ยอดการจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) และ รถยนต์แบบปลั๊กอิน-ไฮบริด (PHEV) ในปีนี้จะมีปริมาณเกือบ 15 ล้านคัน และจะเพิ่มขึ้นอีก 19% คิดเป็นยอดรวม 17.9 ล้านคันภายในปี 2567 โดยภายในปี 2573 มากกว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์ทุกรุ่นที่ผลิตออกมาจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
ผลสำรวจจากการ์ทเนอร์ ระบุ ในปี 2567 ปริมาณการจัดส่งยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งหมด ตั้งแต่ รถยนต์ รถโดยสาร รถตู้ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ จะมียอดรวมที่ 18.5 ล้านคัน โดยรถ BEV ทั่วโลกจะเติบโตจาก 9 ล้านคันในปี 2565 เพิ่มเป็น 11 ล้านคัน ภายในสิ้นปีนี้ โดยคาดว่ารถ PHEV จะเติบโตช้าลงเล็กน้อยจาก 3 ล้านคัน ในปีก่อน และจะเพิ่มเป็น 4 ล้านคันในปีนี้ โจนาธาน ดาเวนพอร์ท ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์
สัดส่วนของรถ PHEV ยังคิดเป็นสัดส่วนใหญ่ของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และญี่ปุ่น มักจะเปลี่ยนจากรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน มาเลือกใช้รถ PHEV มากกว่า BEV เนื่องจากความสามารถที่ผสมผสานระหว่างการขับขี่ในเมืองที่ไร้มลพิษด้วยพลังงานไฟฟ้าจากมอเตอร์ และยังมอบความสะดวกสบายในการขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเพื่อการเดินทางที่ยาวนานและไกลขึ้น
ปัจจัยหลัก คือ การตัดสินใจของภาครัฐบาลที่ได้กำหนดนโยบายเพื่อส่งเสริม เช่น การออกกฎหมายเพื่ออนุญาตให้จำหน่ายเฉพาะยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ หรือการออกข้อบังคับให้ต้องใช้รถ PHEV เป็นอย่างน้อย อันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตของผู้ผลิตรถยนต์ เป็นต้น ด้านผู้ผลิตรถยนต์ บางรายตั้งเป้าที่จะบรรลุยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดสหรัฐฯ ให้ได้ 40% ถึง 50% ต่อปี ภายในปี 2573 รวมถึงการหาวิธีกำจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากท่อไอเสียของรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่ๆ...