น้ำมัน WTI ปิดบวก 96 เซนต์ รับคาดการณ์โอเปกพลัสลดการผลิต ราคาน้ำมัน น้ำมันWTI อินโฟเควสท์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน และพันธมิตร จะปรับลดกำลังผลิตน้ำมันลงอีกในการประชุมวันที่ 4 ธ.ค.
ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวได้ช่วยหนุนราคาน้ำมัน WTI ฟื้นตัว หลังจากราคาร่วงลงแตะระดับ 73.60 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2564 อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ประท้วงในจีน
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
น้ำมัน WTI ร่วงกว่า 2% วิตกเหตุประท้วงในจีนกระทบดีมานด์พลังงาน : อินโฟเควสท์ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงกว่า 2% เช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเหตุการณ์ประท้วงที่ลุกลามไปทั่วประเทศจีนในขณะนี้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในจีน ณ เวลา 08.43 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.90 ดอลลาร์ หรือ -2.49% แตะที่ 74.38 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนได้ลุกลามเป็นวงกว้าง โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง เมืองอู่ฮั่น เฉิงตู ซีอาน และนานกิง เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะที่ผู้ประท้วงบางกลุ่มเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง นักวิเคราะห์กล่าวว่า การประท้วงดังกล่าวถือเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจจีนซึ่งได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ย่ำแย่ลง โดยคณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในวันเสาร์ (26 พ.ย.) อยู่ที่ 39,791 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งทำนิวไฮเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน นอกจากนั้นยังมีรายงานผู้เสียชีวิต …
อ่านเพิ่มเติม »
ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกว่า 100 จุด กังวลเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านล็อกดาวน์ในจีน : อินโฟเควสท์ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุดในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 ในจีน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน ณ เวลา 07.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 110 จุด หรือ -0.32% แตะที่ 34,246 จุด เหตุการณ์ประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนได้ลุกลามเป็นวงกว้างในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง เมืองอู่ฮั่น เฉิงตู ซีอาน และนานกิง เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะที่ผู้ประท้วงบางกลุ่มเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง การประท้วงทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ในอาคารสูงแห่งหนึ่งในเมืองอุรุมชี เมืองหลวงของซินเจียง และทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน โดยภาพจากวิดีโอที่แชร์บนโซเชียลมีเดียของจีนนั้น ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากเชื่อว่า ผู้อยู่อาศัยในอาคารไม่สามารถหนีไฟได้ทันเวลา เนื่องจากอาคารถูกล็อกดาวน์บางส่วนเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ การประท้วงที่ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นการประท้วงทั่วประเทศในขณะนี้ ถือเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ปธน.สี จิ้นผิงเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศ และถือเป็นบททดสอบว่ารัฐบาลจีนจะเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่อไปหรือไม่ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ชาวจีนรวมตัวประท้วงทั่วประเทศ เรียกร้องยุติล็อกดาวน์-จี้สีจิ้นผิงลาออก : อินโฟเควสท์เหตุการณ์ประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนได้ลุกลามเป็นวงกว้างในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะที่ผู้ประท้วงบางกลุ่มเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ชาวจีนในเมืองเซี่ยงไฮ้หลายร้อยคนได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ (27 พ.ย.) เพื่อต่อต้านการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิด-19 ที่ย่างเข้าสู่วันที่สาม รวมทั้งแสดงความไม่พอใจที่เกิดเหตุการณ์ผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในอาคารแห่งหนึ่งที่เมืองอุรุมชี เมืองหลวงของซินเจียง ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ดังกล่าว “เรามารวมตัวกันเพราะเรารักประเทศของเรา แต่เราไม่รักรัฐบาลของเรา เราต้องการออกนอกบ้านอย่างเป็นอิสระ แต่เราไม่สามารถทำได้ นโยบายโควิดเป็นศูนย์เป็นแค่เกม และไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และความเป็นจริง” ผู้ประท้วงรายหนึ่งในเมืองเซี่ยงไฮ้กล่าวกับผู้สื่อข่าว ส่วนการประท้วงในเมืองอุรุมชีนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ในอาคารสูงและทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คนเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) โดยภาพจากวิดีโอที่แชร์บนโซเชียลมีเดียของจีนนั้น ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากเชื่อว่า ผู้อยู่อาศัยในอาคารไม่สามารถหนีไฟได้ทันเวลา เนื่องจากอาคารถูกล็อกดาวน์บางส่วนเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เหตุการณ์ดังกล่าวได้นำไปสู่การต่อต้านอย่างรุนแรงและลุกลามไปยังเมืองต่าง ๆ ของจีนซึ่งรวมถึงกรุงปักกิ่ง เมืองอู่ฮั่น เฉิงตู ซีอาน และนานกิง ขณะที่นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จำนวนมากได้ออกมาร่วมประท้วงในครั้งนี้ด้วย โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ตะโกนใส่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลว่า “ยกเลิกการล็อกดาวน์” สำหรับที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนนั้น รายงานล่าสุดระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงอย่างน้อย 1,000 คนยังคงปักหลักประท้วงในช่วงเช้าวันนี้ (28 …
อ่านเพิ่มเติม »
สร้างอนาคตไทย เดินสายบุกนราธิวาส 1 ธ.ค.เปิดนโยบายขับเคลื่อนศก.ชายแดนใต้-ว่าที่ผู้สมัคร : อินโฟเควสท์นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) และโฆษกพรรค เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ธ.ค.65 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค พร้อมด้วย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคฯ และประธานนโยบายพรรค, นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค และประธานภาคกลาง เป็นต้น จะร่วมเดินทางลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อเปิดเวทีปราศรัยและพบปะประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมกันนี้ พรรคจะเปิดตัวผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนราธิวาส และปราศรัยเปิดนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ของพรรคฯ ที่อาสาจะเข้ามาทำงานให้กับประชาชนได้พิจารณาทั้งตัวบุคคลและนโยบายของพรรค ซึ่งพรรคฯ มั่นใจว่าจะสามารถปักหมุดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสได้ และจะทยอยเดินหน้าเปิดตัวผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่อื่นๆ ของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ต่อไป โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
แพทย์ใหญ่ทำเนียบขาวชี้สหรัฐยังตกอยู่ภายใต้การระบาดของโควิด : อินโฟเควสท์นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติสหรัฐและหัวหน้าคณะที่ปรึกษาทางการแพทย์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนระบุว่า สหรัฐยังคงตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเขาเผชิญความยากลำบากอย่างยิ่งในการรับมือกับโรคระบาด ท่ามกลางความแตกแยกทางการเมืองในประเทศ “ในฐานะเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผมไม่อยากเห็นใครประสบความทุกข์ยากและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เลย” นายแพทย์เฟาชีให้สัมภาษณ์ในรายการ “Meet the Press” ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีเมื่อวันอาทิตย์ (27 พ.ย.) พร้อมกล่าวเสริมว่า “ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะสนับสนุนพรรคริพับลิกันฝ่ายขวา หรือพรรคเดโมแครตฝ่ายซ้าย ทุกคนควรได้รับระบบสาธารณสุขที่ดี แต่นั่นกลับไม่เกิดขึ้น” นายแพทย์เฟาชีระบุว่า ปัจจุบันยังคงมีประชาชนราว 300 – 400 รายเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในแต่ละวัน และตัวเลขผู้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรใหม่นั้นต่ำกว่า 15% ขณะที่นายแพทย์อาชิช จาห์ เจ้าหน้าที่การแพทย์ระดับสูงของสหรัฐกล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขารู้ว่าสองปีที่ผ่านมานั้นเป็นช่วงเวลาอันยาวนานสำหรับชาวอเมริกัน แต่การรับวัคซีนก่อนถึงฤดูกาลวันหยุดส่งท้ายปียังคงเป็นเรื่องสำคัญมาก “เราเข้าใจว่าประชาชนต้องการก้าวไปข้างหน้า ข่าวดีคือ พวกเขาสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ หากหมั่นเข้ารับวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน” นายแพทย์จาห์ให้สัมภาษณ์ในรายการ “This Week” ทางสถานีโทรทัศน์เอบีซี โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »