พิษโควิด-ศก.ทรุดดันหนี้ครัวเรือนพุ่ง! โควิด19 หนี้ครัวเรือน
“พิษโควิด-ค่าครองชีพพุ่ง-ศก.ทรุด” ดันหนี้ครัวเรือนปี 65 พุ่ง ระบุพีคสุดที่ระดับ 90.9% ต่อจีดีพีในไตรมาส แตะ 5 แสนบาท/บ้านทุบสถิติเมื่อวันที่ 25 ส.ค.65 นายวิเชียร แก้วสมบัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอ การค้าไทย เปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือนของไทยในปี 65 ข้อมูลล่าสุด ณ ไตรมาส 1/65 พบว่า สถาบันรับฝากเงินและสถาบันการ เงินอื่น มียอดเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 14.
“ศูนย์พยากรณ์ฯ คาดว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนจะสามารถปรับลดลงจากระดับ 89-90% ในปัจจุบัน ลงมาอยู่ที่ระดับ 80% ได้ภายใน 5 ปี หากเศรษฐกิจไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้าสามารถขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 6.2% ต่อปี” ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจกล่าวว่า หนี้ครัวเรือนไทย ณ สิ้นปี 65 จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 89.3% ต่อจีดีพี คิดเป็นมูลค่าหนี้ครัวเรือน 14.97 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่ที่ ม.
ส่วน นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย ปี 2565 พบว่า มีจำนวนหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนอยู่ที่ราว 5 แสนบาท แยกเป็นหนี้ในระบบ 78.9% และหนี้นอกระบบ 21.1% โดยมีภาระที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือน เฉลี่ยที่ 12,800 บาท ทั้งนี้สำหรับสาเหตุของการเป็นหนี้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่ตอบว่า เป็นเพราะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น รองลงมาคือ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย และการผ่อนสินค้ามากเกินไป โดยกลุ่มตัวอย่างถึง 65.
เมื่อถามถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ พบว่าสาเหตุ 5 อันดับแรก มาจาก 1.รายได้/รายรับที่ลดลง 2.เศรษฐกิจไม่ดี 3.ค่าครองชีพไม่สอดคล้องกับรายได้ 4.ปัญหาสภาพคล่องของธุรกิจ/ครัวเรือน 5.การแพร่ระบาดของโควิด-19