รัฐบาล ยันมุ่งเสริมสร้างศักยภาพและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ให้ SME-MSMEs MSMEs SME อินโฟเควสท์
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเชื่อมั่นในการเสริมสร้างศักยภาพและโอกาสให้วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย บูรณาการความร่วมมือกับพันธมิตรภาคเอกชน เพื่อใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ รวมทั้งเชื่อมั่นต่อการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม APEC SME ในเดือนก.ย. นี้
นายอนุชา กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้สนองรับแนวทางของรัฐบาล โดยได้บูรณาการความร่วมมือและเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ดำเนินการพัฒนาสิทธิประโยชน์ SMEs และ MSMEs ผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับพันธมิตร อาทิ Bank of China PCL., ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, บมจ.
ทั้งนี้ สสว. จะร่วมมือกับพันธมิตรเหล่านี้นำศักยภาพและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs และ MSMEs ในประเด็นเหล่านี้ 1. การเพิ่มผลิตภาพและลดต้นทุน โดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในการผลิตอย่างคุ้มค่าก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด 2. การขยายช่องทางการตลาด และ 3. การเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน เพื่อให้ SMEs และ MSMEs ของไทยมีความเข้มแข็ง และมีความสามารถในการแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ
นอกจากนี้ สสว. ได้เตรียมความพร้อมในการจัดประชุม APEC SME ระหว่างวันที่ 5-10 ก.ย.
“รัฐบาลเชื่อมั่นในศักยภาพหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง SMEs และ MSMEs ไทย พร้อมเชื่อมั่นว่าการจัดการประชุมครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้ไทยแสดงศักยภาพ และความพร้อม ในการต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุมจากทุกเขตเศรษฐกิจ ประเทศไทยมีความพร้อมในส่วนของการจัดการประชุมในทุกมิติ การจัดนิทรรศการแสดงผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการ SMEs และ MSMEs นำเสนอการจัดการประชุมผ่านเอกลักษณ์ และความโดดเด่นของภูเก็ต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ในด้านต่างๆ ทั้งด้านการท่องเที่ยว อาหาร วิถีชีวิต และวัฒนธรรม ตลอดจนเป็นโอกาสนำเสนอนโยบาย BCG...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
รัฐบาลมุ่งเสริมสร้างศักยภาพให้ SMEs เชื่อมโยงความร่วมมือกับพันธมิตร เตรียมประชุม APEC SMEรัฐบาล มุ่งเสริมสร้างศักยภาพให้ SMEs และ MSMEs เชื่อมโยงความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อมในการจัดประชุม APEC SME ในเดือนก.ย.นี้
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาล ยันเดินหน้าทำงานบริหารประเทศ ไร้สุญญากาศ ชี้ภาคเอกชนเชื่อมั่นเสถียรภาพ : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 65 ตามผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในระหว่างนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี และปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับคณะรัฐมนตรี ยืนยันว่ารัฐบาลสามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้ ไม่มีสุญญากาศทางการบริหารประเทศแต่อย่างใด หรือกระทบกับการปฏิบัติงานของราชการ หรือการการดำเนินนโยบายอื่น ๆ ของรัฐบาลแต่อย่างใด ทั้งนี้ด้านภาคธุรกิจเอกชน ภาคการเงินการธนาคาร ภาคการท่องเที่ยว ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพของรัฐบาล โดยภาคเอกชนมีมุมมองเชิงบวกต่อกรณีที่มีผู้รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ทำให้ไม่มีเรื่องสุญญากาศ ซึ่งลักษณะเป็นไปตามหลักนิติธรรม มีกลไกรองรับ จึงไม่กังวลกับภาคการเมือง รวมทั้งไม่กังวลกับนโยบายการลงทุนภาครัฐ เพราะงบประมาณปี 2566 ก็ได้ผ่านการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว งานต่าง ๆ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ นายอนุชา ยืนยันว่า รัฐบาลยังสามารถเดินหน้าทำงานตามกรอบการทำงานที่วางไว้ เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่บ้านเมืองขณะนี้ก็อยู่ในบรรยากาศที่ดี จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มการเมืองต่าง ๆ รวมถึงผู้ที่ยังชุมนุมอยู่ได้เชื่อมั่นในกฎหมายและหลักนิติธรรมของบ้านเมือง รอฟังผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่จะทำให้เกิดความชัดเจนทางการเมืองในอีกไม่นานนี้ “ยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าทำงานตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติและแผนงานต่าง ๆ ทุกด้านที่กำหนดไว้ต่อไปจนครบวาระการทำงานของรัฐบาล และให้ทุกฝ่ายช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้านเมือง …
อ่านเพิ่มเติม »
ผถห.ใหญ่คนใหม่ NCL คาด H2/65 โตต่อเนื่อง,เล็งหาธุรกิจใหม่ต่อยอด : อินโฟเควสท์นายพงษ์เทพ วิชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ (NCL) คาดว่าทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้น ประกอบกับค่าระวางเรือยังทรงตัวอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา ดังนั้นรายได้ในปีนี้จึงมีโอกาสเติบโตจากปีก่อนที่ทำได้ 1,923.89 ล้านบาท “ตามเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการเพิ่มฐานรายได้และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ จึงพยายามมองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในอนาคต เพื่อมาต่อยอดธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการในหลายๆ โปรเจค รวมทั้ง ธุรกิจ Digital Content ที่จะช่วยสนับสนุนและเป็นปัจจัยบวกที่ผลักดันให้ภาพธุรกิจของของ NCL ในอนาคตเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ” นายพงษ์เทพ กล่าว ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/65 มีรายได้รวมอยู่ที่ 571.9 ล้านบาท และ 6 เดือนแรกสิ้นสุดมิถุนายน 2565 มีรายได้อยู่ที่ 1,161.3 ล้านบาท โดยในไตรมาสดังกล่าวรายได้ยังคงเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากความต้องการใช้บริการที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้พัฒนาช่องทางการหารายได้ใหม่ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากธุรกิจโกดังเก็บสินค้า ธุรกิจดิจิทัลและการรับงานโครงการมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกให้ได้มากที่สุด สำหรับธุรกิจของบริษัทฯ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจบริการขนส่งครบวงจร (Freight Forwarder) 2.ธุรกิจบริการตู้และขนส่งแบบไม่เต็มตู้ …
อ่านเพิ่มเติม »
นักเคลื่อนไหวร้องกูเกิลละเมิดคำสั่งศาล ส่งอีเมลโฆษณาโดยไม่ผ่านการยินยอม : อินโฟเควสท์noyb.eu กลุ่มนักเคลื่อนไหวของออสเตรียเปิดเผยในวันนี้ (24 ส.ค.) ว่าได้ทำการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแห่งชาติด้านสารสนเทศและเสรีภาพฝรั่งเศส (CNIL) กรณีที่กูเกิล ธุรกิจในเครืออัลฟาเบท ละเมิดคำตัดสินของศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป (CJEU) ด้วยการส่งอีเมลโฆษณาไม่พึงประสงค์ไปยังกล่องข้อความของผู้ใช้จีเมล (Gmail) โดยตรง ทั้งนี้ noyb.eu อ้างการตัดสินของ CJEU ในปี 2564 ว่า กูเกิล ซึ่งรายได้หลักมาจากการโฆษณาออนไลน์ ควรให้ผู้ใช้งานจีเมลแสดงความยินยอมก่อนจึงจะสามารถส่งอีเมลการตลาดไปยังกล่องข้อความโดยตรงได้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงเนื้อหาในเอกสารคำร้องว่า แม้อีเมลโฆษณาของกูเกิลอาจดูเหมือนอีเมลปกติ แต่จะมีตัวอักษรสีเขียวว่า “Ad” หรือ “โฆษณา” อยู่ด้านซ้ายมือใต้หัวข้ออีเมล นอกจากนี้ยังไม่ระบุวันที่อีกด้วย อย่างไรก็ดี กูเกิลและ CNIL ของฝรั่งเศสยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ส.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
โฆษกเผย บิ๊กตู่ หยุดเป็นนายกฯ ชั่วคราว แต่ยืนยันทำหน้าที่รมว.กลาโหมต่อไป : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรี และมีมติเสียงข้างมากให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 65 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เคารพผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญทุกประการ โดยจะหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย แต่จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รมว.กลาโหมต่อไป โดยในระหว่างนี้ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ จะปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีแทน และปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามเดิม โดยไม่ได้มีผลกระทบอย่างใดต่อการบริหารประเทศ และการปฏิบัติงานของข้าราชการ หรือการดำเนินนโยบายอื่นๆ ของรัฐบาล นายอนุชา กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ประชาชนเคารพในผลการพิจารณาของศาลฯ และหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์การปฎิบัติหน้าที่ของศาล ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เชื่อมั่นในกฎหมายและหลักนิติธรรมของบ้านเมือง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคม และช่วยให้ประเทศชาติสงบสุข ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่อยากให้ฝ่ายการเมืองนำเรื่องนี้ไปขยายผลทางการเมือง เพราะกรณีนี้เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม เมื่อศาลรับคำร้อง นายกฯ ก็น้อมรับและหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ทุกอย่างยังคงต้องเดินหน้าต่อไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร รัฐบาลยังคงทำงานหนักเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีรองนายกฯ ที่รักษาการแทนอยู่แล้ว …
อ่านเพิ่มเติม »
ญี่ปุ่นจ่อกลับมาใช้พลังงานนิวเคลียร์ เพื่อให้มีพลังงานใช้ต่อเนื่อง : อินโฟเควสท์นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ (24 ส.ค.) ว่า ญี่ปุ่นจะเริ่มเดินหน้าใช้งานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกครั้ง พร้อมมุ่งเป้าไปยังการพัฒนาปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นใหม่ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่เหตุการณ์ภัยพิบัติที่จังหวัดฟูกุชิมะ นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังมีแผนยืดอายุการใช้งานของเตาปฏิกรณ์ ซึ่งได้เน้นย้ำให้เห็นว่า ผลกระทบของวิกฤตในยูเครนและต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น เปลี่ยนแปลงความคิดเห็นของสาธารณชนและก่อให้เกิดการทบทวนนโยบายด้านพลังงานนิวเคลียร์ได้ ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นได้สั่งยุติการทำงานของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เกือบทั้งหมดเป็นเวลานับทศวรรษ นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในปี 2554 ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดมหันตภัยนิวเคลียร์ขึ้นที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิมะ ไดอิจิ นายกฯ ญี่ปุ่นกล่าวกับนักข่าวว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกมาตรการที่เป็นรูปธรรมภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งรวมถึงการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับความยั่งยืนทางพลังงานและพลังงานนิวเคลียร์ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ส.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »