รัฐบาลไม่พร้อมปลดล็อกกัญชา แก้ปัญหาแบบ 'วัวหายล้อมคอก' ปลดล็อกกัญชา
สำหรับนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย ที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2562 และได้แปลมาเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ นับว่าเป็นความสำเร็จของพรรคภูมิใจไทย ที่สามารถผลักดันทำให้นโยบายกัญชาเสรีเป็นจริงได้ แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผลที่ตามมาจากการที่รัฐบาลปลดล็อกกัญชาให้เป็นกัญชาเสรี ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง ก็คือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล...
ส่วนตัวในฐานะที่เคยเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหากัญชา กัญชง พืชกระท่อม อย่างเป็นระบบ ก็มีส่วนสำคัญในการศึกษาปัญหาพืชทั้ง 3 ชนิด แต่ไม่ได้เข้าไปรับผิดชอบผลการศึกษาโดยตรง ต่อพืชกัญชาและกัญชง เพราะไปเป็นประธานอนุกรรมมาธิการศึกษาปัญหาพืชกระท่อมเป็นส่วนใหญ่ จนสามารถผลักดันให้มีการปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดเป็นผลสำเร็จ และพืชกระท่อมก็ไม่ได้เป็นปัญหาในทางปฎิบัติ ให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม...
ผมเห็นด้วยกับนโยบายปลดล็อกกัญชาเพียงครึ่งเดียว คือต้องการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และการปลูกพืชกัญชา จะต้องได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือโรงพยาบาล หรือสถาบันการวิจัยทางการแพทย์ ไม่ใช่สามารถปลูกหรือครอบครองได้อย่างเสรีเหมือนในปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงที่ทำให้เยาวชนเข้าถึงพืชกัญชาอย่างง่ายดาย และนำกัญชาไปใช้ในทางที่ผิด จนไม่สามารถควบคุมการเสพกัญชา...
แม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขจะได้ออกประกาศให้กัญชาเป็นพืชสมุนไพรควบคุมแล้วก็ตาม แต่ก็เชื่อว่าไม่สามารถนำไปปฎิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผลักดันให้พืชกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ ให้มีการปลูกกัญชาอย่างเสรี โดยไม่มีกฎหมายควบคุมไปในคราวเดียวกัน แต่ปลดล็อกพืชกัญชาให้เป็นกัญชาเสรีไปก่อน แล้วค่อยออกกฏหมาย กฎระเบียบ กฏกระทรวงมาควบคุม อุดช่องว่างการนำกัญชาไปใช้ในทางที่ผิดภายหลัง ซึ่งรัฐบาลขาดการเตรียมพร้อมในการทำนโยบายกัญชาเสรีอย่างเป็นระบบ จนทำให้เกิดสภาพการแก้ปัญหาแบบวัวหายล้อมคอกในตอนนี้.