บอร์ดมาตรฐานสินค้าเกษตรเห็นชอบ 6 ร่างมาตรฐาน พร้อมยกระดับสินค้าเกษตรสู่เวทีโลก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สินค้าเกษตร อินโฟเควสท์
นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร ครั้งที่ 4/2565 ว่า ในที่ประชุมได้พิจารณาร่างประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดอัตราค่าบริการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับมาตรฐานทั่วไป พ.ศ. … โดยได้ดำเนินการจัดทำร่างค่าบริการตรวจสอบ และรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับ GAP และ Organic สำหรับสินค้าเกษตร จำนวน 3 ประเภท ได้แก่ 1.ประเภทพืชอาหาร พืชสมุนไพร ไม้ผล หม่อน ไม้ดอก เห็ด ชา และกาแฟ 2.
1. หลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียน สำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ เนื่องจากมีข้อมูลว่าในช่วงต้นฤดูจะมีการตัดทุเรียนด้อยคุณภาพ ออกสู่ตลาดเพื่อเร่งจำหน่าย ซึ่งเป็นการทำลายตลาดทุเรียนในภาพรวม ส่งผลกระทบทำให้ราคาทุเรียนทั้งตลาดภายในและต่างประเทศมีราคาตกต่ำ เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อทุเรียนไทย จึงได้มีการจัดทำมาตรฐานสินค้าเกษตรที่เกี่ยวกับการปฏิบัติที่ดี
ดังนั้น จึงควรจัดทำมาตรฐานองุ่นของประเทศ เพื่อเป็นเกณฑ์ทางการค้า และสนับสนุนให้เกษตรกรพัฒนาคุณภาพของผลิตผล โดยมาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ จะครอบคลุมข้อกำหนดด้านคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับองุ่น ที่มีการจัดเตรียม และบรรจุหีบห่อ ไม่รวมองุ่นที่ใช้แปรรูปอุตสาหกรรม 4. บรอกโคลี เป็นผักที่จัดอยู่ในกลุ่มของผักตระกูลกะหล่ำที่มีการนำเข้าและมีการขยายพื้นที่ปลูกในประเทศมากขึ้น โดยในปี 64 มีพื้นที่ปลูกบรอกโคลี 175.5 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 181.35 ตัน และผลผลิตต่อไร่ 1,495 กิโลกรัม ทั้งนี้ มีการนำเข้าบรอกโคลี 21,475 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 459 ล้านบาท ในปี 59 คณะทำงานจัดทำมาตรฐานอาเซียนสำหรับผลิตผลพืชสวนและพืชอาหารอื่นๆ ได้ประกาศมาตรฐานอาเซียน เรื่อง บรอกโคลี
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
มอร์แกน สแตนลีย์ ชี้ บริษัทเทคโนฯแห่ปลดพนักงานไม่ลามอุตสาหกรรมอื่น : อินโฟเควสท์พนักงานบริษัทเทคโนโลยีตั้งแต่อาซานา (Asana) ไปจนถึงแอมะซอนและเมตาต้องประสบกับกระแสการปลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่โรคโควิด-19 ระบาด แต่นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์มองว่า การปลดพนักงานเหล่านี้ไม่ใช่ “สัญญาณการเปลี่ยนแปลง” สำหรับตลาดแรงงานในวงกว้าง ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขนาดใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยี และการจ้างงานแบบผิดปกติในภาคเทคโนโลยีเมื่อเทียบกับการจ้างงานในภาคส่วนอื่น ๆ ทำให้การปลดพนักงานในภาคเทคโนโลยีส่งผลกระทบต่อการรับรู้อย่างมาก นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า บริษัทเทคโนโลยีปลดพนักงานไปแล้วราว 187,000 คนนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2564 แม้เป็นตัวเลขที่สูงสำหรับภาคเทคโนโลยี แต่คิดเป็นเพียงกว่า 0.1% ของการจ้างงานทั้งหมดในสหรัฐ มอร์แกน สแตนลีย์ยังคงคาดการณ์ว่า การจ้างงานจะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง โดยได้รับแรงกดดันจากการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดการลดการจ้างงานในเกือบทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า ไม่น่าจะเกิดการปลดพนักงานครั้งใหญ่ในภาคอื่น ๆ นอกเหนือไปจากภาคเทคโนโลยี เนื่องจากสหรัฐยังคงเผชิญภาวะขาดแคลนแรงงานอย่างมาก แม้ว่าผู้บริหารต้องการลดต้นทุนแรงงาน แต่ก็แทบไม่มีโอกาสให้ดำเนินการเช่นนั้น โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
วิจัยกสิกรฯ คาดปี 66 ยอดเงินฝากโต 4.0-5.5% ตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น-ศก.ฟื้นตัว : อินโฟเควสท์ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ตั้งแต่รอบการประชุมเดือนส.ค. และก.ย. 65 ครั้งละ 0.25% รวมเป็น 0.50% จนทำให้ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยยืนอยู่ที่ 1.00% นั้น ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ ยังไม่ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยตามในทันทีในระยะแรกๆ อย่างไรก็ดี ในเดือนต.ค. 65 การปรับอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารพาณิชย์เริ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ทั้งธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ในระยะข้างหน้า แม้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เงินฝากจะไม่ได้เติบโตในอัตราเร่ง แต่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากน่าจะปรับสูงขึ้นในลักษณะที่ชันขึ้นอีก โดยมาจากแรงส่งทั้งการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ (ก่อนกำหนดการปรับเพิ่มอัตรานำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ อีก 0.23% ในช่วงต้นปี 66) ทำให้มีโอกาสที่จะเห็นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับขึ้นมากกว่า 0.50% ภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 66 ส่วนประมาณการเงินฝากของระบบธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ ณ สิ้นปี 65 นี้ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.5-3.7% (เทียบกับ 4.0% ณ สิ้นปี 64 และ 3.6% ณ …
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบ นลท.วิตกจีนคุมเข้มโควิด : อินโฟเควสท์หุ้นยุโรปเปิดตลาดแดนลบในวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อเศรษฐกิจ เช่น เหมืองและอุตสาหกรรม นำตลาดปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นในจีน ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 432.85 จุด ลดลง 0.48 จุด หรือ -0.11% หลังปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 14,395.53 จุด ลดลง 36.33 จุด หรือ -0.25% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 6,625.10 จุด ลดลง 19.36 จุด หรือ -0.29% หุ้นกลุ่มเหมือง การเดินทางและนันทนาการ รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมและบริการปรับตัวลดลงระหว่าง 0.5% -1.4% โดยนำตลาดยุโรปปรับตัวลง เทศบาลกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีน สั่งล็อกดาวน์เขตต่าง ๆ หลายแห่ง หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกรุงปักกิ่งย่ำแย่ลง โดยปักกิ่งรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 …
อ่านเพิ่มเติม »
ศาลนิวซีแลนด์ชี้การกำหนดให้มีสิทธิเลือกตั้งต้อง 18 ปีขึ้นไป เป็นการเลือกปฎิบัติ : อินโฟเควสท์ศาลฎีกานิวซีแลนด์มีมติวันนี้ (21 พ.ย.) ว่า การกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปถือเป็นการเลือกปฏิบัติ ส่งผลให้รัฐสภาต้องหารือกันว่าควรปรับเกณฑ์อายุให้ลดลงหรือไม่ สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า คดีดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของศาลมาตั้งแต่ปี 2563 โดยกลุ่มผู้สนับสนุนที่ใช้ชื่อว่า “Make It 16” ซึ่งต้องการให้ลดเกณฑ์อายุที่มีสิทธิเลือกตั้งลงมาอยู่ที่ 16 และ 17 ปี ศาลฎีกาลงความเห็นว่า เกณฑ์ปัจจุบันที่กำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่สอดคล้องกับบัญญัติว่าด้วยสิทธิพื้นฐานของพลเมืองของนิวซีแลนด์ ซึ่งให้สิทธิแก่ประชาชนที่จะไม่ถูกเลือกปฏิบัติทางอายุเมื่ออายุครบ 16 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ มติดังกล่าว นำมาซึ่งกระบวนการนำเรื่องเข้าสู่รัฐสภาเพื่อให้เกิดการอภิปรายและการตรวจสอบจากคณะกรรมการคัดเลือกของรัฐสภา อย่างไรก็ตาม มติในครั้งนี้ไม่ได้บังคับให้รัฐสภาต้องเปลี่ยนแปลงอายุผู้มีสิทธิเลือกตั้งแต่อย่างใด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
'บ๊อบ ไอเกอร์' หวนทวงบัลลังก์ซีอีโอ 'ดิสนีย์' หวังกอบกู้ความเชื่อมั่นนลท. : อินโฟเควสท์นายบ๊อบ ไอเกอร์ตกลงกลับมาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทวอล์ต ดิสนีย์ โคอีกครั้ง หลังจากเพิ่งเกษียณไปไม่ถึงหนึ่งปี โดยความเคลื่อนไหวที่เหนือความคาดหมายนี้เกิดขึ้น ในขณะที่บริษัทดังกล่าวพยายามเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนและกอบกู้กำไรให้กับธุรกิจสื่อสตรีมมิงของตน ทั้งนี้ ดิสนีย์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (20 พ.ย.) ว่า นายไอเกอร์ตัดสินใจกลับมาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารให้กับบริษัทอีก 2 ปี โดยมีผลในทันที โดยเขาจะขึ้นมาทำหน้าที่แทนนายบ๊อบ ชาเปก ซึ่งเพิ่งก้าวเข้าสู่ตำแหน่งดังกล่าวต่อจากนายไอเกอร์ในเดือนก.พ. 2563 อันเป็นช่วงที่เกิดโควิด-19 ระบาดได้ไม่นาน ซึ่งนำไปสู่การสั่งปิดสวนสนุกและออกมาตรการจำกัดการเข้าใช้บริการของลูกค้าทั่วโลก แม้นายชาเปกเป็นผู้นำพาดิสนีย์ก้าวผ่านสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ดิสนีย์ได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนในเดือนนี้ ด้วยการรายงานผลประกอบการที่แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจสื่อสตรีมมิงประสบปัญหาขาดทุนแบบต่อเนื่อง ดิสนีย์รายงานว่า เดือนนี้ ดิสนีย์รายงานภาวะขาดทุนเพิ่มมากขึ้นสำหรับธุรกิจสื่อสตรีมมิงประจำไตรมาส 4/2565 ซึ่งรวมถึง “ดิสนีย์พลัส” (Disney+) ฉุดให้หุ้นร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี หลังการเผยผลประกอบการเพียงหนึ่งวัน หุ้นดิสนีย์ร่วงกว่า 40% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่ปรับตัวลดลงเกือบ 7% โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
นายกฯ ย่องเงียบลงพื้นที่สนามกีฬาเคหะคลองจั่น ส.ส.พปชร.ต้อนรับ ปัดพูดการเมือง : อินโฟเควสท์รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.00 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ไปสนามกีฬาเคหะคลองจั่น เขตบางกะปิ เป็นการส่วนตัว โดยไม่มีการแจ้งวาระงานใดๆ ซึ่งเขตบางกะปิเป็นพื้นที่ของ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันท์ ส.ส.กทม.เขตบางกะปิ พรรคพลังประชารัฐ น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุว่า การลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อพบปะคณะทำงานร่วมจัดกิจกรรม ระหว่างการเคหะแห่งชาติ กับตัวแทนภาคประชาชน(แบบส่วนตัว) ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของนายกฯ ไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า แต่ตนได้ประชุมกับชาวบ้านในพื้นที่การเคหะฯ อยู่แล้ว จึงทราบว่านายกฯ จะมาลงพื้นที่จึงออกไปตอนรับ โดยนายกรัฐมนตรีใช้เวลาประมาณอยู่ในพื้นที่ประมาณ 45 นาที พร้อมกับได้เยี่ยมชมสนามกีฬาการเคหะแห่งชาติคลองจั่น เป็นต้นแบบในการร่วมมือระหว่างภาครัฐและประชาชน น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้พูดคุยเรื่องการเมือง หรือทาบทามไปอยู่พรรคร่วมไทยสร้างชาติตามที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไปเป็นประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับโทรศัพท์ติดต่อจากคณะทำงาน พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แต่อย่างใด ส่วนตนเองยังไม่ได้ตัดสินใจอนาคตทางการเมืองว่าจะอยู่พรรคพลังประชารัฐ หรือไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ และยังตั้งมั่นแน่วแน่ทำหน้าที่ ส.ส.เพื่อประชาชน ในระหว่างการลงพื้นที่ …
อ่านเพิ่มเติม »