บลจ.กสิกร ชูกลยุทธ์ Top of Mind ดันพอร์ต AUM ปี 66 โต 10% แตะ 1.55 ล้านลบ. : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

บลจ.กสิกร ชูกลยุทธ์ Top of Mind ดันพอร์ต AUM ปี 66 โต 10% แตะ 1.55 ล้านลบ. : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 40 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 19%
  • Publisher: 68%

บลจ.กสิกร ชูกลยุทธ์ Top of Mind ดันพอร์ต AUM ปี 66 โต 10% แตะ 1.55 ล้านลบ. AUM SET กองทุน จีน กสิกรไทย หุ้นไทย เวียดนาม อินโฟเควสท์

บลจ.กสิกรไทย ตั้งเป้าหมายมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ ปี 66 เติบโต 10% ไปอยู่ที่ 1.55 ล้านล้านบาท จากปีก่อนปิดที่ 1.41 ล้านล้านบาท ด้วยการกำหนดยุทธศาสตร์มุ่งสู่การครองใจลูกค้าเป็นอันดับหนึ่งภายใต้แนวคิด Top of Mind Investment House พร้อมให้มมุมมองกระจายพอร์ตลงทุน จีน-เวียดนาม Valuation น่าสนใจ ส่วนหุ้นไทยมองเป้าดัชนี SET ปลายปี 66 ที่ 1,800 จุด

นายอดิศร กล่าวต่อไปว่า แผนกลยุทธ์ปี 66 จะให้ความสำคัญใน 5 ด้าน โดยเริ่มต้นจาก 1) มุ่งสร้างผลตอบแทน ด้วยการต่อยอดและพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการกองทุนให้ได้ผลตอบแทนที่โดดเด่นอย่างสม่ำเสมอ 2) สร้างความน่าเชื่อถือ ผ่านการให้คำแนะนำที่เหมาะสมและทันต่อเหตุการณ์อย่างตรงไปตรงมา 3) ดูแลคู่ค้าอย่างเข้าใจ พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ตามโจทย์ของคู่ค้าแต่ละราย เพื่อนำไปเสนอขายให้ตรงใจผู้ลงทุน 4) บริหารพอร์ตให้กับผู้ลงทุนสถาบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์และสภาพคล่องให้กับลูกค้าผู้ลงทุนสถาบัน และ 5)...

ส่วนเวียดนาม ยังคงมีความน่าสนใจจากระดับการประเมินมูลค่าหุ้น และปัจจัยภายในประเทศทั้งการบริโภค การส่งออก และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ อีกทั้งในระยะยาว เวียดนามยังมีโอกาสที่จะได้รับการปรับสถานะจากตลาดหุ้นชายขอบ เป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่ ซึ่งจะทำให้มีฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาได้อีกมาก

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

KTB คาด GDP ปี 66 โต 3.4% มองท่องเที่ยวเครื่องยนต์หนุนสำคัญหลังส่งออกหดตัว : อินโฟเควสท์KTB คาด GDP ปี 66 โต 3.4% มองท่องเที่ยวเครื่องยนต์หนุนสำคัญหลังส่งออกหดตัว : อินโฟเควสท์Krungthai COMPASS คาดเศรษฐกิจปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัว 3.4% เติบโตต่อเนื่องโดยมีภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์สำคัญ สอดคล้องกับมุมมองของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ที่ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเร่งขึ้น โดยภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องหลังจากที่ไทยมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สะท้อนจากอัตราการเข้าพักแรมและจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยในปี 2565 ที่ฟื้นตัวกลับขึ้นมาอยู่ในระดับสูงกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 และคาดว่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2566 อีกทั้ง ภาคการท่องเที่ยวยังมีปัจจัยหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่องหลังจากที่จีนเปิดประเทศ โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวอาจมีแนวโน้มสูงกว่าที่เคยประเมินไว้ และคาดว่าจะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังการบริโภคภาคเอกชนซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงด้านต่ำจากแนวโน้มการส่งออกสินค้าที่อาจชะลอตัวกว่าที่เคยประเมินจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการส่งออกที่หดตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2565 สอดคล้องกับสภาพัฒน์ซึ่งได้ปรับลดประมาณการส่งออกสินค้าโดยมีแนวโน้มหดตัวที่ 1.6% (จากเดิมที่เคยคาดไว้ว่ามูลค่าการส่งออกจะขยายตัว 1.0% ในการประมาณการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565) สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 2566 สภาพัฒน์คาดว่าจะขยายตัว ในช่วง 2.7-3.7% (ปรับลดลงจากประมาณการเดิมที่ 3.0-4.0%) ตามแรงส่งของเศรษฐกิจแผ่วลงและแนวโน้มการส่งออกสินค้าที่อาจหดตัวจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงเป็นสำคัญ แต่เศรษฐกิจไทยยังได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีนซึ่งเร็วกว่าที่เคยประเมินไว้ และการใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภคภาคเอกชนที่คาดว่าจะขยายตัวดีต่อเนื่อง ส่งผลให้เศรษฐกิจในปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตเร่งขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก (1) การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนตามการเปิดประเทศที่เร็วกว่าคาด (2) การขยายตัวของการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ […]
อ่านเพิ่มเติม »

ภาครัฐ เปิดสาเหตุดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค.66 สูงต่อเนื่องติดกัน 8 เดือนภาครัฐ เปิดสาเหตุดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค.66 สูงต่อเนื่องติดกัน 8 เดือนภาครัฐ เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค.66 สูงต่อเนื่องติดกัน 8 เดือน แตะ 51.7 จากเดิม 49.7 หลังรุกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 66-ท่องเที่ยวฟื้นตัว ดันเงินหมุนเวียนในประเทศเพิ่มขึ้น ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ฐานเศรษฐกิจ
อ่านเพิ่มเติม »

สภาพัฒน์ เผย GDP ปี 65 โต 2.6% จากที่คาด 3.2% ส่วนปี 66 คาดโต 2.7-3.7%สภาพัฒน์ เผย GDP ปี 65 โต 2.6% จากที่คาด 3.2% ส่วนปี 66 คาดโต 2.7-3.7%เรื่องเล่าเช้านี้ สภาพัฒน์ เผย GDP ไทยปี 65 ขยายตัวเพียง 2.6% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเร็วกว่าที่คาด และการส่งออกหดตัวแรง ส่วนปี 66 คาดโต 2.7-3.7% จากการท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อว่าจะมีต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแตะ 28 ล้านคน ข่าวช่อง3 ข่าวเศรษฐกิจ
อ่านเพิ่มเติม »

Wellness Economy บูม รัฐ-เอกชนจับมือดันเม็ดเงินสะพัดแสนล้านWellness Economy บูม รัฐ-เอกชนจับมือดันเม็ดเงินสะพัดแสนล้านเทรนด์ Wellness Economy โตแรง ทั่วโลกเดินหน้าผลักดัน คาดปี 66 แตะ 7 ล้านล้านดอลลาร์ รัฐ-เอกชนเด้งรับ “กรมการแพทย์แผนไทยฯ” จัดทัพยกระดับผู้ประกอบการ “V Precision Clinic” ขนนวัตกรรม รองรับลูกค้าไทย-เทศ wellnesseconomy ฐานเศรษฐกิจ
อ่านเพิ่มเติม »

นักวิชาการเชื่อ GDP Q4/65 เป็นจุดต่ำสุด มองส่งออก Q2/66 ฟื้น ห่วงหนี้ครัวเรือน-หนี้สาธารณะสูง : อินโฟเควสท์นักวิชาการเชื่อ GDP Q4/65 เป็นจุดต่ำสุด มองส่งออก Q2/66 ฟื้น ห่วงหนี้ครัวเรือน-หนี้สาธารณะสูง : อินโฟเควสท์นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และ อดีตกรรมการสภาวิจัย สาขาเศรษฐศาสตร์ กล่าวถึง พลวัตเศรษฐกิจไทย 2566 ภายใต้ความผันผวนตลาดการเงินและทุนนิยมโลกาภิวัตน์ ทำให้ภาคการผลิต ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนต้องปรับตัวตลอดเวลา การแข็งค่าของเงินดอลลาร์จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ดีกว่าคาดมาก ตลาดการจ้างงานแข็งแกร่ง ดัชนีราคาผู้ผลิตปรับตัวสูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อจากอุปสงค์ยังไม่ลดลงการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมาย 2% จึงต้องอาศัยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางที่มากขึ้นและยาวนานขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนตัวจากเงินไหลออกจากตลาดการเงินไทยและภาคส่งออกที่ทรุดตัวมากกว่าคาดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสี่ของปี พ.ศ. 2565 อยู่ที่ระดับ 1.4% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของสำนักวิจัยส่วนใหญ่ค่อนข้างมาก ชะลอตัวลงจากการขยายตัวร้อยละ 4.6% ในไตรมาสสามของปี พ.ศ. 2565 จีดีพีที่ต่ำกว่าคาดการณ์มากในไตรมาสสี่เป็นผลมาจาการปิดประเทศของจีนในช่วงไตรมาสสามและสี่ปีที่แล้วและผลของการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก อัตราการขยายตัวของมูลค่าส่งออกของจีนติดลบ -6.9% และญี่ปุ่นติดลบ -4.6% เกาหลีใต้หดตัว -10% ไต้หวัน -8.6% และ โดยประเทศเหล่านี้เป็นห่วงโซ่อุปทานภาคการผลิตเพื่อส่งออกที่เชื่อมโยงกับไทย ปัจจัยภายนอกดังกล่าวทำให้มูลค่าส่งออกของไทยลดลงติดลบ 7.5% ในไตรมาสสี่และคาดว่าน่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว โดยประเมินว่าไตรมาสสองภาคส่งออกของไทยน่าจะมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มเกินดุลมากขึ้น โอกาสที่เงินบาทอ่อนค่าลงไปเรื่อยๆจึงไม่เกิดขึ้น การอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงนี้จึงเป็นปรากฎการณ์ระยะสั้น บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในตลาดหลักทรัพย์มีผลกำไรชะลอตัวลง เมื่อบวกเข้ากลับแรงกดดันจากอุตสาหกรรมการเงินที่กระตุ้นผลลัพธ์ระยะสั้น ทำให้เกิดความไม่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจที่แท้จริงเท่าไหร่นัก หมายความว่า เงินบาทที่อ่อนค่าและดัชนีตลาดหุ้นที่ปรับฐานลงมาแรงไม่ได้สะท้อนภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและอนาคตมากนัก โดยเศรษฐกิจไทยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว ภาคการบริโภคและการขยายตัวของกำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ส่วนความเสี่ยงสำคัญ […]
อ่านเพิ่มเติม »

เยอรมนีคาดศก.ประเทศปี 66 เสียหาย 1.71 แสนล้านดอลล์จากสงครามยูเครน : อินโฟเควสท์เยอรมนีคาดศก.ประเทศปี 66 เสียหาย 1.71 แสนล้านดอลล์จากสงครามยูเครน : อินโฟเควสท์นายปีเตอร์ เอเดรียน ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเยอรมัน (DIHK) เปิดเผยว่า สงครามยูเครนจะสร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจเยอรมนีประมาณ 1.6 แสนล้านยูโร (1.71 แสนล้านดอลลาร์) หรือประมาณ 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จากการสูญเสียการสร้างมูลค่าภายในสิ้นปีนี้ นายเอเดรียนให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไรน์นิชเชอ โพสต์ (Rheinische Post) ว่า GDP ต่อหัวของเยอรมนีจะลดลง 2,000 ยูโร ซึ่งต่ำกว่าที่เคยเป็นมา ทั้งนี้ อุตสาหกรรมในเศรษฐกิจเยอรมนีมีสัดส่วนสูงกว่าในประเทศอื่น ๆ และภาคส่วนดังกล่าวใช้พลังงานมากเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหมายความว่าบริษัทเยอรมนีได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นมากเป็นพิเศษ โดยในปีที่แล้วราคาพลังงานในยุโรปพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ผลการศึกษาของอลิอันซ์ เทรด ในเดือนที่แล้วระบุว่า อุตสาหกรรมเยอรมนีเตรียมจ่ายค่าพลังงานเพิ่มขึ้นอีก 40% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2564 ก่อนจะเกิดวิกฤตพลังงานที่เกิดจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครนในวันที่ 24 ก.พ. 2565 “ดังนั้นคาดการณ์การเติบโตสำหรับปี 2566 และ 2567 ของเยอรมนีจะต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ” นายเอเดรียนกล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เยอรมนีซึ่งพึ่งพาท่อส่งก๊าซที่ราคาค่อนข้างต่ำจากรัสเซียมาหลายสิบปี ต้องซื้อพลังงานในราคาสูงมาก ขณะที่สหรัฐมีแหล่งก๊าซธรรมชาติของตัวเองและฝรั่งเศสมีพลังงานนิวเคลียร์ […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-26 18:09:41