ลีลาชีวิต / ทวี สุรฤทธิกุล หัวใจที่เสรีย่อมไม่มีอะไรมากีดกั้น เว้นแต่เราจะมอบหัวใจนั้นไปให้คนอื่น บรรพตหรือไอ้เต๋าของเพื่อน ๆ แม้ชีวิตจะมีความยุ่งเหยิงมากมาย แต่ก็สามารถเรียนจบได้ไม่ยาก เพราะในสมัยนั้นพวกเราเรียนกันแบบ “เพื่อนช่วยเพื่อน” คือคนที่เรียนเก่งและตั้งใจเรียน ก็จะเป็นคนที่คอยจดเล็กเชอร์ แล้วเอามาให้เพื่อน ๆ ไปถ่ายเอกสาร โดยจะต้องจดให้ตัวเล็กสักหน่อย เพื่อประหยัดหน้ากระดาษ เนื่องจากค่าถ่ายเอกสารเมื่อ 40 กว่าปีก่อนนั้น ราคาหน้าละ 3 บาท ในขณะที่ก๋วยเตี๋ยวในโรงอาหารราคา 5 บาท แล้วพอใกล้เวลาสอบก็ต้องมาติวข้อสอบให้เพื่อน ๆ รวมถึงถ้าเพื่อน ๆ สอบไม่ผ่าน ติวเตอร์คนเก่งนั้นก็ต้องรับผิดชอบมาติว
บรรพตหรือไอ้เต๋าของเพื่อน ๆ แม้ชีวิตจะมีความยุ่งเหยิงมากมาย แต่ก็สามารถเรียนจบได้ไม่ยาก เพราะในสมัยนั้นพวกเราเรียนกันแบบ “เพื่อนช่วยเพื่อน” คือคนที่เรียนเก่งและตั้งใจเรียน ก็จะเป็นคนที่คอยจดเล็กเชอร์ แล้วเอามาให้เพื่อน ๆ ไปถ่ายเอกสาร โดยจะต้องจดให้ตัวเล็กสักหน่อย เพื่อประหยัดหน้ากระดาษ เนื่องจากค่าถ่ายเอกสารเมื่อ 40 กว่าปีก่อนนั้น ราคาหน้าละ 3 บาท ในขณะที่ก๋วยเตี๋ยวในโรงอาหารราคา 5 บาท แล้วพอใกล้เวลาสอบก็ต้องมาติวข้อสอบให้เพื่อน ๆ รวมถึงถ้าเพื่อน ๆ สอบไม่ผ่าน...
ไอ้บอยกับไอ้ฉั่วได้ปริญญากลับไปตามที่ตั้งใจ แม้จะมีคนแซวว่าเป็นปริญญาโทห้องแถว แล้วทั้งสองคนก็เดินทางกลับเมื่อเที่ยวเตร่อยู่ในสหรัฐเกือบ 5 ปี โดยเปลี่ยนที่พักไปใน 3 รัฐ คือแคลิฟอร์เนีย เทกซัส และแอริโซน่า ระหว่างนั้นก็มีไอ้เต๋าติดสอยห้อยตามไปไหนมาไหนด้วยโดยตลอด ซึ่งเมืองที่ทั้งสามคนชอบเดินทางไปมากที่สุดก็คือลาสเวกัส เพราะที่นั่นได้เปิดโอกาสให้ไอ้เต๋าได้เข้าไปใช้ความสามารถในด้านการพนัน “ทำมาหากิน” ได้พอสมควร โดยได้เข้าไปทำงานเป็นบ๋อยในระยะแรกที่สถานกาสิโนเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง...
ไอ้เต๋าได้ใช้ประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารตั้งแต่ครั้งที่ช่วยป้าของมันที่เมืองไทย กับที่เคยเป็นบ๋อยและผู้ช่วยกุ๊กอยู่ในลาสเวกัส ไปสมัครงานในร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง ร้านนี้เป็นของครอบครัวคนไทยที่อพยพมาตั้งแต่ที่ยังไม่จบสงครามเวียดนาม ร้านนี้อยู่ในทำเลที่ดีมาก เพราะอยู่ติดกับตลาดไทยที่เป็นแหล่งรวมร้านค้าที่ขายสินค้าต่าง ๆ จากประเทศไทย และไม่ห่างไปมากนักก็มีวัดไทยมาตั้งอยู่ด้วย รวมถึงชุมชนคนไทยที่มีจำนวนหลายพันคน ซึ่งพอสงครามเวียดนามสิ้นสุดก็มีคนอพยพมาเป็นหมื่น ๆ ไม่เฉพาะแต่คนไทย...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
มองการเมืองไทยในแง่ดีทวี สุรฤทธิกุล “ตระบัดสัตย์ - สลายขั้ว - ไม่เห็นหัวประชาชน” คือเทรนด์ใหม่ของการเมืองไทย แต่ถ้าจะมองในมุมใหม่ “ตั้งรัฐบาลได้ - นายกฯใหม่ - ไหว้ขอโทษประชาชน” ก็เป็นวิธีทำใจอย่างหนึ่งของคนที่อาจจะผิดหวัง แต่ถ้าตั้งความหวังไปในอีกทางหนึ่งคือมองในแง่ดี เราก็อาจจะเกิดความรู้สึกดี ๆ ขึ้นได้บ้าง ผู้เขียนเป็นอาจารย์รัฐศาสตร์ ได้ร่ำเรียนมาถึงทฤษฎีและหลักการทางการเมืองทั้งตำราสากลและไทย เชื่ออย่างเต็มที่เช่นเดียวกันกับอาจารย์รัฐศาสตร์ทุก ๆ คนว่า นโยบายของพรรคการเมืองคือ “สัญญาประชาคม” นอกเหนือจากที่เป็นอุดมการณ์และจุดยืนของพรรค ที่เป็นสาระสำคัญที่สุดของความเป็นพรรคการเมือง นโยบายเหล่านี้คือข้อสัญญาของพรร
อ่านเพิ่มเติม »
ตกกระไดต้องกระโจนทวี สุรฤทธิกุล ตอนแรกกะจะจั่วหัวว่า “ตกกระไดพร้อมโจร” แต่กลัวไม่สุภาพเลยต้องเปลี่ยนดังข้างต้นนี้ การเมืองไทยที่จู่ ๆ คนและพรรคที่คิดว่ากำลังเล่นเป็นพระเอก กลับเปลี่ยนบทไปเล่นเป็นผู้ร้ายเอาเสียดื้อ ๆ ถ้าจิตใจไม่วิปริตก็เป็นพวกที่คิดอะไรแปลก ๆ ไม่อยู่ในร่องในรอย หรือบางทีก็อาจจะไม่มีความคิด พรรคเพื่อไทยกำลังติดกับดักค่ายกลของตัวเอง ที่ใช้วาทกรรมว่า “สลายขั้วเพื่อชาติ” เพียงเพื่อสนองความอยากให้ได้เป็นรัฐบาล แต่พอเริ่มสลายขั้ว ล้มล้าง MOU ก็ต้องเจอเวรกรรมกระหน่ำซ้ำซัด ไม่เพียงแต่จะทำให้พรรคก้าวไกลดูโดดเด่นเด่นขึ้นในขั้วการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย แต่ยังทำให้การเมืองในเวลาข้างหน้านี้ยิ่งยุ่งเหยิงวุ่นวา
อ่านเพิ่มเติม »
ประภาศรี : มนตราและเมตตาธรรม (3)ลีลาชีวิต / ทวี สุรฤทธิกุล มนุษย์ที่มีความมั่นใจในตัวเองมากจนเกินไปมักจะโทษธรรมชาติว่าผิดปกติ มากกว่าที่เห็นว่าเป็นความผิดปกติของตนเอง บ่อยครั้งที่พวกเด็ก ๆ มักจะพากันไปเล่นในที่ไกล ๆ นอกเหนือจากในแนวสวนหลังบ้านที่เล่นกันอยู่ประจำ บางทีก็ไปเล่นน้ำกันที่ชายคลองท้ายสวน หรือข้ามคลองไปก็จะเป็นวัดเก่าเล็ก ๆ เดินข้ามสะพานไม้ไปสักยี่สิบก้าวก็ถึงแล้ว แต่ต้องไปกลางวัน เพราะกลางคืนจะน่ากลัวมาก ไม่เพียงแต่ต้นไม้ที่ขึ้นรกแทบจะไม่เห็นทางเดิน ก็ยังมีเสียงประหลาด ๆ รวมถึงเงาวูบวาบไม่รู้ว่ามีอะไรวิ่งไปมารอบ ๆ ทางที่เดินไปนั้นด้วย พ้นป่าทึบหลังวัดที่ติดกับชายคลองไปแล้วก็จะเป็นป่าช้า มีเจดีย์ก่ออิฐฉาบปูนฝีมือหย
อ่านเพิ่มเติม »
การเมืองไทยไม่ใช่ “สามก๊ก”ทวี สุรฤทธิกุล “การเมืองไทยไม่ได้ยอกย้อนซ่อนเงื่อนเหมือนสามก๊ก ยิ่งมองอย่างนั้นยิ่งมองอะไรไม่ออก” ท่านอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช “ซือแป๋แห่งซอยสวนพลู” เคยชี้แนะแก่ผู้สื่อข่าวด้วยชุดประโยคข้างต้นนี้อยู่เสมอ ในเวลาที่ผู้สื่อข่าวถามประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับการเมืองไทย ด้วยคำถามที่แสดงถึงการกระทำต่าง ๆ ของนักการเมือง ที่ส่วนมากก็จะเป็นการคาดเดา หรือ “ได้ยินมา” ว่ามีความสลับซับซ้อน เข้าใจยาก และหาคำตอบไม่ได้ ในตอนที่ท่านรัฐบาลในปี 2518 ในลักษณะที่ไปรวบรวมพรรคเล็กพรรคน้อยมาได้เป็นจำนวนมาก จนสื่อมวลชนตั้งฉายารัฐบาลชุดนั้นว่า “รัฐบาลร้อยพ่อพันแม่” ผู้สื่อข่าวก็ถามท่านว่าต้องใช้ “เล่ห์เหลี่ยม” อะไรมาก
อ่านเพิ่มเติม »