รฟท.ร่วมกับหน่วยงานมั่นคงคุมเข้มความปลอดภัยเส้นทาง รถไฟสายใต้ กลับมาให้บริการแล้ว รถไฟ อินโฟเควสท์
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนลอบยิงขบวนรถเร็วที่ 171 ขณะขบวนรถมาถึงหลักกิโลเมตรที่ 1068/9-16 ระหว่างสถานีบาลอ-รือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีผู้โดยสารหรือเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ส่งผลให้หัวรถจักรดีเซลได้รับความเสียหาย กระจกด้านหน้าฝั่งพนักงานขับรถแตก และหม้อน้ำรถจักรรั่ว ทำให้ รฟท.
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดนายสุชีพ สุขสว่าง รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ รฟท.ได้ร่วมประชุมกับ พล.ต.อุทิศ อนันตนานนท์ รองแม่ทัพภาค 4 ในฐานะรอง ผอ.รมน. ภาค 4 สน.เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา และเพิ่มความเข้มข้นในการรักษาความปลอดภัยเส้นทางเดินรถภาคใต้จากสถานียะลา-สุไหงโกลก เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในการเดินทาง ทำให้วันนี้สามารถกลับมาเปิดการเดินรถได้อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง
ที่ผ่านมา รฟท.ร่วมกับฝ่ายความมั่นคงได้เพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งเดินหน้ากิจกรรมมวลชนสัมพันธ์กับชุมชนในพื้นที่ ตามนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ รฟท. ที่กำชับให้เจ้าหน้าที่ รฟท.
นอกจากนี้ รฟท.ได้ขอความร่วมมือประชาชนในเส้นทางรถไฟระหว่างสถานีบาลอ-รือเสาะ ได้ร่วมใจแสดงออกถึงพลังของประชาชนกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่จะร่วมกันปกป้องดูแลความปลอดภัยเส้นทางรถไฟ เพื่อให้เส้นเลือดใหญ่ในการคมนาคมมีความปลอดภัย รฟท.
อย่างไรก็ตาม รฟท.ขอความร่วมมือประชาชน หากพบบุคคลหรือวัตถุต้องสงสัยสามารถแจ้งได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
AIA เล็งทุ่มทุนกว่าพันล้านดอลล์ซื้ออาคารในเซี่ยงไฮ้เพื่อขยายธุรกิจในจีน : อินโฟเควสท์สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เอไอเอ กรุ๊ป (AIA Group) ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ระดับโลก กำลังเจรจาซื้ออาคาร SIIC Center ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและตั้งอยู่ใกล้กับย่านนอร์ท บันด์ (North Bund) ในนครเซี่ยงไฮ้ โดยขณะนี้ AIA กำลังขยายธุรกิจในประเทศจีน บริษัทเซี่ยงไฮ้ อินดัสเทรียล ดีเวลล็อปเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลจีนและเป็นเจ้าของโครงการ SIIC Center คาดการณ์ว่า อาคารแห่งนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 9 พันล้านหยวน หรือประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แหล่งข่าวระบุว่า อาคาร SIIC Center จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ AIA ในการขยายธุรกิจในประเทศจีน แม้ว่าเศรษฐกิจยังคงเผชิญกับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 โดย AIA ถือเป็นบริษัทประกันต่างชาติรายแรกที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศจีน หลังจากที่เข้ามาเปิดสาขาย่อยในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2563 การขยายธุรกิจของ AIA ในประเทศจีนถูกจับตาเป็นอย่างมาก โดยในเดือนม.ค.ปีนี้ AIA ได้เข้าซื้อหุ้น 25% ในบริษัทไชน่า โพสต์ ไลฟ์ อินชัวรันซ์ และต่อมาในเดือนมี.ค. …
อ่านเพิ่มเติม »
รมว.ต่างประเทศสหรัฐจวกจีนหวังเปลี่ยนสถานภาพช่องแคบไต้หวัน : อินโฟเควสท์นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวหาว่า จีนมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสถานภาพในช่องแคบไต้หวันด้วยการทดสอบขีปนาวุธและซ้อมรบ หลังนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนกรุงไทเป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตะวันตกรายหนึ่งระบุว่า นายบลิงเกนแสดงความเห็นดังกล่าวในที่ประชุมสุดยอดระดับภูมิภาคในประเทศกัมพูชาในวันนี้ (5 ส.ค.) ซึ่งนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเข้าร่วมด้วย โดยนายบลิงเกนระบุว่า จีนไม่สามารถใช้การเดินทางเยือนไต้หวันอย่างสันติของนางเพโลซีเป็นข้ออ้างในการตอบโต้ทางทหาร ซึ่งรวมถึงการยิงขีปนาวุธเข้าสู่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น ในโอกาสนี้ นายบลิงเกนได้ถามรัฐมนตรีต่างประเทศรายอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงตัวแทนจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และนิวซีแลนด์ว่า พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร หากจีนยิงขีปนาวุธตกลงในเขตเศรษฐกิจของพวกเขา จากนั้นเขากล่าวต่อว่า สหรัฐยังคงยึดมั่นนโยบายเดิมต่อจีนและไต้หวัน แต่จีนยกระดับการดำเนินการในเชิงยั่วยุ เพื่อบั่นทอนสภาพการณ์ในปัจจุบัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความคิดเห็นของนายบลิงเกนได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของสหรัฐในการสร้างภาพให้จีนกลายเป็นผู้รุกราน โดยเฉพาะหลังจากที่จีนมองว่าการเยือนไต้หวันของนางเพโลซีเป็นการยั่วยุ ขณะที่ นักการทูตระดับสูงของอาเซียนได้ออกมาเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอดทนอดกลั้น พร้อมเตือนว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่องแคบไต้หวันอาจ “ทำลายเสถียรภาพของภูมิภาค” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ฝ่ายค้าน พร้อมหนุนร่างกม.ลูกเลือกตั้งส.ส.ฉบับ ครม.แทน หากสร็จไม่ทันกรอบเวลา : อินโฟเควสท์นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 10 ส.ค.65 ว่า หากการประชุมร่วมรัฐสภาไม่เดินหน้าและทำให้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… พิจารณาไม่แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด 180 วัน คือ ภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมรัฐสภาให้ถือว่ารัฐสภาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ฉบับที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอ ซึ่งพรรคเพื่อไทยพร้อมยอมรับ เพราะสามารถทำดีที่สุดเท่านี้และถือว่าร่าง พ.ร.บ.ของ ครม. เสียหายน้อยกว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับที่ใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วยจำนวน 500 คน ส่วนการปรับปรุงเนื้อหาเป็นดุลยพินิจของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติที่จะพิจารณาว่าทำงานอย่างไรให้ไม่มีปัญหาในอนาคต หากประเด็นใดที่มองว่าในอนาคตจะมีปัญหาในทางปฏิบัติไม่ควรปล่อย หากมีช่องทางที่ปรับปรุงได้ กกต.ควรทำ ส่วนการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น นายสุทิน กล่าวว่า หากใครติดใจต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมีขั้นตอนที่ดำเนินการได้ แต่หากร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.แพ้ฟาล์ว แพ้เทคนิค พรรคเพื่อไทยจะไม่ยื่น เพราะสูตรคำนวณนั้นไม่ใช่จำนวน …
อ่านเพิ่มเติม »
ตร.เปิดกลวิธี 'หนี-ซ่อน-สู้' เอาชีวิตรอดปลอดภัยในเหตุกราดยิง : อินโฟเควสท์พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พบว่าเหตุกราดยิง (Active Shooter) นั้นไม่ได้พบแต่ในต่างประเทศเท่านั้น แต่ในประเทศไทยก็เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว เช่น เหตุกราดยิง ที่ตลาดไท อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2550 และเหตุกราดยิงที่ห้าง Terminal 21 จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2563 เป็นต้น อีกทั้งหลักการดังกล่าวยังสามารถนำไปปรับใช้ในการเอาชีวิตรอดในเหตุการณ์ยิงปะทะต่างๆอีกด้วย สตช.จึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รู้จักหลัก “หนี ซ่อน สู้” หรือ “Run Hide Fight” ซึ่งเป็นหลักสากลที่ FBI และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในหลายๆประเทศ นำมาใช้แนะนำประชาชนในการเอาชีวิตรอดในเหตุกราดยิง โดยหลักการดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้ “หนี – Run” เมื่อสามารถหาเส้นทางหลบหนีที่พาไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้ เวลาไปสถานที่ต่าง ๆ ให้จดจำทาง เข้า-ออก และทางออกฉุกเฉินให้เป็นนิสัย เมื่อเกิดเหตุต้องตั้งสติให้ดี และมองหาเส้นทางในการหลบหนี ทิ้งของทุกอย่างที่ไม่จำเป็น ช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่สามารถช่วยได้ …
อ่านเพิ่มเติม »
สายการบินต่าง ๆ เตรียมแผนกลยุทธ์รับมือวิกฤตขาดแคลนแรงงาน : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีนำเสนอบทวิเคราะห์ โดยระบุว่า อุตสาหกรรมการบินอยู่ในภาวะระส่ำระสายมาตั้งแต่ช่วงเริ่มการระบาดของโรคโควิด-19 จนถึงขณะนี้ก็กำลังเผชิญกับการประท้วงหยุดงานและจำนวนแรงงานขาดแคลน ซึ่งบีบบังคับให้สายการบินต่าง ๆ ต้องคิดหาแผนกลยุทธ์รับมือกับความโกลาหลของการเดินทางช่วงหน้าร้อนในปีนี้ สายการบินต่าง ๆ ในสหรัฐปลดพนักงานครั้งใหญ่ราว 90,000 ตำแหน่งในปี 2563 เนื่องจากการเดินทางด้วยเครื่องบินทั่วโลกหยุดชะงักลง อย่างไรก็ดี นับแต่นั้นมา ตัวเลขผู้โดยสารทั้งกลุ่มที่เดินทางเพื่อท่องเที่ยวและกลุ่มที่เดินทางไปทำธุรกิจก็ฟื้นตัวขึ้นจนมีจำนวนมากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดแล้ว และการตัดสินใจปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุนในครั้งนั้นส่งผลให้เกิดวิกฤตขาดแคลนแรงงานในปัจจุบัน สายการบินต่าง ๆ รับมือกับปัญหานี้เป็น 2 แบบ คือ ตัดสินใจเปลี่ยนกำหนดการเดินทาง กับอีกแบบคือยึดตามกำหนดการเดิม สายการบินที่เปลี่ยนกำหนดการเดินทางก็เช่น KLM สายการบินสัญชาติดัตช์ที่จำกัดการขายตั๋วเครื่องบินไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัมหลังจากที่สนามบินสคิปโปลจำกัดจำนวนผู้โดยสารขาออก โดยทาง KLM ระบุว่า “คาดว่าไม่จำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบิน” เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสนามบิน แต่เตือนว่า “อาจมีที่นั่งให้บริการน้อยกว่าปกติในตลาดดัตช์” ส่วนสายการบินลุฟท์ฮันซ่าของเยอรมนีปรับกำหนดการเดินทางมาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูร้อนและยกเลิกเที่ยวบินจากแฟรงก์เฟิร์ตและมิวนิกไปแล้ว 3,000 เที่ยว เพื่อ “ลดภาระระบบโดยรวมและทำให้กำหนดการเที่ยวบินมีความเสถียร” นอกจากนี้ ลุฟท์ฮันซ่ายังยกเลิกเที่ยวบินอีกกว่า 1,000 เที่ยวในเดือนก.ค.ที่ผ่านมาอีกด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินผละงานประท้วง อีกด้านหนึ่งนั้น ก็มีบางสายการบินที่ยังคงดำเนินการตามกำหนดการเดินทางเดิม เช่น สายการบินเอมิเรตส์ของดูไบที่ไม่ยอมปฏิบัติตามสนามบินฮีทโธรว์ที่ขอให้สายการบินต่าง ๆ จำกัดจำนวนผู้โดยสารในเดือนก.ค. ขณะเดียวกัน สายการบินไรอันแอร์ของไอร์แลนด์ระบุว่า “ไม่มีแผนที่จะจำกัดจำนวนผู้โดยสาร” …
อ่านเพิ่มเติม »
จีนส่งเครื่องบินรุกล้ำเส้นกึ่งกลางช่องแคบไต้หวัน ตอบโต้ 'เพโลซี' เยือนไทเป : อินโฟเควสท์กระทรวงกลาโหมของไต้หวันเปิดเผยในวันนี้ (5 ส.ค.) ว่า เรือและเครื่องบินรบของกองทัพจีนได้รุกล้ำเส้นกึ่งกลางของช่องแคบไต้หวัน ภายหลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวัน แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า มีการตรวจพบเรือและเครื่องบินรบของจีนรุกล้ำเส้นกึ่งกลางของช่องแคบไต้หวันหลายครั้ง นับตั้งแต่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) เริ่มปฏิบัติการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในพื้นที่ 6 จุดรอบเกาะไต้หวัน โดยจีนวางแผนจัดซ้อมรบ 4 วัน ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 4 ส.ค.-อาทิตย์ที่ 7 ส.ค. นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุด้วยว่า การซ้อมรบครั้งนี้ถือเป็นการยั่วยุอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการยิงขีปนาวุธ หรือรุกล่ำเส้นกึ่งกลางช่องแคบไต้หวัน สำหรับเส้นกึ่งกลางดังกล่าวนั้นแบ่งช่องแคบไต้หวันที่มีความกว้างประมาณ 180 กิโลเมตร เพื่อแยกไต้หวันและชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีนออกจากกัน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »