ผถห.INTUCH ไฟเขียวขาย THCOM 41.13% ให้ GULF GULF INTUCH THCOM กัลฟ์เอ็นเนอร์จีดีเวลลอปเมนท์ หุ้นไทย อินทัชโฮลดิ้งส์ ไทยคม อินโฟเควสท์
บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 วันนี้มีมติอนุมัติขายหุ้น บมจ.ไทยคม ที่ถืออยู่ทั้ง 450,870,934 หุ้น คิดเป็น 41.13% ให้กับกลุ่ม บมจ.กัลฟท์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ในราคาซื้อขายหุ้นละ 9.92 บาท คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4,472.64 ล้านบาท
โดยมีคะแนนเสียงเห็นด้วย 1,107,163,770 เสียง หรือคิดเป็น 94.7738% ส่วนผู้ไม่เห็นด้วยมีคะแนนเสียง 61,043,044 เสียง หรือคิดเป็น 5.2253% และงดออกเสียง 9,618 เสียง คิดเป็น 0.0008%โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เซาท์เวสต์แอร์ไลน์ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 60% เซ่นพิษพายุหิมะกระทบเดินทาง : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ได้ยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 60% ในวันจันทร์ (26 ธ.ค.) โดยการระงับเที่ยวบินเป็นผลจากสภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงฤดูหนาว ซึ่งส่งผลกระทบกับสายการบินอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน จากข้อมูลของ FlightAware ซึ่งเป็นบริษัทติดตามข้อมูลเที่ยวบินแบบเรียลไทม์พบว่า สายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ยกเลิกเที่ยวบินในสหรัฐมากกว่า 17,000 เที่ยวแล้วนับตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (21 ธ.ค.) เนื่องจากพายุพัดพาหิมะ น้ำแข็ง ลมแรงและสภาพอากาศที่หนาวเหน็บไปทั่วประเทศ และส่งผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศทั่วสหรัฐ ด้วยสภาวะเช่นนี้ทำให้ลูกเรือทำงานได้อย่างลำบากท่ามกลางสภาพเลวร้ายที่สนามบิน สายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมกับเที่ยวบินที่ลดจำนวนลงอยู่แล้ว ขณะที่การเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่กำลังจะมาถึง สายการบินต่าง ๆ มีแนวโน้มว่าจะรายงานความเสียหายที่เป็นผลจากการระงับเที่ยวบินในการรายงานผลประกอบการในเดือนหน้าหรืออาจจะเร็วกว่านั้น ขณะที่สายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์เผชิญปัญหาต่าง ๆ มากกว่านั้น โดยทีมผู้บริหารเปิดเผยว่ามีหมอกลงจัดอย่างไม่คาดคิดที่เมืองซานดิเอโก, ขาดแคลนพนักงานในจุดจำหน่ายเชื้อเพลิงในเมืองเดนเวอร์ รวมถึงเรื่องเทคโนโลยีภายใน และปัญหาอื่น ๆ อีก ส่วนสายการบินเดลตาแอร์ไลน์, อเมริกันแอร์ไลน์, ยูไนเต็ดแอร์ไลน์, เจ็ตบลูแอร์เวย์ และอะแลสกาแอร์ไลน์ ก็เป็นสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพอากาศเช่นกัน แต่สายการบินอื่น ๆ ยกเลิกเที่ยวบินเพียง 1% เมื่อวันจันทร์ (26 ธ.ค.) ทั้งนี้ มากกว่า 3,200 เที่ยวบินภายในประเทศสหรัฐถูกยกเลิกในวันจันทร์ และอีกเกือบ […]
อ่านเพิ่มเติม »
EGCO รับทรัพย์ 1.68 หมื่นลบ. หลังปิดดีลขาย 3 โรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพในอินโดฯ : อินโฟเควสท์บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ประกาศขายหุ้นทั้งหมดในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ จำนวน 3 แห่ง ในประเทศอินโดนีเซีย ให้แก่บริษัท สตาร์ เอ็นเนอร์ยี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด โดยการซื้อขายหุ้นดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 โดยเอ็กโก กรุ๊ป รับรู้รายได้จากการขายหุ้นทั้งสิ้น 485 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเท่าประมาณ 16,780 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 บริษัท โฟนิกซ์ พาวเวอร์ บีวี (พีพี) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเอ็กโก ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท สตาร์ เอ็นเนอร์ยี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เพื่อขายหุ้นในบริษัท สตาร์ เอ็นเนอร์ยี่ จีโอเทอร์มอล จำกัด (เอสอีจี) สัดส่วน 20% ของหุ้นสามัญที่ออกชำระแล้ว และขายหุ้นในบริษัท สตาร์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
เงินบาทเปิด 34.61 ให้กรอบวันนี้ 34.50-34.85 ตลาดรอดูตัวเลขส่งออกไทย : อินโฟเควสท์นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.61 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.75 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าขึ้น หลังจากมีข่าวว่าประเทศจีนจะยกเลิกมาตรการกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ โดยจะมีผล ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.66 ซึ่งเป็นข่าวดีที่ตลาดมองว่าจีนจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Zero Covid และน่าจะจุดประกายความหวังต่อการเปิด ประเทศได้ในระยะต่อไป อย่างไรก็ดี วันนี้ตลาดอาจยังมีการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนยังอยู่ในช่วงฉลองเทศกาลคริสต์มาส ประกอบ กับเป็นช่วงใกล้สิ้นปี นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.85 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้ ต้อง ติดตามการแถลงยอดส่งออก-นำเข้า เดือนพ.ย.65 จากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตลาดคาดว่าการส่งออกยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องจากเดือน ต.ค. THAI BAHT FIX 3M (26 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.18249% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.68840% ปัจจัยสำคัญ – เงินเยนอยู่ที่ระดับ […]
อ่านเพิ่มเติม »
อัตราว่างงานญี่ปุ่นลดลงแตะ 2.5% ในเดือนพ.ย. ส่งสัญญาณตลาดแรงงานฟื้นตัว : อินโฟเควสท์กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ (27 ธ.ค.) ว่า อัตราว่างงานของญี่ปุ่นในเดือนพ.ย.ลดลงแตะระดับ 2.5% จากระดับ 2.6% ในเดือนต.ค ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่ตลาดแรงงานของญี่ปุ่นส่งสัญญาณฟื้นตัว ขณะที่สัดส่วนตำแหน่งงานว่างต่อผู้สมัครงานทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.35 ในเดือนพ.ย ซึ่งหมายความว่ามีตำแหน่งงานว่าง 135 ตำแหน่งต่อจำนวนผู้หางาน 100 คน ธุรกิจที่พักอาศัยและร้านอาหารของญี่ปุ่นมีการจ้างงานสูงที่สุดในเดือนพ.ย. โดยปรับตัวขึ้น 21.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้รับปัจจัยบวกจากโครงการอุดหนุนอุตสาหกรรมการเดินทางภายในประเทศของรัฐบาล รวมถึงการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดปีใหม่ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 รายงานของกระทรวงยังระบุด้วยว่า จำนวนคนว่างงานในเดือนพ.ย. ลดลง 50,000 ราย หรือ 2.8% จากเดือนต.ค. แตะที่ระดับ 1.73 ล้านคน โดยในจำนวนนี้มี 710,000 รายที่ออกจากงานโดยสมัครใจ ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.2% จากเดือนต.ค. ขณะที่ 420,000 คนถูกเลิกจ้างงาน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวปรับตัวขึ้น 2.4% จากเดือนต.ค. โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ธ.ค. […]
อ่านเพิ่มเติม »
แบงก์ชาติรัสเซียส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า หากเงินเฟ้อกระทบศก. : อินโฟเควสท์นายอเล็กซี ซาบอตคิน รองผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซียให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อาร์บีซีของรัสเซียในวันนี้ (27 ธ.ค.) ว่า ธนาคารกลางรัสเซียอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 หากความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อเช่นภาวะขาดแคลนแรงงานและมาตรการควบคุมการส่งออก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของรัสเซียอย่างมีนัยสำคัญ ในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางรัสเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 7.5% แต่ธนาคารกลางได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ โดยกล่าวว่า การที่รัสเซียระดมกำลังทหารเมื่อไม่นานมานี้ทำให้ภาวะขาดแคลนแรงงานทวีความรุนแรงมากขึ้น “หากเราพิจารณาแล้วเห็นว่าจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อทำให้เงินเฟ้อมีเสถียรภาพที่ระดับ 4% ภายในปี 2567 เราก็จะทำเช่นนั้น” นายซาบอตคินกล่าว ทั้งนี้ รองผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซียระบุว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อสู้, ภาวะขาดแคลนแรงงาน, ปัญหาติดขัดด้านโลจิสติกส์, การขาดดุลงบประมาณที่สูงกว่าคาด และวิกฤตเศรษฐกิจในต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่เป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของรัสเซีย “ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จะส่งผลให้รัสเซียเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่รุนแรง และปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ธนาคารกลางต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีความเป็นไปได้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในปี 2566” เขากล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วซึ่งระบุว่า ธนาคารกลางรัสเซียมีโอกาสน้อยมากที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะอยู่เหนือเป้าหมายของธนาคารกลางต่อไป โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »