บล.กสิกรฯ มองกรอบหุ้นไทยสัปดาห์หน้า 1,600-1,655 จับตาประชุมเฟด-FLOW-ตัวเลขศก. หุ้นไทย ตลาดหุ้น อินโฟเควสท์
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า ว่า มีแนวรับอยู่ที่ 1,610 และ 1,600 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,645 และ 1,655 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. ดัชนี PMI เดือนก.ย.
ตลาดหุ้นไทยร่วงลงเกือบตลอดสัปดาห์ ทั้งนี้ SET Index ขยับขึ้นช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ และแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ส.ค.
ในวันศุกร์ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,630.40 จุด ลดลง 1.46% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 74,222.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.10% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 1.28% มาปิดที่ 675.52 จุด
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เงินบาทเปิด 36.97 อ่อนค่าสุดรอบ 16 ปี มองกรอบวันนี้ 36.90-37.10 จับตา Flow : อินโฟเควสท์นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 36.97 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็น วานที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.78 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่ ต.ค. 49 ซึ่งเป็นการอ่อนค่าไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาคเมื่อ เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ตลาดกลับมากังวลถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าที่มีโอกาสเป็นไปได้ที่เฟดจะ ปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงถึง 1% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่เมื่อคืนราคาทองคำร่วงลงแรง 30 ดอลลาร์ และเช้านี้ยังลงต่อเนื่อง โดยต้องจับตา Flow เนื่องจากคาดว่าจะ ทำให้มีแรงซื้อทองคำเข้ามาจากฝั่งผู้ค้าทองในประเทศ “บาทวันนี้เปิดมาอ่อนค่าสุดในรอบ 16 ปี ตามทิศทางของเงินในภูมิภาคที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ วันนี้เงินหยวนก็ ทะลุ 700 ไปแล้ว ล่าสุดเงินบาทยังทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับที่เปิดตลาด อาจเป็นไปได้ว่าทางการคงเข้ามาดูแลไม่ให้บาทอ่อนค่าเร็ว แต่ ระหว่างวัน มีโอกาสจะไปแตะที่ 37 บาท/ดอลลาร์ได้” นักบริหารเงิน ระบุ นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.90- 37.10 บาท/ดอลลาร์ โดย …
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งลงตามภูมิภาควิตกศก.สหรัฐถดถอย-บาทอ่อนส่งแรงขายต่างชาติ : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งลงตามตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ รับความกังวลการเกิด Recession ในสหรัฐฯ จากการเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ ส่งผลดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าต่อเนื่อง และค่าเงินบาทอ่อนค่าใกล้แตะ 37 บาท/ดออลาร์สหรัฐฯ ทำให้มีแรงขายต่างชาติยังกดดันดัชนี ประกอบกับราคาน้ำมันลดลงกดดันต่อหุ้นพลังงาน และตลาดยังมองข้ามปัจจัยบวกของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมา พร้อมให้แนวต้าน 1,650-1,655 จุด แนวรับ 1,630-1,635 จุด นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวลงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากความกังวลในเรื่องของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ของสหรัฐฯ ที่จะตามมาหลังการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่สูง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่า และค่าเงินในภูมิภาคอื่นๆอ่อนค่า โดยเฉพาะค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามาใกล้แตะ 37 บาท/ดออลาร์สหรัฐฯ ทำให้มีแรงขายนักลงทุนต่างชาติออกมากดดันตลาด ขณะเดียวกันความกังวลเกี่ยวกับ Recession ของสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบกลับมาปรับตัวลดลง ซึ่งอาจจะกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้นไทย และเป็นแรงกดดันดัชนีในวันนี้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะออกมาดี แต่นักลงทุนอาจจะมองข้ามไป ทำให้ตลาดรับปัจจัยลบเข้ามามาก และเป็นแรงกดดันต่อการรีบาวด์กลับมา โดยให้แนวต้าน 1,650-1,655 จุด แนวรับ 1,630-1,635 จุด …
อ่านเพิ่มเติม »
'ปูติน' รับรู้ 'สี จิ้นผิง' กังวลเรื่องยูเครน ส่อเค้ารัสเซีย-จีนเริ่มไม่ลงรอย : อินโฟเควสท์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวเมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) ว่า เขาเข้าใจดีว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ถือเป็นการยอมรับว่ารัสเซียมีความเห็นไม่ลงรอยกันกับจีนในสงครามครั้งนี้ หลังจากที่รัสเซียถูกยูเครนตีโต้ยึดคืนพื้นที่กลับมาได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่ที่รัสเซียบุกยูเครน จีนได้แสดงจุดยืนต่อเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง โดยด้านหนึ่งก็วิพากษ์วิจารณ์ชาติตะวันตกที่ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย แต่อีกด้านหนึ่งก็ไม่สนับสนุนหรือช่วยเหลือในด้านการทหารแก่รัสเซีย ปธน.ปูตินกล่าวกับปธน.สี ในการประชุมทวิภาคีนอกรอบการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ที่เมืองซามาร์กันต์ ประเทศอุซเบกิสถานเมื่อวานนี้ว่า “เราให้ค่าอย่างยิ่งกับจุดยืนที่สมดุลของเพื่อนชาวจีนของเราในเรื่องของวิกฤตยูเครน เราเข้าใจว่าคุณมีข้อสงสัยและข้อกังวลถึงเรื่องนี้ แน่นอนว่าในระหว่างการประชุมวันนี้ เราจะอธิบายจุดยืนของเรา” ด้านปธน.สีซึ่งเรียกปธน.ปูตินว่าเป็น “เพื่อนเก่า” ได้กล่าวว่า “จีนเต็มใจที่จะร่วมงานกับรัสเซีย แสดงความรับผิดชอบของชาติมหาอำนาจ และมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงและพลังบวกในโลกที่วุ่นวายแห่งนี้” วาทะดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ล่าสุดว่า ปธน.สีจะยังคงไม่ให้การสนับสนุนรัสเซียในด้านวัตถุขณะที่ปธน.ปูตินเริ่มพ่ายแพ้ให้กับยูเครนในระยะหลัง รวมถึงจีนจะไม่สนับสนุนให้มีการยกระดับด้านการทหารใด ๆ ไปมากกว่านี้ที่อาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานอาหารและพลังงานต้องชะงักงันจนกระทบเศรษฐกิจโลก อนึ่ง หลายฝ่ายมองว่ารัสเซียจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากจีน เนื่องจากรัสเซียต้องการตลาดสำหรับการส่งออกพลังงานและแหล่งสำหรับการนำเข้าสินค้าไฮเทค หลังจากที่ถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ไทยพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงรายที่ 8 เดินทางกลับจากประเทศกาตาร์ : อินโฟเควสท์นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสถาบันบำราศนราดูร ตรวจพบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง) เป็นคนไทย อายุ 23 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ไปประกอบอาชีพให้บริการที่ประเทศกาตาร์ จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่า มีประวัติมีเพศสัมพันธ์กับชายที่มีตุ่มบริเวณหลังลักษณะคล้ายสิว และเริ่มมีอาการป่วย เมื่อวันที่ 8 ก.ย.65 มีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง เบื่ออาหารและมีผื่นบริเวณฝ่ามือข้างขวา นิ้วกลางข้างซ้าย ใต้รักแร้ซ้าย แขนซ้าย หลัง ก้นและทวาร ตามลำดับ โดยรวมตุ่มแผลประมาณ 15 ตุ่ม ผู้ป่วยเดินทางกลับจากประเทศกาตาร์ถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ก.ย.65 หลังจากเดินทางเข้าประเทศไทยมีประวัติสัมผัสเพื่อนชาวไทย 2 คน คนแรก ผู้ป่วยไปเก็บของที่ห้องของเพื่อน รับประทานอาหารร่วมกัน และเข้าใช้ห้องน้ำที่ห้องเพื่อน และคนที่สอง ผู้ป่วยนำกระเป๋าไปฝากเพื่อนโดยไม่ได้เข้าไปในห้องเพื่อน ซึ่งเพื่อนทั้งสองคนไม่ได้สัมผัสผิวหนังหรือบริเวณที่มีตุ่มแผล และวันที่ 14 ก.ย.65 จึงเข้าไปตรวจที่สถาบันบำราศนราดูร …
อ่านเพิ่มเติม »