น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รายงานภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกันยายน 2565 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีสำนักงานภาค 3 แห่ง ประกอบด้วยสำนักงานภาคเหนือ สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสำนักงานภาคใต้ ได้มีการติดตามและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ทั้งในส่วนของเศรษฐกิจภาพรวม ประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค เพื่อใช้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ครอบคลุมและทันเหตุการณ์ พบว่ามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ ส่งผลให้เศรษฐกิจภูมิภาคโดยรวมทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องดังนี้ ภาคเหนือ การท่องเที่ยวอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องสนับสนุนกำลังซื้อและการจ้างงาน เนื่องจากมีแรงหนุนจากการจัดกิจกรรมภายในพื้นที่ เช่น การจัดงานแข่งกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ใน จ.เชียงใหม่ และแนวโน้มการท่องเที่ยวในระยะถัดไปยังมีทิศทางที่ดีเพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น สะท้อนจากยอดจองห้องพักล่วงหน้าที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ด้วยการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น สนับสนุนให้เกิดความต้องการแรงงานมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจภาคบริการ ร้านอาหารและโรงแรม ตามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และการจัดงาน อีเวนท์ภายในพื้นที่ที่ทยอยกลับมา อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากปัจจัยด้านการท่องเที่ยว กิจกรรมเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการขนสินค้าที่ยังอยู่ในเกณ์ดี ด้านการซื้อสินค้าออนไลน์ ลดลงตามการออกมาจับจ่ายในช่องทางปกติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ภาคอีสาน มาตรการภาครัฐช่วยพยุงการใช้จ่ายและการจ้างงานให้อยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งมีการจัดประชุมสัมมนาในพื้นที่ภาคอีสานเยอะขึ้น และการเดินทางมาร่วมกิจกรรมการแข่งขันรถจักรยานยนต์รายการโมโต จีพี ใน จ.บุรีรัมย์ ช่วงปลายเดือนกันยายน-ต้นตุลาคม จึงทำให้มีการเดินทางคึกคักและการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการแรงงานในพื้นที่ก็เพิ่มขึ้นด้วย แต่ก็มีปัญหาเรื่องการเปิดรับแรงงานเพราะมีแรงงานทยอยกลับไปยังแหล่งงานเดิมในพื้นที่เศรษฐกิจหลัก …
น.ส.
ภาคเหนือ การท่องเที่ยวอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องสนับสนุนกำลังซื้อและการจ้างงาน เนื่องจากมีแรงหนุนจากการจัดกิจกรรมภายในพื้นที่ เช่น การจัดงานแข่งกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ใน จ.
ภาคอีสาน มาตรการภาครัฐช่วยพยุงการใช้จ่ายและการจ้างงานให้อยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งมีการจัดประชุมสัมมนาในพื้นที่ภาคอีสานเยอะขึ้น และการเดินทางมาร่วมกิจกรรมการแข่งขันรถจักรยานยนต์รายการโมโต จีพี ใน จ.บุรีรัมย์ ช่วงปลายเดือนกันยายน-ต้นตุลาคม จึงทำให้มีการเดินทางคึกคักและการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการแรงงานในพื้นที่ก็เพิ่มขึ้นด้วย แต่ก็มีปัญหาเรื่องการเปิดรับแรงงานเพราะมีแรงงานทยอยกลับไปยังแหล่งงานเดิมในพื้นที่เศรษฐกิจหลัก เช่น กทม.
ภาคใต้ การท่องเที่ยวยังดีต่อเนื่องและมีมาตรการภาครัฐหนุนการใช้จ่าย โดยกลุ่มนักท่องเที่ยว ต่างชาติเดินทางเข้ามาต่อเนื่อง และกลุ่มประชุมสัมมนาในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่แนวโน้มการท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่อง เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ที่สะท้อนจากอัตราการจองห้องพักล่วงหน้าที่เพิ่มสูงขึ้น และการจ้างงานยังมีต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง รายได้ภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น...
“จากความเชื่อมั่นที่ประชาชนเดินทางไปทำกิจกรรมต่างๆ ในจังหวัดท่องเที่ยว ทำให้จังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียงในภูมิภาคนั้นๆ ได้อานิสงส์คึกคักตามขึ้นมาด้วย”น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา พล.อ.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ธปท.เผยจับตาเงินบาท-Flow ใกล้ชิดยังไม่พบสัญญาณผิดปกติ บาทผันผวนจากดอลล์แข็งค่า : อินโฟเควสท์น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดการเงินโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยปัจจัยหลักมาจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสำคัญ หลังตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด และอาจกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นในระยะข้างหน้า รวมถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศอังกฤษ หลังการประกาศลาออกจากตำแหน่งของอดีตนายกรัฐมนตรี Liz Truss นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของจีนที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยวของไทย ด้านเงินทุนเคลื่อนย้าย (Flow) ยังไม่พบสัญญาณที่ผิดปกติ โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 20 ต.ค.65 นักลงทุนต่างชาติยังมีฐานะเป็นซื้อสุทธิในสินทรัพย์ไทยประมาณ 1.1 แสนล้านบาท (ซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์กว่า 1.4 แสนล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตรพันธบัตรที่ 3 หมื่นล้านบาท) ทั้งนี้ ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด โดยภาคเอกชนควรบริหารความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงินในสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
สทนช.เผยสถานการณ์น้ำท่วมขังเริ่มคลี่คลาย คาดกลับคืนสู่ภาวะปกติกลาง พ.ย. : อินโฟเควสท์นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า สทนช.ยังคงเน้นย้ำการบูรณาการแก้ไขปัญหา โดยกำกับติดตามแก้ไขปัญหาอุปสรรคให้แก่หน่วยงานปฏิบัติภายใต้ กอนช. เพื่อระบายน้ำในพื้นที่น้ำท่วมขัง ที่ได้เร่งระดมเครื่องจักรเครื่องมือ ใช้ทุกกลไกในการบริหารจัดการน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบอยู่ขณะนี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งคาดว่าในช่วงกลางเดือน พ.ย.จะเข้าสู่สภาวะปกติ “จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มปริมาณฝนลดลงและกำลังเข้าสู่ฤดูแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางที่เขื่อนเจ้าพระยากำลังปรับลดการระบายน้ำ และพื้นที่ภาตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนอุบลรัตน์ก็ลดการระบายน้ำเป็นขั้นบันได สถานการณ์อุทกภัยจะเริ่มคลี่คลายและเข้าสู่สภาวะปกติต่อไป” นายสุรสีห์ กล่าว ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบปริมาณฝนภาพรวมปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 20 ต.ค.65 พบว่า สูงกว่าค่าปกติถึง 21% โดยสูงกว่าปี 2564 ปริมาณ 295 มิลลิเมตร (มม.) หรือ 17% แต่ต่ำกว่าปี 2554 เพียง 10 มม. หรือ 1% โดยฤดูฝนปีนี้พบว่า ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ …
อ่านเพิ่มเติม »
จีนเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ขยายตัวสูงกว่าคาด แต่ยอดค้าปลีกชะลอตัว : อินโฟเควสท์สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 6.3% เมื่อเทียบเป็น ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้น 4.2% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้น 4.5% อย่างไรก็ดี ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของจีนขยับขึ้นเพียง 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนส.ค.ที่มีการขยายตัว 5.4% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้น 3.3% ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวขึ้น 5.9% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่อัตราว่างงานเดือนก.ย.ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 5.5% นอกจากนี้ ราคาบ้านใหม่ในเดือนก.ย.ปรับตัวลง 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่ลดลง 0.3% ในเดือนส.ค. และเมื่อเทียบเป็นรายปี ราคาบ้านใหม่เดือนก.ย.ร่วงลง 1.5% หลังจากที่ลดลง 1.3% ในเดือนส.ค. ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากผลกระทบของการที่ประชาชนจำนวนมากไม่ยอมจ่ายค่าจำนองบ้าน, การใช้มาตรการเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ต.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ศก.ฟื้น ดันความเชื่อมั่น 'อสังหาฯ' หวั่นต้นทุน 'ดอกเบี้ย - ที่ดิน'ขาขึ้นREIC เผย เศรษฐกิจไทยฟื้น ดัน ความเชื่อมั่นผู้พัฒนาอสังหาฯ ฟื้นต่อเนื่อง 2 ไตรมาส แต่หวั่น 'ต้นทุน' ยังสูง เหตุ ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ราคาที่ดิน อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
อ่านเพิ่มเติม »
“แบงก์ชาติ” แจงบาทผันผวนจากดอลล่าร์แข็งโป๊กหลังเงินเฟ้อยังพุ่ง คาดกดดันเฟดทยอยขึ้น ดบ.ยันไม่พบเงินทุนเคลื่อนย้ายผิดปกตินางชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และ โฆษก ธปท.เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดการเงินโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยปัจจัยหลักมาจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ สรอ.
อ่านเพิ่มเติม »