บริดจสโตนทดสอบความเป็นไปได้ของการใช้มือจับของหุ่นยนต์นิ่มในศูนย์โลจิสติกส์ BOT บริดจสโตน หุ่นยนต์ โลจิสติกส์ อินโฟเควสท์
บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ได้ทดสอบความเป็นไปได้ ของการใช้มือจับของหุ่นยนต์นิ่ม เพื่อใช้ในกระบวนการหยิบจับสินค้าแบบอัตโนมัติ สำหรับกระบวนการหยิบจับและขนส่งสินค้าแต่ละรายการในศูนย์โลจิสติกส์ เพื่อเดินหน้าสู่การดำเนินธุรกิจหุ่นยนต์นิ่มขนาดเล็ก ด้วยการสร้างคุณค่าร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในระหว่างแผนการดำเนินธุรกิจระยะกลาง
โนริคาซุ โอะโทะยะมะ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์เตรียมความพร้อมด้านธุรกิจหุ่นยนต์นิ่มของบริดจสโตน กล่าวถึงการเริ่มต้นทดสอบความเป็นไปได้ว่า การสร้างสรรค์ร่วมกันเป็นพื้นฐานในธุรกิจใหม่ของบริดจสโตน ซึ่งเชื่อว่าการได้รับความเข้าใจจากพันธมิตรทางธุรกิจในการสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ๆ ต่อสังคมและลูกค้า รวมถึงทดสอบความเป็นไปได้ในพื้นที่ของพันธมิตรทางธุรกิจจะช่วยให้บริดจสโตนก้าวไปอีกขั้นของการดำเนินธุรกิจหุ่นยนต์นิ่ม จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลต่ออัตราการเกิดที่ต่ำลง กลุ่มประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้น...
ทั้งนี้ บริดจสโตนได้ทำธุรกิจหุ่นยนต์นิ่ม เพื่อสนับสนุนการดำเนินชีวิตของผู้คน มุ่งสู่ “ด้าน Empowerment ใน “Bridgestone E8 Commitment ” ด้วยการสนับสนุนและร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ๆ แก่สังคมและลูกค้าผ่านธุรกิจหุ่นยนต์นิ่ม” บริดจสโตนได้ร่วมกับผู้ค้าส่งของใช้ในชีวิตประจำวันและสินค้าต่างๆ ผู้ผลิตหุ่นยนต์ และพันธมิตรทางธุรกิจอื่นๆ ทดสอบความเป็นไปได้จากการใช้มือจับของหุ่นยนต์นิ่มซึ่งถูกติดตั้งด้วยอุปกรณ์ควบคุมกระบวนการทำงานของยางของบริดจสโตน เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 เพื่อใช้ในกระบวนการหยิบจับสินค้าแบบอัตโนมัติในคลังสินค้าของศูนย์โลจิสติกส์
นับเป็นเรื่องที่ยากสำหรับหุ่นยนต์ธรรมดาเพียงตัวเดียวในการหยิบจับวัตถุที่มีรูปร่าง ความแข็งแรง และน้ำหนักที่แตกต่างกันไป เช่น หลอด ขวด และกระเป๋า ดังนั้นการหยิบจับชิ้นส่วนอัตโนมัติโดยใช้หุ่นยนต์จึงเป็นปัญหาที่ต้องใช้ความพยายามในการจัดการ แขนของหุ่นยนต์นิ่มเพียงหนึ่งข้างที่ยึดติดกับอุปกรณ์ควบคุมกระบวนการทำงานของยางของบริดจสโตน สามารถจับวัสดุได้อย่างกระชับมั่นคง โดยบริษัทฯ จะเดินหน้าทดสอบความเป็นไปได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
หัวหน้ากลุ่มสามมิตร อ้าแขนรับ 'อุตตม-สนธิรัตน์' หวนคืนรอบนี้ไร้ขัดแย้ง : อินโฟเควสท์จากการเปิดตัวกลับมาร่วมงานในพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง ของนายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ซึ่งเคยเป็นอดีตหัวหน้าและเลขาธิการพรรคมาก่อน เมื่อวาน (30 ม.ค.)ที่ผ่านมา เชื่อว่าการกลับมาในครั้งนี้จะไม่เกิดปัญหาความขัดแย้งรอบใหม่ ภายในพรรคขึ้นอีก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เชื่อว่าการกลับมาของ 2 กุมาร คือ นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ในครั้งนี้ จะไม่มีปัญหาการทำงานร่วมกันกับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นฤมล และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทีมเศรษฐกิจพรรคได้ เพราะเป็นเรื่องการตัดสินใจของผู้ใหญ่ในพรรค ส่วนตัวคิดว่าหากมีคนที่มีความรู้ความสามารถในทิศทางการเมืองและการบริหารเข้ามาเสริม เชื่อว่าพรรคต้องดีขึ้น สำหรับประเด็นในอดีตที่เคยเกิดปัญหาระหว่างกลุ่มสามมิตรและกลุ่ม 4 กุมาร คือ เรื่องที่นายอนุชา นาคาศัย ผลุดจากโผรัฐมนตรี ซึ่งนายอนุชาเป็น 1 ในกลุ่มสามมิตร จนทำให้มีการเดินหน้าถอดถอนนายสนธิรัตน์ พ้นเลขาธิการพรรคนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้กล่าวไว้แล้วว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อกลับมาเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล นายสมศักดิ์ กล่าวว่า […]
อ่านเพิ่มเติม »
ปากีสถานเผยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดมัสยิดพุ่งแตะ 87 ราย : อินโฟเควสท์ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่มัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองเปชาวาร์ของปากีสถาน เพิ่มขึ้นเป็น 87 ราย ขณะที่ปฏิบัติการค้นหายังคงดำเนินต่อไป รายงานระบุว่า มัสยิดแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา และกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามือระเบิดเข้ามาได้อย่างไร นายกรัฐมนตรีปากีสถานและผู้นำคนอื่น ๆ ได้ประณามเหตุโจมตีดังกล่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประเทศในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ขณะที่กลุ่มตาลีบันในปากีสถานปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายเชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ได้ประกาศไว้ทุกข์ทั่วประเทศ พร้อมกับระบุว่า “ผู้ก่อการร้ายต้องการสร้างความหวาดกลัวด้วยการมุ่งเป้าไปที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องปากีสถาน” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
TTB ขึ้นดอกเบี้ยกู้-ฝาก พร้อมเปิดตัวดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษ PLR : อินโฟเควสท์นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต (TTB) เปิดเผยว่า ธนาคารปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.10% ต่อปี ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นที่น้อยกว่าดอกเบี้ยนโยบายเพื่อดูแลลูกค้าสินเชื่อทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ธนาคารได้มีการออกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษ PLR สำหรับกลุ่มลูกค้าชั้นดี และมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อเพิ่มผลตอบแทนและส่งเสริมการออม อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี MLR (Minimum Loan Rate) ปรับขึ้น 0.10% ต่อปี อัตราดอกเบี้ย MOR (Minimum Overdraft Rate) สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชีปรับขึ้น 0.10% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี MRR (Minimum Retail Rate) ปรับขึ้น 0.10% ต่อปี ทั้งนี้ ธนาคารให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลลูกค้าทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง และยังคงมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาตยังเป็นธนาคารแรกและธนาคารเดียวที่ออกอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลูกค้าชั้นดี (PLR: Prime Lending Rate) ด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษ 2.75% ต่อปี เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป […]
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยปิดลบ 9.76 จุดตามแรงขายแบงก์-ค้าปลีก Fund Flow ชะลอรอผลประชุมเฟด : อินโฟเควสท์SET ปิดวันนี้ที่ 1,671.46 จุด ลดลง 9.76 จุด (-0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 82,295.95 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่และลงลึกช่วงท้ายตลาด โดยทำระดับสูงสุด 1,683.90 จุด และต่ำสุด 1,671.00 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 579 หลักทรัพย์ ลดลง 1,025 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 467 หลักทรัพย์ นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามแรงขายกลุ่มแบงก์และกลุ่มค้าปลีกเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติชะลอลงทุน หลังจากวานนี้ขายสุทธิ ส่วน BANPU รับแรงกดดันจากราคาก๊าซและถ่านหินปรับตัวลง ทั้งนี้ นักลงทุนอยู่ระหว่างรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันการลงทุนของตลาดเอเชียก็ไม่สดใส พักตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่รอผลการประชุมเฟดเช่นกัน แม้ว่าวันนี้จีนเผยตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีทั้งตัวเลข PMI ภาคการผลิตและภาคบริการในเดือนม.ค.66 และ IMF ปรับ outlook […]
อ่านเพิ่มเติม »
กทพ.คาดเซ็นสัญญาผู้รับเหมากระทู้-ป่าตอง ธ.ค.66 เปิดทันรับงานใหญ่ปี 71 : อินโฟเควสท์นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญากับบริษัทผู้ที่รับคัดเลือกให้ดำเนินโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ภายในเดือน ธ.ค.66 หลังจากเปิดให้ผู้สนใจเข้าซื้อเอกสารประกวดราคา และในวันนี้ได้จัดประชุมชี้แจงรายละเอียดแล้ว ซึ่งการก่อสร้างน่าจะเริ่มได้ในช่วงปี 70 และจะเปิดให้บริการได้ทันการงน Specialised Expo 2028 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.ถึงมิ.ย.71 การประชุมก่อนการยื่นข้อเสนอของเอกชน (Pre-bid Meeting) โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตองจัดขึ้นเพื่อให้เอกชนได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดของโครงการอย่างรอบด้าน รวมทั้งเข้าใจรายละเอียดการจัดทำข้อเสนอได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน พร้อมทั้งตอบข้อสงสัย เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเอกชนยื่นซองข้อเสนอต่อไป โดยมีบริษัทเอกชนทั้ง ไทย จีน และฝรั่งเศส สนใจซื้อเอกสารและเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ จำนวน 13 ราย “เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเอกชนยื่นซองข้อเสนอในวันที่ 7 เมษายน 2566 และลงนามสัญญากับภาคเอกชนที่ร่วมลงทุนได้ภายในธันวาคม 2566” นายสุรเชษฐ์ กล่าว กทพ.ได้นำเสนอความเป็นมาของโครงการฯ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 18 ม.ค.65 อนุมัติให้ กทพ.ดำเนินงานโครงการทางพิเศษสายกะทู้–ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ในลักษณะร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ในขณะที่ภาคเอกชนรับผิดชอบการออกแบบรายละเอียดและการก่อสร้าง […]
อ่านเพิ่มเติม »
GBS มอง SET วีคนี้ผันผวนกรอบ 1,660-1,700 เข้าโหมดเลือกตั้งชู 5 หุ้นเด่น : อินโฟเควสท์นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวน รอดูผลประกอบการปี 65 ของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมา โดยมีปัจจัยบวกในประเทศจากมีการโปรดเกล้าฯ กฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับที่จะใช้เลือกตั้งแล้ว โดยทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาลงประกาศเผยแพร่ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 ที่จะนำมาใช้ในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว จึงคาดกรอบดัชนีไว้ที่ 1,660-1,700 จุด อีกทั้ง FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50%-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ.นี้หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนี PCE ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น 5%YoY ในเดือนธ.ค. และชะลอตัวจากระดับ 5.5%YoY ในเดือนพ.ย. ลดแรงกดดันในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการสกัดเงินเฟ้อ และทางธนาคารกลางจีน (PBOC) […]
อ่านเพิ่มเติม »