นักวิเคราะห์คาดดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะ 105 รับแนวโน้มตลาดแรงงานแข็งแกร่ง : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

นักวิเคราะห์คาดดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะ 105 รับแนวโน้มตลาดแรงงานแข็งแกร่ง : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 34 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 17%
  • Publisher: 68%

นักวิเคราะห์คาดดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะ 105 รับแนวโน้มตลาดแรงงานแข็งแกร่ง SMBC ดัชนีดอลลาร์ สหรัฐ อินโฟเควสท์

นายเรียวโตะ อาเบะ นักวิเคราะห์จากบริษัทซูมิโตโม่ มิตซุย แบงกิง คอร์ปอรเรชัน คาดการณ์ว่า ดัชนีดอลลาร์จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 105 ในระยะใกล้นี้ โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งในสัปดาห์นี้

สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลแรงงานหลายรายการในสัปดาห์นี้ โดยในวันพุธนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน เดือนเม.ย. ส่วนในวันพฤหัสบดีจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ จากนั้นในวันศุกร์กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ นายอาเบะกล่าวว่า “สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มอ่อนค่าลง เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินดอลลาร์” ส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.04% แตะที่ระดับ 104.2036

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

สรรหาเลขาธิการกสทช.คนใหม่ส่อแววยืดเยื้อ! : อินโฟเควสท์สรรหาเลขาธิการกสทช.คนใหม่ส่อแววยืดเยื้อ! : อินโฟเควสท์พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช. ) กล่าวถึงการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการกสทช.ว่า หลังไม่มีตัวแทนกรรมการเข้าร่วมตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรับการสรรหา โดยก่อนหน้านี้ ประธานบอร์ดกสทช. ได้ขอให้กรรมการเสนอตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการตรวจสอบ แต่ตนไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนี้ตั้งแต่ต้นจึงไม่ขอส่งตัวแทน และเท่าที่ทราบบอร์ดหลายคนก็ไม่ได้ส่งตัวแทนด้วยเช่นกัน “ถ้าส่งเท่ากับเป็นการไปร่วมทำกับสิ่งที่ไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น โดยสิ่งที่ไม่เห็นด้วยเพราะกระบวนการที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำตามมติบอร์ดกสทช. แต่เป็นการทำโดยประธานกสทช.ท่านเดียว ประกาศที่ออกมาแม้แต่ประกาศให้บอร์ดส่งตัวแทนไปเป็นกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติก็เป็นประกาศของประธานเท่านั้น” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

ปชป.ปัดคุยดีลลับจัดตั้งรัฐบาล ย้ำไม่ก้าวล่วง : อินโฟเควสท์ปชป.ปัดคุยดีลลับจัดตั้งรัฐบาล ย้ำไม่ก้าวล่วง : อินโฟเควสท์นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมวางแผนพูดคุยเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งนั้นว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเป็นข่าวที่บิดเบือนเพื่อให้เกิดความเสียหายกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาลนั้นถือเป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำ และพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ไปก้าวล่วงในเรื่องดังกล่าว ส่วนที่มีการโต้เถียงถึงตำแหน่งประธานรัฐสภา และมีการพาดพิงถึงการทำหน้าที่ประธานรัฐสภาของนายชวน หลีกภัยนั้น นายราเมศ กล่าวว่า หน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีหน้าที่ไปช่วยเหลือพรรคการเมืองใดในการไปผลักดันร่างกฎหมายต่างๆ ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะไปวินิจฉัย หรือสั่งการใดที่อยู่นอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุม ซึ่งประธานสภาฯ ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม ที่สำคัญทั้งรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุม ทั้งของสภาผู้แทนราษฎร และของที่ประชุมร่วมรัฐสภา ยังระบุอีกว่า จะต้องวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย สำหรับหน้าที่ในการผลักดันผ่านร่างกฎหมายนั้น เป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกรัฐสภา ดังนั้นการให้ความเห็นใดๆ ควรยึดหลักความถูกต้อง นอกจากนี้ยังยืนยันว่าที่ผ่านมาการทำหน้าที่ประธานรัฐสภาของนายชวนนั้น สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล ยึดหลักความเป็นกลางในการวินิจฉัยในที่ประชุมทุกครั้ง การจะมากล่าวหาว่าไม่ร่วมผลักดันกฎหมายบางฉบับนั้น ประธานสภาฯไม่สามารถทำได้ “ส่วนร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับ การยกเลิก ม.112 การยกเลิกความผิดดูหมิ่นเจ้าพนักงาน การยกเลิกความผิดฐานดูหมิ่นศาล ทั้งหมดเหล่านี้ มีการวินิจฉัยว่าขัดและแย้งต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ จึงไม่ถูกนำมาบรรจุในระเบียบวาระการประชุม ถ้าประธานสภาฯไปทำหน้าที่ตามอำเภอใจเพื่อสนับสนุนหรือผลักดัน ก็จะทำให้มีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ได้” นายราเมศ กล่าว นอกจากนี้การที่พาดพิงว่าประธานชวน ไม่ให้ความสำคัญกับร่างกฎหมายที่มาจากภาคประชาชนเสนอนั้น […]
อ่านเพิ่มเติม »

เวียดนามเล็งปรับลดส่งออกข้าวรายปีลง 44% สู่ 4 ล้านตันภายในปี 2573 : อินโฟเควสท์เวียดนามเล็งปรับลดส่งออกข้าวรายปีลง 44% สู่ 4 ล้านตันภายในปี 2573 : อินโฟเควสท์เวียดนามระบุในเอกสารเกี่ยวกับกลยุทธ์การส่งออกข้าวว่า เวียดนามตั้งเป้าที่จะลดการส่งออกข้าวลงเหลือ 4 ล้านตันต่อปีภายในปี 2573 ลดลงจาก 7.1 ล้านตันในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เวียดนามเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลกรองจากอินเดียและไทย เอกสารระบุว่า แผนการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อที่จะเพิ่มการส่งออกข้าวคุณภาพสูง, รับประกันความมั่นคงทางด้านอาหารภายในประเทศ, ปกป้องสิ่งแวดล้อม และปรับตัวตามการเปลี่ยนของสภาพอากาศ รายได้จากการส่งออกข้าวจะลดลงเหลือ 2.62 พันล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2573 โดยลดลงจาก 3.45 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

เพื่อไทย ปัดแย่งตำแหน่งประธานสภาฯ สร้างเงื่อนไขต่อรองเก้าอี้รมต. : อินโฟเควสท์เพื่อไทย ปัดแย่งตำแหน่งประธานสภาฯ สร้างเงื่อนไขต่อรองเก้าอี้รมต. : อินโฟเควสท์นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ออกมาระบุว่า ประเด็นตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นเกมที่เพื่อไทยต้องการใช้ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีว่า ไม่เป็นความจริง พรรคเพื่อไทยไม่คิดเอาตำแหน่งประธานมาเป็นเงื่อนไขต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะเป็นคนละส่วนกัน โดยยืนยันไม่คิดที่จะเป็นคนสร้างเงื่อนไขให้เการขับเคลื่อนรัฐบาลติดขัดแน่นอน ในส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรคต้องมาหารือตกลงร่วมกัน โดยมีธรรมเนียมเรื่องการนำเก้าอี้ส.ส.ที่แต่ละพรรคได้มามาเกลี่ยกันเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของตัวบุคคลในภารกิจนั้นๆด้วย ไม่ใช่จะเอาแค่เก้าอี้มาเป็นตัวชี้วัดอย่างเดียว ซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคร่วมคงต้องมีการหารือเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลจะได้เดินหน้าอย่างราบรื่น นายประเสริฐ ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์ ไม่คิดจะเอาตำแหน่งฝ่ายนิติบัญญัติมาเป็นเงื่อนไขในการต่อรองจนกระทบการทำงานของฝ่ายบริหารแน่ เพราะบ้านเมืองประสบปัญหามานาน เราต้องได้รัฐบาลที่กลมเกลียวไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ส่วนความคืบหน้าการเจรจาตำแหน่งประธานสภาฯ นายประเสริฐ เชื่อว่าเรื่องนี้มีทางออก อย่ามองไปไกลถึงจุดที่ว่าหากจนสุดทางแล้วยังไม่ลงตัวจะมีการปล่อยให้ฟรีโหวตกัน ตนไม่อยากให้มองไปถึงขั้นนั้นขอให้คุยกันก่อนเป็นทางที่ดีที่สุดเพื่อหาข้อยุติโดยเร็วก่อนที่เรื่องดังกล่าวจะบานปลาย พร้อมยืนยันจุดยืนสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

ผู้ว่าฯ กทม. ฝากรัฐบาลใหม่ทบทวนภาษีที่ดิน หลังเปลี่ยนรูปแบบทำรายได้ลดลง : อินโฟเควสท์ผู้ว่าฯ กทม. ฝากรัฐบาลใหม่ทบทวนภาษีที่ดิน หลังเปลี่ยนรูปแบบทำรายได้ลดลง : อินโฟเควสท์นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังร่วมกิจกรรม “ผู้ว่า กทม. สัญจร เขตพญาไท” เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามนโยบาย หลังจากที่ไม่ได้สัญจรมาในช่วงเลือกตั้งว่า เรื่องที่จะฝากไปถึงรัฐบาลใหม่ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากคือ เรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เดิมการเก็บภาษีโรงเรือนจะคิดจากรายได้ 12.5% เพื่อมาเป็นรายได้ของเขต แต่เมื่อมีการเปลี่ยนรูปแบบภาษีใหม่โดยคิดตามมูลค่าที่ดิน กลับทำให้รายได้ลดลง โดยยกตัวอย่าง เขตพญาไท ก่อนที่จะเปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บภาษี สามารถจัดเก็บได้ประมาณ 300 ล้านบาท เมื่อเปลี่ยนรูปแบบภาษีทำให้รายได้ลดลงเหลือประมาณ 200 ล้านบาท นายชัชชาติ กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ผู้ที่มีรายได้มากจะต้องเสียภาษีมาก แต่พบว่าไม่ได้เป็นไปตามนั้น ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่พญาไท เดิมเสียภาษี 10 ล้านบาท แต่เมื่อเก็บภาษีรูปแบบใหม่ เสียภาษีเพียง 1 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าภาษีลดลงถึง 10 เท่า หรืออาคารสำนักงานใหญ่แห่งหนึ่ง เดิมเสียภาษีกว่า 11 ล้านบาท เพราะคำนวณจากค่าเช่าภายในสำนักงาน แต่เมื่อคิดภาษีรูปแบบใหม่ เหลือเพียง 7 แสนบาท เพราะคิดตามมูลค่าที่ดิน และยิ่งเป็นอาคารเก่าก็ต้องคิดค่าเสื่อมเพิ่มไปอีก ในขณะที่ห้องเช่าซึ่งเป็นอาคาร […]
อ่านเพิ่มเติม »

กทม. เผยพบติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ชี้ภาพรวมยังไม่น่าห่วง เตียงยังมีเพียงพอ : อินโฟเควสท์กทม. เผยพบติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ชี้ภาพรวมยังไม่น่าห่วง เตียงยังมีเพียงพอ : อินโฟเควสท์น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กทม.ว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยวันละ 1,300-1,500 คน สูงสุดคือวันละ 1,900 คน ซึ่งเป็นข้อมูลจากโรงพยาบาลสังกัดกทม. และศูนย์บริการสาธารณสุขของกทม.เท่านั้น จึงทำให้คาดการณ์ได้ว่าผู้ป่วยจะมากกว่านี้ 2-3 เท่า ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่มีอาการในระดับเหลือง/ส้ม 1-2% บางรายอาจเปลี่ยนเป็นผู้ป่วยวิกฤติ โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 และผู้ที่ห่างจากการรับวัคซีนเข็มสุดท้ายมานานเกินกว่า 3 เดือนแล้ว อัตราการครองเตียงอยู่ที่ 50% ทั้งนี้ประชาชนสามารถไปรับวัคซีนได้ที่รพ.ของกทม. ศูนย์บริการสาธารณสุข และจุดฉีดวัคซีนนอกสถานพยาบาลตามศูนย์การค้าได้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง กทม.ยังคงร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี ซึ่งกทม.มีแนวคิดที่จะแบ่งเป็น 7 โซน แต่ละโซนจะมีรพ.แม่ และมีรพ.เครือข่าย ซึ่งอาจมีหลายสังกัด ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกันและจะทำให้เรื่องการสาธารณสุขในกรุงเทพฯมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในเรื่องนี้กทม.จะได้เสนอกับรัฐบาลใหม่ด้วยเช่นกัน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-17 13:25:09