รับมือตลาดผันผวนด้วยหุ้นปันผล ทิสโก้ชูกองทุน TGHIDIV หุ้นปันผล ฐานเศรษฐกิจ
” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับการลงทุน รวมถึงช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนโดยรวม และจากข้อมูลในอดีตพบว่าราคาหุ้นกลุ่มนี้มักจะปรับเพิ่มขึ้นได้ดีหลังจาก Fed ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย* ความเสี่ยงระดับ 6 ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ...
” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับการลงทุน รวมถึงช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนโดยรวม และจากข้อมูลในอดีตพบว่าราคาหุ้นกลุ่มนี้มักจะปรับเพิ่มขึ้นได้ดีหลังจาก Fed ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย* ความเสี่ยงระดับ 6 ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ หรือบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตของการจ่ายเงินปันผลสูงขึ้นอย่างยั่งยืน เปิดเสนอขายครั้งแรก 17 – 26 ตุลาคม 2565 1. กองทุน JPMorgan Investment Funds - Global Dividend Fund มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่สามารถสร้างรายได้ในระดับสูง โดยเลือกลงทุนในบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ มีแนวโน้มของการเติบโตของการจ่ายเงินปันผลอย่างยั่งยืน ซึ่งในบางช่วงเวลากองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในบางหลักทรัพย์ หมวดอุตสาหกรรมหรือกลุ่มประเทศ เพื่อสร้างผลตอบแทนจากเงินลงทุนให้เติบโตในระยะยาว
2. กองทุน DWS Invest Top Dividend Fund มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดยปัจจัยสำคัญที่กองทุนใช้ในการพิจารณาคัดเลือกหุ้น ได้แก่ ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด การเติบโตและความยั่งยืนของผลตอบแทนจากเงินปันผล การเติบโตของกำไรในอดีตและอนาคต อัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น และปัจจัยพื้นฐานของบริษัท สำหรับตัวอย่างบริษัทที่กองทุนจะเข้าไปลงทุนผ่านกองทุนต่างประเทศ เช่น Johnson & Johnson บริษัทสหรัฐฯ ผู้นำในธุรกิจสุขภาพและทางการแพทย์ขนาดใหญ่ระดับโลก ซึ่งบลูมเบิร์กคาดว่าในปี 2565 จะจ่ายปันผลในอัตรา 4.37 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น และคาดว่าใน 3 ปีข้างหน้าจะจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นอีก 5.34% ต่อปี ต่อมาคือ Texas Instruments บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน Semiconductor ในสินค้ามากมายหลายอุตสาหกรรมครอบคลุมทั้งอุปกรณ์ในโรงงาน ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์สื่อสาร และอุปกรณ์คำนวณทางวิทยาศาสตร์ บลูมเบิร์กคาดว่าในปี 2565 จะจ่ายปันผลในอัตรา 4.68 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้นและคาดว่าใน 3 ปีข้างหน้าจะจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นอีก 7.78% ต่อปี อีกตัวอย่างคือ บริษัท TC Energy ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในการขนส่งก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ของเหลว แห่งอเมริกาเหนือ มีประวัติการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และจ่ายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีธุรกิจที่หลากหลายพร้อมขยายกิจการไปยังธุรกิจใหม่ มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง มีหนี้สินต่ำ บริษัทจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 7% ในช่วง 21 ปี ที่ผ่านมา และคาดว่าจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น 3-5% ต่อปีในอนาคต ทั้งนี้ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน