ผู้เชี่ยวชาญสุขภาพชี้ โอกาสเกิดโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่เป็นอันตรายในจีน 'ค่อนข้างต่ำ' COVID19 จีน โควิด19 โอมิครอน อินโฟเควสท์
ดร. คริส เมอร์เรย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตันในเมืองซีแอตเทิล แสดงความเห็นว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในจีนนั้นไม่น่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่เป็นอันตราย
ดร. เมอร์เรย์ ผู้อำนวยการสถาบันตัวชี้วัดและการประเมินด้านสุขภาพ ชี้ว่าในปีนี้อาจมีผู้ติดเชื้อโอมิครอนถึงหลายพันล้านคนทั่วโลก แต่ไม่มีเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น มีเพียงสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนเท่านั้น ทั้งนี้ มีการค้นพบโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเป็นครั้งแรกในแอฟริกาใต้เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว โดยเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้ง่ายกว่าแต่ทำให้เกิดอาการป่วยน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ปรากฏในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อปลายปี 2562
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เตือน! พิษจากปลาปักเป้า กินแล้วเสี่ยงอันตรายถึงตาย : อินโฟเควสท์นายถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เตือนประชาชนระวัง พิษร้ายจากปลาปักเป้า แม้บริโภคเพียงเล็กน้อยแต่สามารถเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เผยส่วนใหญ่พบปะปนในเนื้อปลาแล่ที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป จึงขอให้ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าสังเกตให้ดีก่อนนำมาจำหน่ายหรือซื้อรับประทานเนื่องจากหากได้รับพิษเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เสียชีวิตได้ ดังกรณีของประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับอันตรายจากการบริโภคเนื้อปลาปักเป้าแล่ที่ซื้อจากตลาด โดยพิษทำให้เกิดอาการหมดสติและกล้ามเนื้อกระตุกไปทั้งตัว สำหรับปลาปักเป้าในประเทศไทยสามารถพบได้ทั้งในน้ำจืดและทะเล มีทั้งชนิดที่มีพิษและไม่มีพิษ ขณะที่พิษของปลาปักเป้าพบได้ทุกส่วนของตัวปลา แต่พบมากที่บริเวณไข่ ตับ เครื่องใน และหนัง โดยสามารถแยกประเภทของพิษตามชนิดของปลาปักเป้าได้ดังนี้ 1.ปลาปักเป้าทะเลมีพิษที่เรียกว่า “เทโทรโดท็อกซิน” (Tetrodotoxin) ซึ่งมีผลต่อการทำงานของระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท ทำให้เกิดอาการลิ้นชา อาเจียน กล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรง เดินเซ ขยับเขยื้อนไม่ได้ หายใจลำบาก ซึ่งหากมีอาการแพ้มากและรักษาไม่ทันอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยอาการมักเกิดอย่างรวดเร็วหลังรับประทานภายใน 5-20 นาที หรืออาจนานถึง 2-3 ชั่วโมง 2.ปลาปักเป้าน้ำจืดมีพิษที่จัดอยู่ในกลุ่ม PSP (Paralytic Shellfish Poison) เมื่อได้รับพิษเข้าสู่ร่างกายพิษจะเข้าไปขัดขวางเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทและเซลล์กล้ามเนื้อ จึงเกิดการยับยั้งการส่งกระแสประสาทและการส่งสัญญาณไฟฟ้าของเซลล์ต่างๆ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการชาและเกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย และที่เป็นอันตรายที่สุดคือการเป็นอัมพาตของกล้ามเนื้อช่วยหายใจ ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวการณ์หายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ โฆษกกรมประมง กล่าวว่า ผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาปักเป้าอย่างเด็ดขาด โดยสังเกตเลือกซื้อปลาที่ผ่านการแล่ทุกครั้ง หากเป็นเนื้อปลาปักเป้าจะมีลักษณะชิ้นเนื้อหนา สีขาวอมชมพู ลายกล้ามเนื้อไม่ชัดเจน และมีเยื่อพังผืดหุ้มชิ้นเนื้อ เมื่อปรุงสุกเนื้อจะมีสีขาวคล้ายเนื้อไก่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
พลังประชารัฐ ปัดข่าวลือ! 'มิ่งขวัญ' ไขก๊อก : อินโฟเควสท์นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นการลาออกที่พรรค พปชร. หรือที่ กกต. ช่วงบ่ายวันนี้เกิดกระแสข่าวสะพัดว่านายมิ่งขวัญ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว ท่ามกลางกระแสต้านภายในพรรค หลังที่ได้ประกาศเงื่อนไขการเข้าร่วมพรรคคือจะต้องเป็นแคนดิเดตนายรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ภท.ยืนกราน! กยศ.ต้องปลอดดอกเบี้ย หากครั้งหน้าเป็นรัฐบาล : อินโฟเควสท์พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ประกอบด้วย นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่, ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย และนายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม. ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … หลังจากที่วุฒิสภาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งจากเดิม กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) มีการคิดดอกเบี้ยกู้ยืมไม่เกิน 7.5% ต่อปี กำหนดเบี้ยปรับ 1.5% ต่อเดือน หรือ 18% ต่อปี และกำหนดให้ต้องมีผู้ค้ำประกัน ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ได้เสนอแก้ไขโดยไม่ให้มีการคิดดอกเบี้ยกู้เงิน ไม่มีเบี้ยปรับ และไม่มีผู้ค้ำประกัน โดยร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาในชั้นของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ขณะที่ ที่ประชุมวุฒิสภาได้แก้ไขร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยให้มีการคิดดอกเบี้ย 1% และมีเบี้ยปรับ 0.5% ต่อปี และส่งกลับมายังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับการคิดดอกเบี้ย และต้องไม่มีค่าปรับ ไม่มีผู้ค้ำประกัน โดยให้ปลดล็อกทั้งหมด ซึ่งเมื่อพรรคฯ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ทองปิดลบ $7.3 เหตุดอลล์แข็งกดดันตลาด : อินโฟเควสท์สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (28 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหลังจากจีนประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าคาดทั้งขาเข้าและขาออกในเดือนม.ค.ปีหน้า สัญญาทองคำร่วงหลุดจากระดับ 1,820 ดอลลาร์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.31% แตะที่ 104.4770 เมื่อคืนนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (27 ธ.ค.) สัญญาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 1.05% ปิดที่ระดับ 1,823.1 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหลังจากจีนประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าคาดทั้งขาเข้าและขาออกในเดือนม.ค.ปีหน้า สำหรับความเคลื่อนไหวในด้านอื่น ๆ นั้น กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มการถือครองทอง 0.6% สู่ระดับ 918.51 ตันเมื่อวันอังคาร โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ กลุ่มพลังงานร่วงกดดันตลาด : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (28 ธ.ค.) เนื่องจากถูกกดดันโดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนยังคงประเมินมาตรการต่าง ๆ ของจีนที่จะเปิดเศรษฐกิจหลังจากได้รับผลกระทบจากโรคโควิดระบาด ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวได้ดีกว่าตลาดหุ้นยุโรปอื่น ๆ ในการเปิดทำการวันแรกหลังวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มที่พึ่งพาตลาดจีน และยังได้แรงหนุนจากหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากราคาน้ำมันและโลหะพื้นฐานทะยานขึ้นท่ามกลางภาวะสงครามในรัสเซีย-ยูเครน หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ของยุโรป เพิ่มขึ้น 0.6% เนื่องจากราคาทองแดงทะยานขึ้นรับความหวังว่าอุปสงค์จากจีนจะฟื้นตัว หลังจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดลงอีกเมื่อวันจันทร์และเตรียมเปิดประเทศในช่วงต้นเดือนหน้า ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินในตลาดหุ้นลอนดอน ซึ่งพึ่งพาตลาดจีน อาทิ พรูเดนเชียล และเอชเอสบีซี ปรับตัวขึ้น 0.6% และ 1.5% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ดัชนี STOXX 600 มีแนวโน้มร่วงลงมากกว่า 12% ในปีนี้ เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังธนาคารกลางทั่วโลกคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกส่งผลกดดันตลาด หุ้นกลุ่มพลังงาน ร่วงลง 0.8% ตามทิศทางราคาน้ำมัน ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลง 0.9% ตามหุ้นสหรัฐ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นกดดันหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย และหุ้นกลุ่มนี้ร่วงลงเกือบ 28.4% แล้วในปีนี้ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลง 1.2-4% หลังสำนักงานต่อต้านการผูกขาดของอิตาลีเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สายการบินต่าง ๆ อาทิ […]
อ่านเพิ่มเติม »