น้ำมัน WTI ร่วงเกือบ 1% แตะ 74.46 ดอลลารต่อบาร์เรล หลัง API เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯพุ่งเกินคาด

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

น้ำมัน WTI ร่วงเกือบ 1% แตะ 74.46 ดอลลารต่อบาร์เรล หลัง API เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯพุ่งเกินคาด
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 moneynbanking
  • ⏱ Reading Time:
  • 44 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 21%
  • Publisher: 51%

ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงในช่วงเช้านี้ หลังจาก API เผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเชื้อเพลิงของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์พลังงานในประเทศ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 66 เซนต์ หรือ -0.88% แตะที่ 74.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 09.36 น. ตามเวลาไทย

API ซึ่งเป็นองค์กรพลังงานเอกชนของสหรัฐฯ ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 14.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 6 ม.ค. ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีตติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล ตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 500,000 บาร์เรล

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ ในวันนี้ เพื่อยืนยันตัวเลขเบื้องต้นของ APIสำหรับดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยหาก CPI ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์จะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้ราคาสัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น...

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

moneynbanking /  🏆 44. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

น้ำมัน WTI ร่วงเกือบ 1% หลัง API เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งเกินคาด : อินโฟเควสท์น้ำมัน WTI ร่วงเกือบ 1% หลัง API เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งเกินคาด : อินโฟเควสท์ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงในช่วงเช้านี้ หลังจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเชื้อเพลิงของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์พลังงานในประเทศ ณ เวลา 09.36 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 66 เซนต์ หรือ -0.88% แตะที่ 74.46 ดอลลาร์/บาร์เรล API ซึ่งเป็นองค์กรพลังงานเอกชนของสหรัฐระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 14.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 6 ม.ค. ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีตติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล ตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 500,000 บาร์เรล นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เพื่อยืนยันตัวเลขเบื้องต้นของ API นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค […]
อ่านเพิ่มเติม »

น้ำมัน WTI ปิดบวก 86 เซนต์ รับความหวังจีนเปิดประเทศหนุนดีมานด์ : อินโฟเควสท์น้ำมัน WTI ปิดบวก 86 เซนต์ รับความหวังจีนเปิดประเทศหนุนดีมานด์ : อินโฟเควสท์สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (9 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า การเปิดประเทศของจีนจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน ทางการจีนเริ่มเปิดประเทศทั้งขาเข้าและขาออกตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นการสิ้นสุดนโยบายซีโร่โควิดที่จีนบังคับใช้มาเป็นเวลานานเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 โดยจีนคาดว่าการเปิดประเทศจะทำให้มีทริปการเดินทางท่องเที่ยวมากถึง 2 พันล้านทริปในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากปีที่แล้ว และคิดเป็น 70% ของทริปการเดินทางท่องเที่ยวในปี 2562 ตลาดยังได้แรงหนุน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยผลสำรวจประจำเดือนธ.ค.พบว่า ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าในช่วง 1 ปีข้างหน้า อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2564 และต่ำกว่าระดับ 5.2% ที่มีการสำรวจในเดือนพ.ย. ขณะเดียวกันผู้บริโภคคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะ 3 ปีข้างหน้าที่ระดับ 3.0% และระยะ 5 ปีข้างหน้าที่ระดับ 2.4% นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.85% แตะที่ระดับ 103.0010 เมื่อคืนนี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »

น้ำมัน WTI ปิดบวก 49 เซนต์ รับแนวโน้มอุปสงค์เชื้อเพลิงสดใส : อินโฟเควสท์น้ำมัน WTI ปิดบวก 49 เซนต์ รับแนวโน้มอุปสงค์เชื้อเพลิงสดใส : อินโฟเควสท์สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (10 ม.ค.) หลังจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐคาดการณ์ว่าปริมาณการใช้เชื้อเพลิงทั่วโลกมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้น (Short-Term Energy Outlook) โดยระบุว่า ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงทั่วโลกมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 102.2 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของหลายประเทศ โดยเฉพาะจีนและอินเดีย ซึ่งรายงานดังกล่าวสะท้อนถึงแนวโน้มที่สดใสของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ นักลงทุนจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหนือระดับ 5% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตาที่กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงระดับ 5.0-5.25% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ขณะที่นางแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ระบุเช่นกันว่า เฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าระดับ 5.0% โดยแตะระดับสูงสุดที่ 5.0-5.25% และคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไประยะหนึ่ง เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ ที่บ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาที่จัดขึ้นโดยธนาคารกลางสวีเดนที่กรุงสตอกโฮล์มเมื่อวานนี้ โดยกล่าวเพียงว่าธนาคารกลางจะต้องมีความเป็นอิสระจากอิทธิพลทางการเมือง ในช่วงเวลาที่ธนาคารกลางกำลังเร่งควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนธ.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ รวมทั้งจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐในวันนี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »

ปี 66 ต่างชาติลุยซื้อหุ้นไทย 1.1 หมื่นล้าน จับตาบาทแข็งเร็วสุดในอาเซียนปี 66 ต่างชาติลุยซื้อหุ้นไทย 1.1 หมื่นล้าน จับตาบาทแข็งเร็วสุดในอาเซียนเริ่มต้นปี 2566 ต่างชาติยังเดินหน้าซื้อหุ้นไทยไม่หยุด รวมมูลค่า 1.1 หมื่นล้าน ดัน SET Index แตะ 1,691 จุด ขณะที่เงินบาทกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 3 เด...
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-31 11:10:36