นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้ กอนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วานนี้ (1 ต.ค.) อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) กรมทรัพยากรน้ำ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (Gistda) เป็นต้น ณ สำนักงานชลประทานที่ 7 จ.อุบลราชธานี พร้อมลงพื้นที่ประสบอุทกภัย บริเวณชุมชนวัดหลวง 2 ชุมชนเกตุแก้ว เทศบาลเมืองวารินชำราบ และจุดติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณแก่งสะพือ ว่า แม้ว่าพายุโนรูจะอ่อนกำลังและสลายตัวแล้ว แต่ก็ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งลำน้ำชีและมูล ที่ยังคงสูงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสภาพอากาศในระยะนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งถือว่าก็ยังมีความเสี่ยงจากฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง จึงต้องบริหารจัดการน้ำอย่างระมัดระวัง โดยคำนึงผลกระทบกับประชาชนส่วนใหญ่และพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงเร่งสำรวจโครงสร้างระบบชลประทาน คันกั้นน้ำ อุปกรณ์เครื่องจักรเครื่องมือให้พร้อมใช้งาน เพื่อเร่งสูบน้ำและระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขังให้กลับเข้าสู่ลำน้ำ และระบายลงสู่แม่น้ำโขงโดยเร็วที่สุด โดยปัจจุบันระดับน้ำมูลสถานี M.7 …
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้ กอนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วานนี้ อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารเทศทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เป็นต้น ณ สำนักงานชลประทานที่ 7 จ.
พล.อ.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
กอนช.ประกาศเตือนเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ 1 ต.ค. : อินโฟเควสท์กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)ออกประกาศ เรื่องเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ว่าเนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “โนรู” ในช่วงวันที่ 28 -30 กันยายน 2565 ทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือ และภาคกลาง ส่งผลให้มีน้ำท่าหลากลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสัก ปริมาณมากขึ้น กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 2,600-2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แล้วไหลมารวมกับแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา โดยกรมชลประทานได้พิจารณารับน้ำเข้าคลองฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกเต็มศักยภาพคลองที่สามารถรองรับน้ำได้ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในอัตรา 2,600-2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงวันที่ 1-7 ตุลาคม 2565 ประกอบกับคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในช่วงวันที่ 30 กันยายน – 6 ตุลาคม 2565 ประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีแนวโน้มเกินความจุที่ระดับเก็บกักสูงสุด จึงจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 และจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก ในอัตราไม่เกิน 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงขอให้เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยง ดังนี้ 1. แม่น้ำป่าสัก บริเวณริมแม่น้ำป่าสัก …
อ่านเพิ่มเติม »
กอนช. ออกประกาศเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ 1 ต.ค.65 จากอิทธิพลพายุโนรู
อ่านเพิ่มเติม »
จับตาประชุมโอเปกพลัส 5 ต.ค.นี้ อาจลดการผลิตน้ำมันถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน : อินโฟเควสท์แหล่งข่าวโอเปกเปิดเผยกับรอยเตอร์ในวันนี้ (1 ต.ค.) ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะจัดประชุมผู้แทนสมาชิกแบบพบหน้ากันในวันพุธที่ 5 ต.ค.นี้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ทั้งนี้ โอเปกพลัสจะจัดการประชุมแบบออนไลน์ร่วมด้วยสำหรับผู้แทนประเทศสมาชิกบางคนที่ไม่สามารถเดินทางไปเข้าร่วมประชุมด้วยตัวเองได้ เนื่องจากโอเปกประกาศแจ้งอย่างกระชั้นชิดสำหรับการจัดประชุมแบบพบหน้ากัน โอเปกพลัสจัดประชุมดังกล่าวท่ามกลางภาวะราคาน้ำมันที่ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายปีที่เข้าทดสอบในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และภาวะตลาดผันผวนอย่างหนัก แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า กลุ่มโอเปกพลัสซึ่งรวมถึงรัสเซีย จะจัดการเจรจาที่มุ่งเน้นไปที่แนวโน้มการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง 500,000 บาร์เรลถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเพื่อพยุงตลาดน้ำมัน โดยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียอาจเสนอให้โอเปกพลัสปรับลดการผลิตน้ำมันลงถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ผบ.ตร.เตรียมพร้อมรับมือการชุมนุม เข้าใจสิทธิ ปชช. เน้นรักษาสถานที่สำคัญ : อินโฟเควสท์พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงงานด้านความมั่นคง การดูการชุมนุม หลังจากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ว่า เมื่อยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็ใช้ พ.ร.บ.ชุมชนมสาธารณะ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเข้าดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย ผบ.ตร. กล่าวว่า การชุมนุมเป็นสิทธิพื้นฐาน แต่ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมาย ตามหน้าที่ ที่กฎหมายมีอยู่ ผู้ชุมนุมสามารถเรียกร้องได้ตามสิทธิ แต่อยากให้ผู้ชุมนุมเข้าใจกฎหมายและหน้าที่ ที่ผ่านมาพูดคุยกับแกนนำมาโดยตลอด เพื่อทำความเข้าใจกันให้อยู่ในกรอบกฎหมาย เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน เราต่างทำหน้าที่ ผู้ชุมนุมที่เห็นต่าง ก็ทำหน้าที่ของท่าน ขอให้เข้าใจตำรวจด้วย หากตำรวจไม่ทำตามกฎหมายก็มีความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เราบังคับใช้กฎหมาย ไม่อยากให้เกิดการปะทะกัน “เราไม่เคยมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อผู้ชุมนุม เน้นการรักษาสถานที่สำคัญ ดูแลความปลอดภัย เราเน้นใช้ในการปกป้องรักษาสถานที่สำคัญ ถ้าไม่บุกมาเราไม่ใช้อยู่แล้ว อยู่ในกรอบกฎหมาย และไม่เคยมีความคิดที่จะใช้อุปกรณ์พิเศษเลย ผมมองในฐานะตำรวจของทุกท่านด้วยความเข้าใจเห็นใจ พวกท่านมาด้วยความเห็นอิสระของท่านได้” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว ต่อข้อซักถามว่าหากผู้ชุมนุมลงถนน จะใช้รถฉีดน้ำ หรือจีโน่ หรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ถึงขั้นนั้น เราเน้นการรักษาสถานที่สำคัญเป็นหลัก การปฏิบัติการต่างๆ เราทำตามกฎหมาย การจัดกำลังไปดูแลการชุมนุม เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยก็เป็นการจัดกองกำลังตามปกติ …
อ่านเพิ่มเติม »
มหาสมุทรอาร์กติกกลายเป็นกรดหลังน้ำแข็งละลาย จ่อกระทบสิ่งมีชีวิตในทะเล : อินโฟเควสท์กลุ่มนักวิจัยนานาชาติ ซึ่งนำโดยคณะนักวิทยาศาสตร์ของจีนเปิดเผยว่า มหาสมุทรอาร์กติกกำลังมีความเป็นกรดรวดเร็วกว่ามหาสมุทรเปิดแห่งอื่นๆ ของโลก เนื่องจากการละลายของน้ำแข็งในทะเล สำนักข่าวซินหัวรายงานผลการศึกษาในวารสารไซแอนซ์ (Science) เมื่อวันศุกร์ (30 ก.ย.) ระบุว่า อัตราการเป็นกรดในมหาสมุทรอาร์กติกฝั่งตะวันตกนั้นเร็วกว่าในแอ่งมหาสมุทรอื่นๆ ราว 3-4 เท่า โดยการเพิ่มขึ้นของคาร์บอนไดออกไซด์จากฝีมือมนุษย์ ส่งผลให้น้ำทะเลมีความเป็นกรดมากขึ้นและแคลเซียมคาร์บอเนตอิ่มตัวน้อยลง ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกว่า “ปรากฏการณ์ทะเลกรด” (ocean acidification) ทีมวิจัยที่นำโดยคณะนักวิจัยจากสถาบันวิจัยทะเลและขั้วโลกแห่งมหาวิทยาลัยจี๋เหม่ย ได้ทำการสังเคราะห์ข้อมูลคาร์บอเนตในมหาสมุทรจากการล่องเรือวิจัย 47 ครั้งรอบมหาสมุทรอาร์กติกระหว่างปี 2537-2563 เพื่อตรวจสอบว่าวัฏจักรคาร์บอนของมหาสมุทรดังกล่าวนั้นตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างไร ทีมวิจัยพบพื้นที่ส่วนใหญ่ของน้ำทะเลที่เคยถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งนั้นได้สัมผัสกับบรรยากาศ ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการหดตัวของน้ำแข็งทะเล โดยภาวะดังกล่าวกระตุ้นการดูดซึมคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศอย่างรวดเร็ว นำไปสู่ความเป็นกรดของมหาสมุทร และความจุบัฟเฟอร์ (buffer capacity) ของมหาสมุทรลดต่ำลง นอกจากนี้ ทีมวิจัยคาดการณ์ว่า ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) จะลดลงอีก ณ ระดับละติจูดที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นระดับที่ยังคงเผชิญการหดตัวของน้ำแข็งทะเล พร้อมเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการลดการปล่อยคาร์บอนเพื่อรักษาระบบนิเวศของอาร์กติก “ความเป็นกรดของมหาสมุทรสามารถส่งผลร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น หอยกาบ หอยแมลงภู่ และหอยสังข์ ซึ่งเป็นอาหารหลักสำหรับปลาแซลมอนและปลาเฮอริงอาร์กติก” ฉีตี้ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยจี๋เหม่ย และผู้เขียนงานวิจัยกล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ …
อ่านเพิ่มเติม »
นายกฯเชื่อมั่น'เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด'เจาะตลาดซาอุฯเพิ่มมูลค่า 1 หมื่นลบ.ใน1 ปี : อินโฟเควสท์นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รับทราบการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ นายอับดุลเราะห์มาน บิน อับดุลมุห์สินอัลฟัฎลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม น้ำ และการเกษตร แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งได้หารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 30 ก.ย ที่ผ่านมา เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ภายหลังการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันให้กลับเป็นปกติโดยสมบูรณ์ ผลจากการไปเยือนซาอุดีอาระเบียของนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนมกราคม 2565 ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย กล่าวถึงผลการหารือว่าไทยและซาอุดีอาระเบียเห็นพ้องให้มีกลไกความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกัน โดยฝ่ายซาอุฯ เสนอให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ที่จะครอบคลุมหลายด้าน เช่น ด้านการประมง เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และกฎระเบียบการลงทุนด้านกิจการประมงในซาอุดีอาระเบีย และด้านการค้าสินค้าเกษตร ซึ่งซาอุฯเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง จะมีการขยายความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนในลักษณะ Business to Business (B2B) และการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) เพื่อเพิ่มโอกาสการค้าและการลงทุนด้านเกษตรและอาหาร โดยสำนักการเกษตรต่างประเทศจะเป็นผู้ประสานงานในเรื่องดังกล่าวต่อไป มากไปกว่านั้น ทางซาอุฯ …
อ่านเพิ่มเติม »