและสกุลเงินหลักมีความผันผวน จะเป็นตัวแปรที่มาจากเรื่องของค่าเงินดอลลาร์ฯ โดยเฉพาะแนวโน้มดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แต่คงต้องยอมรับว่า ความผันผวนของเงินบาทในปี 2566 ที่อยู่ในกรอบสูง อาจสามารถอธิบายเพิ่มเติมได้ด้วยปัจจัยเฉพาะของไทย โดยเฉพาะการแกว่งตัวของเงินบาทตามทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และปัจจัยทางการเมืองในประเทศ ซึ่งยังมีประเด็นที่ต้องติดตามหลายด้าน แม้ว่าการเลือกตั้งทั่วไปของไทยได้สิ้นสุดลงไปแล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินแนวโน้มค่าเงินบาทว่า เงินบาทจะยังคงเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบกว้าง โดยในระยะสั้น อาจปรับตัวอยู่ในช่วงประมาณ 33.80 […]
อ่านเพิ่มเติม »
'เจพีมอร์แกน' พัฒนาบริการ AI คล้าย ChatGPT ให้คำแนะนำด้านการลงทุน : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เจพีมอร์แกน เชส กำลังพัฒนาบริการซอฟต์แวร์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับแชตจีพีที (ChatGPT) โดยจะใช้นวัตกรรมใหม่ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยเลือกสรรการลงทุนสำหรับลูกค้าแต่ละราย เจพีมอร์แกนได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในเดือนนี้ โดยผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มีชื่อว่า “อินเด็กซ์จีพีที” (IndexGPT) ทั้งนี้ IndexGPT เป็นซอฟต์แวร์คลาวด์คอมพิวติงที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์และคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ความสำเร็จของ ChatGPT จากบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) เมื่อปีที่ผ่านมาได้กดดันให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ พยายามรับมือกับการมาถึงของ AI โดย ChatGPT ซึ่งใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อให้สามารถตอบคำถามได้เหมือนมนุษย์ ได้จุดชนวนการแข่งขันในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และกลุ่มผู้ผลิตชิป เนื่องจากมองว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะกลายมาเป็นนวัตกรรมพื้นฐานในอนาคต เทคโนโลยีชนิดนี้สามารถนำมาใช้ในภาคการเงิน โดยธนาคารหลายแห่ง เช่น โกลด์แมน แซคส์และมอร์แกน สแตนลีย์ ได้เริ่มต้นทดสอบการใช้งานเป็นการภายในแล้ว ซึ่งรวมถึงการช่วยเหลือให้วิศวกรของโกลด์แมน แซคส์สามารถสร้างโค้ด หรือตอบคำถามของบรรดาที่ปรึกษาทางการเงินจากมอร์แกน สแตนลีย์ อย่างไรก็ตาม นายจอช เกอร์เบน ทนายความด้านเครื่องหมายการค้าจากกรุงวอชิงตันดีซีระบุว่า เจพีมอร์แกนอาจเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่ตั้งเป้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้าย ChatGPT เพื่อให้บริการลูกค้าโดยตรง “นี่คือเครื่องบ่งชี้สำคัญว่า เจพีมอร์แกนอาจมีผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้” “บริษัทอย่างเจพีมอร์แกนไม่ยื่นขอเครื่องหมายการค้าเล่น ๆ […]
อ่านเพิ่มเติม »