บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่เตรียมขึ้นค่าจ้างพนักงานปีนี้ตามที่นายกฯเรียกร้อง ขึ้นค่าแรง ญี่ปุ่น แรงงาน อินโฟเควสท์
ผลสำรวจรายเดือนของรอยเตอร์บ่งชี้ว่า บริษัทญี่ปุ่นมากกว่าครึ่งวางแผนที่จะจะปรับขึ้นค่าจ้างในปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามข้อเรียกร้องหลักของนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เพื่อช่วยเหลือแรงงานในการรับมือกับราคาผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ ว่า รัฐบาลของนายคิชิดะได้ออกมาเรียกร้องหลายต่อหลายครั้งให้บริษัทต่าง ๆ พยายามอย่างเต็มที่ในการปรับขึ้นเงินเดือนพนักงาน ซึ่งไม่สามารถตามทันอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเร็วสุดในรอบ 40 ปี โดยการผลักดันดังกล่าวเพิ่งได้รับการตอบรับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อฟาสต์ รีเทลลิง บริษัทแม่ของยูนิโคล่ ประกาศจะขึ้นค่าจ้างมากถึง 40%
ก่อนที่จะถึงการเจรจาด้านแรงงาน “ชุนโตะ” ในฤดูใบไม้ผลินั้น พบว่า ผู้จัดการบริษัท 24% ในโพลสำรวจกล่าวว่า พวกเขาวางแผนจะปรับฐานเงินเดือนให้สูงขึ้นไปพร้อม ๆ กับปรับขึ้นค่าจ้างตามกำหนดปกติ ขณะที่ 29% ระบุว่า จะปรับขึ้นค่าจ้างตามกำหนดปกติเท่านั้น ส่วนอีก 38% นั้นยังไม่ได้ตัดสินใจ นายมาซายูกิ คูโบตะ ประธานฝ่ายกลยุทธ์ของราคูเท็น ซีเคียวริตีส์ บริษัทด้านการเงินและการลงทุนของญี่ปุ่น กล่าวว่า “นายกรัฐมนตรีคิชิดะเอาแต่พูดว่า ขึ้นค่าจ้าง ขึ้นค่าจ้าง แต่การตัดสินใจขึ้นค่าจ้างไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคำพูดของนายกรัฐมนตรีหรือประธานาธิบดี แต่เกิดขึ้นเพราะบริษัทต้องการทรัพยากรบุคคลที่ดีขึ้นเพื่อบรรลุศักยภาพในการเติบโต”
ทั้งนี้ บริษัท 34% ในผลสำรวจระบุว่าพวกเขาวางแผนจะขึ้นค่าจ้างอย่างน้อย 3% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากจำนวนบริษัท 10% ในผลสำรวจของรอยเตอร์เมื่อเดือนต.ค. 2565
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ฟิลิปปินส์ทุ่มกว่าหมื่นล้านสร้างถนนเชื่อมแหล่งท่องเที่ยว : อินโฟเควสท์นายมาร์วิน ริลโล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ฟิลิปปินส์ได้จัดสรรเงินจำนวน 1.77 หมื่นล้านเปโซ สำหรับก่อสร้างและปรับปรุงถนนเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น นายริลโลระบุว่า เงินทุนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานทางถนนเพื่อการท่องเที่ยว (Tourism Road Infrastructure Program) ของรัฐบาลในปีนี้ พร้อมคาดหวังให้ภาคการท่องเที่ยวสามารถฟื้นตัวจากโรคระบาดใหญ่ เพื่อช่วยให้เกิดการจ้างงานใหม่และสร้างโอกาสการทำมาหากินแก่ชาวฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด นายริลโลเผยว่า ฟิลิปปินส์จำเป็นต้องพัฒนาถนนและสะพานให้มากขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวทั่วประเทศ พร้อมเสริมว่า สำนักงานการท่องเที่ยว การโยธาสาธารณะ และทางหลวง ได้ร่วมกันกำหนดโครงการที่จะได้รับเงินสนับสนุนภายใต้โครงการโครงสร้างพื้นฐานทางถนนเพื่อการท่องเที่ยวของรัฐบาล ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ได้อนุมัติการพิจารณาร่างกฎหมายวาระที่สามและวาระสุดท้าย จำนวน 34 ฉบับ ซึ่งระบุปลายทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ ทั่วประเทศ อาทิ น้ำตก อุทยานแห่งชาติ และถ้ำ โดยฟิลิปปินส์กำลังปรับปรุงการเชื่อมต่อและความสะดวกสบายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น อันรวมถึงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวและการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากนั้น รัฐบาลยังวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวเรือสำราญ จัดงานแสดงสินค้าท่องเที่ยวระดับภูมิภาค พัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว และสานต่อความร่วมมือด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวกับหน่วยงานภาครัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ระบุว่าฟิลิปปินส์ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.65 ล้านคนในปี 2565 ซึ่งสร้างรายได้รวม 2.08 แสนล้านเปโซ ส่วนในปี 2566 […]
อ่านเพิ่มเติม »
นายกฯยูเครนเผย เตรียมรับเงินช่วยเหลือ 3 พันล้านยูโรจาก EU ในสัปดาห์นี้ : อินโฟเควสท์นายเดนิส ชมีฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน กล่าวเมื่อวันจันทร์ (16 ม.ค.) ว่า ยูเครนเตรียมรับเงินช่วยเหลือ 3 พันล้านยูโร (ประมาณ 3.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากสหภาพยุโรป (EU) ในสัปดาห์นี้ นายชมีฮาลเขียนบนเทเลแกรม (Telegram) ว่า ยูเครนและ EU ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เรื่องโครงการการเงินระดับมหภาคสำหรับรัฐบาลยูเครน มูลค่า 1.8 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) นายชมีฮาลกล่าวเพิ่มว่า เงินทุนดังกล่าวจะช่วยให้ยูเครนรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคและครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่สำคัญทั้งหมดในปีนี้ได้ ท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งกับรัสเซีย อนึ่ง สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตามข้อมูลของธนาคารกลางยูเครน ยูเครนได้รับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ 3.21 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2565 โดยในจำนวนดังกล่าวมี 8 พันล้านดอลลาร์มาจาก EU โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
'เมพ คอร์ปอเรชั่น' แพลตฟอร์ม E-Book ในเครือ CRC ปักธงขาย IPO-เข้า mai ภายใน Q1/66 : อินโฟเควสท์บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) ธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) จัดจำหน่ายอุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Reader) และธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มระบบห้องสมุดดิจิทัลสำหรับองค์กร (Hibrary) เตรียมพร้อมเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75.5 ล้านหุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในไตรมาส 1/66 นี้ ระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน และใช้สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ พร้อมกับปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์มและเป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมธุรกิจเติบโตแข็งแกร่ง นายรวิวร มะหะสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEB กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตในอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายธุรกิจใหม่ๆ การเพิ่มคอนเทนต์ให้มีความหลากหลาย และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน อีกทั้งการระดมทุนในครั้งนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดความสำเร็จของ MEB อีกด้วย MEB ดำเนินธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ผ่านเว็บไซต์ www.mebmarket.com และ www.readAwrite.com และแอปพลิเคชัน meb และ readAwrite บนระบบปฏิบัติการต่างๆ นอกจากนี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผสมผสาน นลท.ประเมินข้อมูลเศรษฐกิจจีน : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจจีน ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,140.51 จุด พุ่งขึ้น 318.19 จุด หรือ +1.23%, ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 21,527.39 จุด ลดลง 219.33 จุด หรือ -1.01% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,219.68 จุด ลดลง 7.92 จุด หรือ -0.25% สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (17 ม.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2565 ของจีนขยายตัว 3% ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่ชะลอตัวที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายทศวรรษ แม้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าอาจจะขยายตัว 2.8% บรรดาผู้นำของจีนเตรียมประกาศเป้าหมายการเติบโตของตัวเลข GDP ในปี 2566 ในเดือนมี.ค.นี้ ในการประชุมประจำปีของรัฐสภาจีน ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้รับฉันทามติให้บริหารประเทศเป็นสมัยที่ 3 เมื่อครั้งที่มีการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือนต.ค. 2565 ขณะเดียวกัน […]
อ่านเพิ่มเติม »
ผู้นำฮ่องกงเล็งยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยคุมโควิดปีนี้ : อินโฟเควสท์นายจอห์น ลี ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงคาดการณ์ว่า ฮ่องกงจะสามารถยกเลิกบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ชุดสุดท้ายได้ภายในปีนี้ ซึ่งรวมถึงคำสั่งสวมหน้ากากอนามัย “สิ่งที่ผมคาดหวังในปี 2566 คือการยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ทั้งหมด” นายลีให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฮ่องกง คอมเมอร์เชียล เดลีย์ที่เผยแพร่ในวันนี้ (17 ม.ค.) โดยแสดงการคาดการณ์ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ “การหวนคืนสู่ภาวะปกตินั้นเป็นเป้าหมายของผมมาโดยตลอด แน่นอนว่าผมหวังที่จะยกเลิกนโยบายควบคุมโควิด-19 ทั้งหมด รวมถึง คำสั่งสวมหน้ากากอนามัย” คำสั่งสวมหน้ากากอนามัยเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่ฮ่องกงยังคงบังคับใช้เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 อยู่ในปัจจุบัน หลังประกาศใช้ตั้งแต่เดือนก.ค. 2563 ควบคู่กับคำสั่งให้ผู้ติดเชื้อกักตัว โดยบุคคลที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดดังกล่าวเสี่ยงถูกปรับเป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (640 ดอลลาร์สหรัฐ) ฮ่องกงยกเลิกมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เกือบทั้งหมดในเดือนธ.ค. หลังจีนยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero) แบบกะทันหัน โดยฮ่องกงเปิดพรมแดนกับจีนแผ่นดินใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีในเดือนนี้ นายลีระบุในเดือนธ.ค.ว่า ฮ่องกงมีแนวโน้มยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยทีหลังสุด เนื่องจากการสวมหน้ากากอนามัยมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และโรคทางเดินหายใจชนิดอื่น ๆ มากที่สุด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เศรษฐกิจฮ่องกงถูกบั่นทอนจากมาตรการสกัดโรคระบาด โดยคาดการณ์ว่าจะหดตัวเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปีในปี 2565 […]
อ่านเพิ่มเติม »
อินเดียจ่อนำเข้าถ่านหินเพิ่ม รับมือสภาพอากาศเลวร้าย-ปัญหาการขนส่งสินค้า : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าของอินเดียมีแนวโน้มที่จะนำเข้าถ่านหินเพิ่มเติมในปีนี้เพื่อรับมือกับดีมานด์ที่เพิ่มสูงขึ้นอันเนื่องมาจากปัญหาสภาพอากาศสุดขั้วในปีที่ผ่านมา และปัญหาคอขวดด้านการขนส่งที่ส่งผลกระทบต่อการจัดหาถ่านหินในประเทศ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เศรษฐกิจอินเดียที่เติบโตเร็วเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้สาธารณูปโภคในอินเดียแก้ปัญหาเรื่องการใช้ไฟฟ้าได้ยากลำบากเมื่อต้องเผชิญกับดีมานด์ที่มากเกินปกติหรือเมื่อซัพพลายเกิดติดขัด ทั้งนี้ การซื้อถ่านหินเพิ่มเติมของอินเดียในตลาดโลกประกอบการผลักดันกิจกรรมทางอุตสาหกรรมของจีนที่เพิ่มขึ้นหลังผ่อนปรนข้อจำกัดด้านโควิด-19 ที่เข้มงวด อาจเป็นแรงหนุนให้ราคาถ่านหินในตลาดโลกสูงขึ้นได้ โดยราคาถ่านหินได้ปรับตัวลงหลังแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนมิ.ย. เนื่องจากฤดูหนาวในยุโรปมีความอบอุ่นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนผลผลิตถ่านหินในประเทศที่พุ่งสูงทำนิวไฮของอินเดียได้ช่วยบรรเทาภาวะตึงตัวในสต๊อกถ่านหินของโรงไฟฟ้า แตะระดับซัพพลายเฉลี่ยที่ 12 วัน ณ สิ้นปี 2565 จากเดิมที่ระดับ 9 วันในปีงบประมาณปัจจุบันที่เริ่มต้นเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สต๊อกดังกล่าวยังคงต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่รัฐบาลกลางแนะนำให้มีซัพพลายถ่านหินอย่างน้อย 24 วันเพื่อไว้สำรองป้องกันเหตุไฟดับในอินเดีย เหมือนที่ประสบในปีที่ผ่านมาและปีก่อนหน้านั้น โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »