รายงานประชุมชี้กรรมการเฟดหนุนขึ้นดอกเบี้ยต่อจนกว่าเงินเฟ้ออยู่ในทิศทางขาลง ธนาคารกลางสหรัฐ นโยบายการเงิน สหรัฐ อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ เงินเฟ้อสหรัฐ เฟด อินโฟเควสท์
ธนาคารกลางสหรัฐ เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ. โดยระบุว่า กรรมการเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ของเฟด และตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เฟดจึงควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้ออยู่ในทิศทางขาลงจนแตะระดับเป้าหมายที่ระดับ 2% ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
รายงานการประชุมซึ่งมีการเผยแพร่ในวันพุธ ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า เฟดควรจะชะลอความแรงในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ โดยปรับขึ้นเพียง 0.25% และมีกรรมการเฟดเพียงไม่กี่คนที่สนับสนุนให้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.
กรรมการเฟดหลายคนมองว่า แม้มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้เฟดเปลี่ยนแปลงจุดยืนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป “กรรมการเฟดมองว่าข้อมูลเงินเฟ้อที่ได้รับในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานั้น แสดงให้เห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลง แต่ก็มีหลักฐานเพิ่มขึ้นว่าภาวะเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเป็นวงกว้าง ซึ่งทำให้เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในทิศทางขาลงอย่างยั่งยืน”นอกจากนี้ กรรมการเฟดยังได้พิจารณาถึงความเสี่ยงที่มีต่อเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา...
สำหรับการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ. ที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2550 โดยแถลงการณ์ในวันดังกล่าวบ่งชี้ว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยไม่มีการส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือการสิ้นสุดวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เช้านี้กทม.-ปริมณฑล PM2.5 พุ่ง 10 พื้นที่ แนวโน้มฝุ่นสูงทั้งสัปดาห์ : อินโฟเควสท์ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) สรุปผลการตรวจวัด PM 2.5 วันที่ 22 ก.พ. 66 เวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ 32-58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐาน 10 พื้นที่ คือ 1. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 58 มคก./ลบ.ม. 2. เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม. 3. เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม. 4. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 […]
อ่านเพิ่มเติม »
UBE กลยุทธ์หลักปี 66 เพิ่มสินค้าใหม่-ปรับขนาดบรรจุภัณฑ์-ขยายช่องทางขายดันรายได้โต 10% : อินโฟเควสท์นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE) เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในปี 66 จะยังคงเติบโตขึ้นจากปี 65 บริษัทมีเป้าหมายผลักดันรายได้รวมเติบโต 10% จากปีก่อน จากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การปรับขนาดของบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องตามความต้องการของตลาด รวมถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆ เพื่อการเข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้น อีกทั้ง ธุรกิจกาแฟยังมีการเติบโตที่ต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทยังเดินหน้าตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนปริมาณการขายสินค้ากลุ่มมูลค่าสูง ทั้งแป้งออร์แกนิกและฟลาวมันสำปะหลัง นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาและแสวงหาโอกาสเพื่อการต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ “ปัจจุบันบริษัทได้ปรับกลยุทธ์การเสนอขายแป้งมันสำปะหลัง โดยเพิ่มสัดส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กซึ่งมีมูลค่าที่สูงขึ้น และมุ่งเน้นการทำการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) เพื่อเพิ่มความหลากหลายของการนำฟลาวมันสำปะหลังไปใช้ โดยในปี 66 จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในปัจจุบัน รวมถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วย” นางสาวสุรียส กล่าวอีกว่า ในปี 66 เป็นปีแห่งความท้าทายในหลากหลายด้าน อย่างไรก็ตาม UBE ยังตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งการตลาดสำหรับเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงในประเทศ และสนับสนุนการผลักดันการเปิดเสรีเอทานอลเกรดอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อเพิ่มปริมาณขาย ส่วนกลุ่มธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง คาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จะเห็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งบริษัทได้เตรียมพร้อมรับมือด้วยการจัดทีมงานส่งเสริมการขายไปทำตลาดในพื้นที่ต่างประเทศใหม่ๆ ให้มากขึ้น รวมถึงการนำเสนอฟลาวมันสำปะหลังไปใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ต่างๆ […]
อ่านเพิ่มเติม »
DMT กำไรปี 65 โตสนั่น 93% เปิดเมือง-ต่างชาติคัมแบค เป้ารายได้ปีนี้พุ่งทะลุ 30% : อินโฟเควสท์บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) เปิดผลงานปี 2565 โชว์กำไรสุทธิพุ่งแตะ 781 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93% จากปีก่อน และมีรายได้ค่าผ่านทาง 1,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% จากปีก่อน เนื่องจากปริมาณจราจรบนทางยกระดับเพิ่ม หลังเปิดเมือง -ต่างชาติคัมแบค นายศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ DMT เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้ค่าผ่านทาง 1,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,202 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 781 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93% จากช่วงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 404 ล้านบาท “ผลประกอบการในปี 65 เติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากปริมาณจราจรบนทางยกระดับที่เพิ่มขึ้น หลังจากนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ทำให้ต่างชาติกลับเข้ามาในประเทศไทยอย่างคึกคัก ส่งผลให้รายได้ค่าผ่านทางเพิ่มขึ้น โดยปริมาณการจราจรรวมสัมปทานเดิม และตอนต่อขยายด้านทิศเหนือเฉลี่ยต่อวันมีจำนวน 85,417 คันต่อวัน เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีจำนวน 57,105 […]
อ่านเพิ่มเติม »
ขุนคลังฮ่องกงคาดเศรษฐกิจขยายตัว 3.5%-5.5% ปีนี้ หลังยุติมาตรการคุมโควิด : อินโฟเควสท์นายพอล ชาน รัฐมนตรีคลังของฮ่องกงคาดการณ์ในวันนี้ว่า เศรษฐกิจฮ่องกงจะขยายตัว 3.5% – 5.5% ในปี 2566 หลังจากที่หดตัวลง 3.5% ในปี 2565 โดยคาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลฮ่องกงยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นมาตรการที่เคยส่งผลให้ฮ่องกงแยกตัวออกจากโลกภายนอก ขณะเดียวกันนายชานคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานและอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของฮ่องกงจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2.5% และ 2.9% ตามลำดับในปี 2566 ซึ่งจะสร้างแรงกดดันด้านต้นทุนและส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจฮ่องกง อย่างไรก็ดี นายชานเชื่อมั่นว่า ในระยะกลางจนถึงระยะยาวนั้น เศรษฐกิจฮ่องกงจะมีโอกาสเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยคาดว่าปัจจัยที่ช่วยให้แนวโน้มเศรษฐกิจสดใสมากขึ้นนั้น มาจากการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร แม้ว่าฮ่องกงยังคงเผชิญกับภาวะตึงตัวด้านการเงินก็ตาม โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เงินบาทเปิด 34.37 ทรงตัวจากวานนี้ คาดกรอบวันนี้ 34.30-34.55 ตลาดรอปัจจัยใหม่ : อินโฟเควสท์นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.37 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียง จากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.40 บาท/ดอลลาร์ วันนี้คาดว่าเงินบาทจะไม่เคลื่อนไหวมากนัก เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อค่าเงิน โดยที่เมื่อคืน ตลาดหุ้น, น้ำมัน, ทองคำ และตลาดเงินสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ จึงทำให้ดอลลาร์ยังไร้ทิศทาง อย่างไรก็ดี คืนนี้ต้องติดตามการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนม.ค. จากทั้งฝั่งสหรัฐ และยุโรป นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.30 – 34.55 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT FIX 3M (20 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 1.26024% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.57490% ปัจจัยสำคัญ – เงินเยนอยู่ที่ระดับ 134.32 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 134.07/10 เยน/ดอลลาร์ […]
อ่านเพิ่มเติม »