น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.46 ตลาดกังวลสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.46 ตลาดกังวลสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 13 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 8%
  • Publisher: 68%

น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.46 ตลาดกังวลสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง ราคาน้ำมัน น้ำมันWTI อินโฟเควสท์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันพุธ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนเม.ย. ดิ่งลง 2.62 ดอลลาร์ หรือ 3.07% ปิดที่ 82.84 ดอลลาร์/บาร์เรล EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.78 กังวลดบ.ขาขึ้น-รัสเซียส่งออกน้ำมัน : อินโฟเควสท์น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.78 กังวลดบ.ขาขึ้น-รัสเซียส่งออกน้ำมัน : อินโฟเควสท์สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันจันทร์ (30 ม.ค.) โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลที่ว่าธนาคารกลางชั้นนำของโลก ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานที่ว่า รัสเซียยังสามารถส่งออกน้ำมันในปริมาณมากแม้ถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมัน WTI ร่วงลง 2.4% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 1.1% ธนาคารกลางชั้นนำ 3 แห่งของโลกจะประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ โดยเฟดจะเริ่มประชุมในวันอังคารที่ 31 ม.ค.และจะแถลงผลการประชุมในวันพุธที่ 1 ก.พ.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ.ตามเวลาไทย ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ.จะเป็นการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) โดยนักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างก็คาดการณ์ซ่า ECB และ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ เดนนิส คิสเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท […]
อ่านเพิ่มเติม »

น้ำมัน WTI ปิดบวก 97 เซนต์ รับดอลล์อ่อน-ดีมานด์ฟื้นตัว : อินโฟเควสท์น้ำมัน WTI ปิดบวก 97 เซนต์ รับดอลล์อ่อน-ดีมานด์ฟื้นตัว : อินโฟเควสท์สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (31 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ รวมทั้งข้อมูลที่บ่งชี้ว่าความต้องการน้ำมันดิบในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ย. สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า ความต้องการใช้น้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 178,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. 2565 สู่ระดับ 20.59 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2565 นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.18% แตะที่ระดับ 102.1000 เมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้นมาจากรายงานที่ว่า ต้นทุนแรงงานในไตรมาส 4/2565 ของสหรัฐขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 1 ปี ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธที่ 1 ก.พ.ตามเวลาสหรัฐนั้น ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ในวันนี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »

ราคาน้ำมัน WTI พุ่งเหนือ 79 ดอลล์/บาร์เรล ติดตามผลประชุมเฟด-OPEC+ราคาน้ำมัน WTI พุ่งเหนือ 79 ดอลล์/บาร์เรล ติดตามผลประชุมเฟด-OPEC+เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้น West Texas Intermediate (WTI) พุ่งขึ้นเหนือ 79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันอังคาร (31 ม.ค.66) .
อ่านเพิ่มเติม »

ฟิลิปปินส์เผชิญวิกฤตหัวหอมขาดตลาด ราคาพุ่งแรงแพงกว่าเนื้อสัตว์ : อินโฟเควสท์ฟิลิปปินส์เผชิญวิกฤตหัวหอมขาดตลาด ราคาพุ่งแรงแพงกว่าเนื้อสัตว์ : อินโฟเควสท์สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์รายงานว่า ฟิลิปปินส์กำลังเผชิญภาวะขาดแคลนหัวหอมอย่างรุนแรง ส่งผลให้ราคาหัวหอมพุ่งขึ้นสูงถึง 700 เปโซต่อกิโลกรัม (12.80 ดอลลาร์) หรือประมาณ 421.22 บาทในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ราคาหัวหอมในฟิลิปปินส์ขณะนี้สูงกว่าราคาเนื้อสัตว์ และสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำรายวันของประเทศ ซึ่งบ่งชี้ว่าฟิลิปปินส์กำลังเผชิญกับวิกฤตค่าครองชีพอย่างหนัก ริซาลดา มอเนส หญิงชาวฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นเจ้าของร้านพิซซ่าในเมืองเซบูเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวบีบีซีว่า “ร้านอาหารทุกแห่งในฟิลิปปินส์ติดป้ายแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า ‘ร้านนี้ไม่มีหัวหอมเป็นเครื่องเคียง’ เมื่อก่อนเราเคยซื้อหัวหอมแดงได้วันละ 3-4 กิโลกรัม แต่ตอนนี้เราซื้อได้แค่วันละครึ่งกิโลกรัมเท่านั้น ลูกค้าของเราก็เข้าใจดี เพราะเรื่องนี้ไม่ได้กระทบแค่ในร้านอาหารเท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึงภาคครัวเรือนที่เผชิญกับความยากลำบากในการหาหัวหอมมาเป็นเครื่องปรุงในอาหาร” สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หัวหอมซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารของชาวฟิลิปปินส์ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของค่าครองชีพที่สูงขึ้น ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 14 ปีในเดือนธ.ค. เนื่องจากราคาสินค้าทุกประเภทปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่อาหารไปจนถึงเชื้อเพลิง ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรด้วยนั้นระบุว่า การพุ่งขึ้นของราคาอาหารถือเป็น “สถานการณ์ฉุกเฉิน” และในช่วงต้นเดือนม.ค. ปธน.มาร์กอส จูเนียร์ ได้อนุมัติการนำเข้าหัวหอมแดงและหัวหอมเหลือง (หัวหอมใหญ่) เพื่อเพิ่มปริมาณสินค้าดังกล่าวในตลาด นิโคลาส มาปา นักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็นจี แบงก์กล่าวว่า การเปิดประเทศของฟิลิปปินส์ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อุปสงค์พุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ สภาพอากาศที่เลวร้ายยังส่งผลกระทบต่อการผลิตอาหาร “ย้อนไปในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะขาดคลนหัวหอม และจากนั้นต่อมาไม่กี่เดือน ฟิลิปปินส์ก็ถูกกระทบจากพายุโหมกระหน่ำ […]
อ่านเพิ่มเติม »

จีนสั่งตรวจเชื้อโควิดผู้ที่เดินทางจากเกาหลีใต้ ตอบโต้หลังถูกใช้มาตรการก่อน : อินโฟเควสท์จีนสั่งตรวจเชื้อโควิดผู้ที่เดินทางจากเกาหลีใต้ ตอบโต้หลังถูกใช้มาตรการก่อน : อินโฟเควสท์สำนักข่าวยอนฮัปรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทางการจีนได้สั่งให้มีการตรวจเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ตั้งแต่วันนี้ (1 ก.พ.) เพื่อตอบโต้เกาหลีใต้ที่ใช้มาตรการดังกล่าวกับจีนก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทางการจีนได้ส่งคำสั่งไปถึงสายการบินที่ให้บริการระหว่างเกาหลีใต้และจีนเมื่อวันอังคาร (31 ม.ค.) โดยระบุว่าผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางตรงจากเกาหลีใต้ไปยังจีนจะต้องเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ PCR และผู้ที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จะต้องกักตัวหรือเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รายงานระบุว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการตอบโต้เกาหลีใต้ที่ใช้มาตรการเข้มงวดกับนักท่องเที่ยวจากจีนเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยเกาหลีใต้ให้เหตุผลว่ามีความกังวลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในจีน ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ยุติการใช้ข้อกำหนดตรวจเชื้อแบบ PCR สำหรับนักเดินทางขาเข้าทุกคน แต่ในวันนี้ จีนได้นำมาตรการดังกล่าวมาใช้กับเกาหลีใต้อีกครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของเกาหลีใต้ระบุว่า จีนไม่ควรจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดนของผู้คนด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือจากมาตรการรับมือการแพร่ระบาด ทางด้านนายเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงต่อสื่อมวลชนว่า จีนจำเป็นต้องใช้มาตรการที่สอดคล้องและเท่าเทียมกัน พร้อมกับแสดงความกังวลต่อข้อกล่าวหาของเกาหลีใต้ที่ว่าจีนเลือกปฏิบัติ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-02 06:56:43