รฟม.-กองทัพเรือจับมือสร้างทางขึ้น-ลงสถานีสำเหร่สายสีม่วงใต้-เชื่อมรพ.พระปิ่นฯ : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

รฟม.-กองทัพเรือจับมือสร้างทางขึ้น-ลงสถานีสำเหร่สายสีม่วงใต้-เชื่อมรพ.พระปิ่นฯ : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 81 sec. here
  • 3 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 36%
  • Publisher: 68%

รฟม.-กองทัพเรือจับมือสร้างทางขึ้น-ลงสถานีสำเหร่สายสีม่วงใต้-เชื่อมรพ.พระปิ่นฯ กองทัพเรือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รถไฟฟ้าสายสีม่วง รฟม สถานีสำเหร่ อินโฟเควสท์

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และ พลเรือโท ชลธร สุวรรณกิตติ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ กองทัพเรือ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุที่ใช้ในราชการกองทัพเรือ บริเวณพื้นที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ เพื่อก่อสร้างทางขึ้น – ลงที่ 3 สถานีสำเหร่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและผู้ใช้บริการของทางโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ...

นายภคพงศ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา รฟม.ได้ประสานความร่วมมือกับกองทัพเรืออย่างต่อเนื่องในการออกแบบรายละเอียดและการใช้ประโยชน์บริเวณพื้นที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกันนี้ รฟม. จะทำการก่อสร้างทางเดินลอดใต้ดินเพื่อเชื่อมต่อจากชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสารของสถานีสำเหร่ไปยังด้านหน้าอาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาล ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับที่จอดรถใต้ดินอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและผู้ใช้บริการของทางโรงพยาบาล โดย รฟม.

สถานีสำเหร่ เป็นสถานีใต้ดินสถานีสุดท้ายของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ มีรูปแบบสถานีเป็นแบบชานชาลากลาง ประกอบด้วยชั้นจำหน่ายตั๋วและชั้นชานชาลา โดยมีทางขึ้น – ลง จำนวนทั้งสิ้น 4 ตำแหน่ง โดย รฟม. จะสร้างทางขึ้น-ลงที่ 3 สถานีสำเหร่สำเร็จลุล่วงได้โดยเร็ว โดยไม่กระทบต่อภารกิจ หน้าที่ และการให้บริการของโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า รวมถึงไม่กระทบต่อการดำเนินงานด้านการก่อสร้าง และการบริหารจัดการการเดินรถของ รฟม.

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 23.63 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี เป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดิน 14.29 กิโลเมตร สถานีใต้ดิน 10 สถานี และโครงสร้างทางวิ่งยกระดับ 9.34 กิโลเมตร สถานียกระดับ 7 สถานี มีแนวเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานีร่วมกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม และ รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล

อีกทั้งยังมีสถานีที่จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ของ รฟม. เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้ใช้บริการ ได้แก่ สถานีสามยอด เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล และสถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งในอนาคตจะเชื่อมต่อกับสถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย อีกด้วย โดยเริ่มดำเนินงานก่อสร้างใน มิ.ย.65 และมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2570

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ฮุนได, เกียคาดยอดขายยานยนต์พุ่งเกือบ 10% ในปีนี้ : อินโฟเควสท์ฮุนได, เกียคาดยอดขายยานยนต์พุ่งเกือบ 10% ในปีนี้ : อินโฟเควสท์บริษัทฮุนได มอเตอร์ของเกาหลีใต้และเกีย คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เปิดเผยคาดการณ์ในวันอังคาร (3 ม.ค.) ว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกของทั้ง 2 บริษัทจะพุ่งขึ้นเกือบ 10% ในปี 2566 แม้ว่ายอดขายของปีที่แล้วต่ำกว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้ เนื่องจากปัญหาชะงักงันด้านห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ ฮุนไดและเกียตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกที่ 7.52 ล้านคันในปีนี้ บริษัททั้งสองแห่งขายรถยนต์ได้ 6.85 ล้านคันในปี 2565 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้ที่ 7.16 ล้านคันอยู่ประมาณ 4% โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นผลจากปัญหาหลากหลายประการ เช่น ภาวะขาดแคลนชิปและส่วนประกอบ “ฮุนไดวางแผนขยายส่วนแบ่งตลาดและดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นการสร้างผลกำไร เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงไปของตลาด เร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ไฟฟ้า และตอบสนองต่อกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต โลจิสติกส์ และยอดขายในแต่ละภูมิภาค” ฮุนไดมอเตอร์ระบุในแถลงการณ์ ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า เป้าหมายยอดขายสำหรับปีนี้ของทั้งสองบริษัทนั้นดูเหมือนสูง แต่สัมฤทธิ์ผลได้ เมื่อพิจารณาจากอุปสงค์ยานยนต์ที่อั้นเอาไว้ก่อนหน้านี้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

เกาหลีใต้เร่งตามล่าตัวชาวจีนติดเชื้อโควิดที่ล่องหนหนีการกักตัว : อินโฟเควสท์เกาหลีใต้เร่งตามล่าตัวชาวจีนติดเชื้อโควิดที่ล่องหนหนีการกักตัว : อินโฟเควสท์ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ (4 ม.ค.) ว่า กำลังพยายามตามหานักเดินทางชาวจีนรายหนึ่งที่มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก แต่กลับหายตัวไประหว่างการรอที่ศูนย์กักกันโรค เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า บุคคลดังกล่าวมีผลตรวจเป็นบวกหลังจากเดินทางถึงสนามบินนานาชาติอินชอนใกล้กรุงโซลเมื่อวันอังคาร (3 ม.ค.) และได้ถูกส่งตัวไปยังโรงแรมในบริเวณใกล้เคียงเพื่อรอเข้ารับการกักตัว แต่เขากลับหายตัวไป เจ้าหน้าที่ คิม จู-ยองกล่าวว่า บุคคลดังกล่าวซึ่งไม่ได้มีการระบุชื่อนั้น ได้ถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อผู้ที่รัฐต้องการตัว และอาจถูกจำคุกสูงสุด 1 ปี หรือปรับ 10 ล้านวอน (7,840 ดอลลาร์) หากถูกตัดสินว่าละเมิดกฎหมายควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ “และบุคคลผู้นั้นจะถูกเนรเทศและห้ามเข้าประเทศเป็นระยะเวลาหนึ่ง” นายคิมกล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันอังคาร (3 ม.ค.) เกาหลีใต้ประกาศบังคับตรวจโควิดสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากจีน โดยเข้าร่วมกับประเทศอื่น ๆ จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งบังคับใช้ข้อจำกัดต่าง ๆ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ หลังการตัดสินใจของรัฐบาลจีนในการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่เข้มงวด ตั้งแต่สัปดาห์นี้ เกาหลีใต้ได้กำหนดให้ผู้เดินทางมาจากจีนต้องเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ PCR ทันทีที่เดินทางมาถึง และตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. ผู้โดยสารขาเข้าจะสามารถส่งผลการตรวจ PCR เป็นลบที่ยังไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง […]
อ่านเพิ่มเติม »

'มิน อ่อง หล่าย' ฉะต่างชาติแทรกแซงกิจการเมียนมา ชม 'ไทย' ให้ความร่วมมือดี : อินโฟเควสท์'มิน อ่อง หล่าย' ฉะต่างชาติแทรกแซงกิจการเมียนมา ชม 'ไทย' ให้ความร่วมมือดี : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา วิพากษ์วิจารณ์ประเทศต่าง ๆ ที่เข้ามาแทรกแซงกิจการของเมียนมา พร้อมขอบคุณประเทศอื่น ๆ ที่ให้ความร่วมมือ “เชิงบวก” โดยระบุว่าเมียนมาได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีน, อินเดีย และไทย “ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวขอบคุณประเทศและองค์กรในระดับนานาชาติและระดับภูมิภาค รวมถึงท่านทั้งหลายที่ให้ความร่วมมือเชิงบวกกับเรา… ท่ามกลางความกดดัน การวิพากษ์วิจารณ์ และการโจมตี” พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์จากขบวนพาเหรดวันชาติในกรุงเนปยีดอ เนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี วันประกาศอิสรภาพของเมียนมา “เรากำลังร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีน, อินเดีย, ไทย, ลาว และบังกลาเทศ เราจะทำงานร่วมกันเพื่อเสถียรภาพและการพัฒนาชายแดน” ทั้งนี้ ประเทศเมียนมาถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติและถูกคว่ำบาตรจากตะวันตก นับตั้งแต่กองทัพเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่นำโดยนางออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 กลุ่มผู้ประท้วงและผู้ต่อต้านรัฐบาลถูกปราบปรามด้วยความรุนแรง และนางซูจีถูกตัดสินจำคุกในข้อหาคอร์รัปชัน นอกจากนี้ กองทัพเมียนมายังมีส่วนเกี่ยวข้องในการปะทะกับกองกำลังชนกลุ่มน้อย ตลอดจนเกิดความไม่สงบแผ่ขยายออกไปทั่วประเทศเมื่อสมาชิกของกองกำลังป้องกันประชาชนได้จับอาวุธต่อสู้กับกองทัพรัฐบาล เพื่อทวงคืนระบอบประชาธิปไตย ด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา […]
อ่านเพิ่มเติม »

ชาวไต้หวันเฮ รัฐเล็งแจกแต๊ะเอียราว 6 พันบาทเป็นของขวัญตรุษจีนให้ทุกคน : อินโฟเควสท์ชาวไต้หวันเฮ รัฐเล็งแจกแต๊ะเอียราว 6 พันบาทเป็นของขวัญตรุษจีนให้ทุกคน : อินโฟเควสท์นายกรัฐมนตรีซู เจิงชางของไต้หวันเปิดเผยในวันนี้ (4 ม.ค.) ว่า ไต้หวันมีแผนแจกเงินสดมูลค่าเกือบ 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,821.40 บาท) ให้แก่พลเมืองทุกคนในปีนี้ โดยระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของไต้หวันจะถูกแบ่งปันให้กับทุกคน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เศรษฐกิจไต้หวันซึ่งพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก และเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระดับโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงชิปเซมิคอนดักเตอร์นั้น เติบโตขึ้น 6.45% ในปี 2564 ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุด นับตั้งแต่ขยายตัวที่ระดับ 10.25% ในปี 2553 ในขณะที่คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงปี 2565 และ 2566 นั้น รัฐบาลไต้หวันได้วางแผนที่จะนำภาษีที่เก็บได้เพิ่มเติม 3.80 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากเมื่อปีที่แล้ว กลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อช่วยปกป้องไต้หวันจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงการอุดหนุนค่าไฟ ค่าแรง และค่าประกันสุขภาพ นายซูกล่าวว่า ทางการจะนำเงินส่วนหนึ่งของภาษีข้างต้นจำนวน 1.40 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน มาแจกจ่ายเป็นเงินสดให้แก่พลเมืองแต่ละคน โดยแต่ละคนจะได้รับเงินราว 6,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (195.61 ดอลลาร์สหรัฐ) นายซูกล่าวกับนักข่าวว่า “ผลที่เกิดจากความสำเร็จทางเศรษฐกิจจะถูกแบ่งปันไปสู่พลเมืองทุกคน […]
อ่านเพิ่มเติม »

จีนจ่อระงับทุ่มเงินมหาศาลหนุนอุตสาหกรรมชิป เซ่นโควิดระบาด : อินโฟเควสท์จีนจ่อระงับทุ่มเงินมหาศาลหนุนอุตสาหกรรมชิป เซ่นโควิดระบาด : อินโฟเควสท์สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า จีนจ่อระงับการทุ่มเม็ดเงินก้อนโตในการสร้างอุตสาหกรรมชิปเพื่อแข่งขันกับสหรัฐ หลังสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในจีนเริ่มบั่นทอนเศรษฐกิจและสถานะทางการเงินของประเทศ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนกำลังหาวิธีอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมผู้ผลิตชิปจีน เช่น ลดต้นทุนวัตถุดิบเซมิคอนดักเตอร์ แทนการทุ่มเงินอุดหนุนที่จนถึงขณะนี้ยังแทบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด ซ้ำยังกระตุ้นให้เกิดการรับสินบนและการคว่ำบาตรจากสหรัฐอีกด้วย แม้เจ้าหน้าที่บางส่วนยังคงเดินหน้าผลักดันการทุ่มเม็ดเงินจูงใจสูงถึง 1 ล้านล้านหยวน (1.45 แสนล้านดอลลาร์) แต่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายจำนวนหนึ่งต้องการยกเลิกการลงทุนดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้สร้างประโยชน์อย่างที่เคยคาดการณ์เอาไว้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงท่าทีของจีน หลังจากที่พิจารณาให้ชิปเป็นอุตสาหกรรมสำคัญที่ต้องท้าทายการครอบงำจากสหรัฐและปกป้องเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันด้านการทหารของจีน โดยตอกย้ำให้เห็นว่าปัญหาเศรษฐกิจของจีนนั้นส่งผลกระทบต่อทรัพยากรของจีนและบั่นทอนความมุ่งมั่นด้านชิป ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจีนกำลังพิจารณานโยบายชิปอื่นใดบ้าง หรือสุดท้ายแล้วจีนจะยกเลิกการทุ่มการลงทุนก้อนใหญ่ที่หนุนภาคการผลิตอย่างแข็งแกร่งตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาหรือไม่ โดยรัฐบาลจีนอาจโยกทรัพยากรจากภาคส่วนอื่นเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตชิป โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

รอรับได้เลย! อ.แหม่ม แนะเตรียมพร้อม คาดครึ่งปีหลังคนจีนแห่เที่ยวไทย : อินโฟเควสท์รอรับได้เลย! อ.แหม่ม แนะเตรียมพร้อม คาดครึ่งปีหลังคนจีนแห่เที่ยวไทย : อินโฟเควสท์นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีต รมช.แรงงาน โพสต์เฟสบุ๊กชส่วนตัว ระบุถึงกรณีที่จีนจะเปิดประเทศในวันที่ 8 ม.ค.66 โดยยกเลิกข้อกำหนดการกักกันโรคโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศว่า การเดินทางของคนจีนออกนอกประเทศ จะมีผลบวกต่อเศรษฐกิจโลกอย่างแน่นอน หลังจากที่ความสามารถในการบริโภคของนักท่องเที่ยวจีนถูกจำกัดไว้ในประเทศจีนมานานร่วม 3 ปี โดยในปี 2562 ก่อนโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยมากถึง 11 ล้านคน คิดเป็น 27.5% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 40 ล้านคน ผลของการเปิดประเทศจีนครั้งนี้ พบว่า ประเทศไทยได้รับความสนใจเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศที่คนจีนอยากมาท่องเที่ยวมากที่สุด รองจากประทศญี่ปุ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนน่าจะเริ่มเข้าไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ตั้งแต่ 21-27 ม.ค.นี้ และคาดว่าจะทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. เม.ย. และในครึ่งปีหลังเป็นต้นไป จึงจะได้เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง ทั้งนี้ หลังโควิด-19 ภาคการท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องจักรสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน จึงส่งผลบวกกับเศรษฐกิจไทยอย่างมาก โดยผลการศึกษาของโกลด์แมนแซค ระบุว่า จะเกิดผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2566 มากถึงประมาณ 5.42 แสนล้านบาท นับเป็น 2.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-07 03:16:34