ธปท.ร่วมลงนาม MOU 4 ธนาคารกลางอาเซียนเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

ธปท.ร่วมลงนาม MOU 4 ธนาคารกลางอาเซียนเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 40 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 19%
  • Publisher: 68%

ธปท.ร่วมลงนาม MOU 4 ธนาคารกลางอาเซียนเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค BOT ธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท อาเซียน แบงก์ชาติ อินโฟเควสท์

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินของประเทศในภูมิภาคอาเซียนตามโครงการ ASEAN Payment Connectivity ที่เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 นั้น ในวันนี้ธนาคารกลางอินโดนีเซีย ธนาคารกลางมาเลเซีย ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ ธนาคารกลางสิงคโปร์ และธปท.

ทั้งนี้ การเชื่อมโยงระบบการชำระเงิน จะเป็นส่วนสำคัญในการเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค และส่งเสริมให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ทั่วถึงมากขึ้น โดยจะช่วยสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาให้มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนการโอนเงินระหว่างประเทศ การท่องเที่ยว และกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้ระบบนิเวศน์ทางการเงินในภูมิภาคครอบคลุมสู่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้น...

ความร่วมมือในครั้งนี้สนับสนุนวิสัยทัศน์ร่วมของอาเซียน ที่ต้องการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค เพื่อให้ธุรกรรมการชำระเงินทำได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และมีต้นทุนที่ถูกลง นอกจากนี้ ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับประเทศอื่นในอาเซียนที่ต้องการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในระยะต่อไป และส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ตามแนวทางของอาเซียนที่มุ่งเน้นการสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน...

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

อนุสรณ์ ชี้ดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นแรงหาก ธปท.ขึ้นดอกเบี้ย-แบงก์ผลักภาระหนี้ FIDF : อินโฟเควสท์อนุสรณ์ ชี้ดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นแรงหาก ธปท.ขึ้นดอกเบี้ย-แบงก์ผลักภาระหนี้ FIDF : อินโฟเควสท์นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในตลาดการเงินโลกเริ่มชะลอตัวว่า หลายประเทศเริ่มมีสัญญาณสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ แรงกดดันเงินเฟ้อลดลงอย่างมีนัยยสำคัญในหลายภูมิภาค ตลาดการเงินและเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ความวิตกกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอยคลายตัว และคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกน่าจะอยู่ที่ระดับ 2.7-2.8% อัตราการขยายตัวของการค้าโลกอยู่ที่ระดับ 2.5-2.6% แม้จะเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและปริมาณการค้าของโลกที่ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยในช่วงปี พ.ศ.2553-2562 แต่ก็ถือว่าเศรษฐกิจโลกไม่ได้เผชิญภาวะถดถอยใดๆ แต่อาจจะมีบางประเทศเท่านั้นที่ประสบภาวะถดถอยในปีหน้า ผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครนเบาบางลง สงครามไม่ขยายวงกว้างแต่อาจยืดเยื้อต่อไป การเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง ดุลบัญชีเดินสะพัดที่จะเกินดุลในปีหน้า กระแสเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในอาเซียนและไทย ทั้งภาคเศรษฐกิจจริงและตลาดการเงิน จะทำให้เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าค่อนข้างเร็วและแรงกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้เดิม เงินบาทจะทยอยปรับตัวแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายปี 2565 และต้นปี 2566 โดยคาดว่าค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 34.50-36.50 บาท/ดอลลาร์ในปี 2566 โดยอาจจะมีบางช่วงที่เห็นเงินบาททดสอบระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ได้ กระแสเงินระยะสั้นไหลเข้าตลาดหุ้นพร้อมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนโดยภาพรวมที่ดี และราคายังไม่แพงนัก ทำให้ตลาดหุ้นในอาเซียนและไทยมีปัจจัยที่ดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาตินอกภูมิภาค คาดว่าอาจได้เห็นดัชนีตลาดหุ้นทดสอบ 1,680-1,700 ในช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้าได้ หาก ธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปลายเดือนนี้มากกว่าที่ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มอีก 0.25% จะส่งผลทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก การปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่มีนัยยะสำคัญต่อการควบคุมอัตราเงินเฟ้อในระยะสั้น ไม่มีผลต่อตลาดหุ้นโดยภาพรวมมากนัก แต่จะกระตุ้นให้หุ้นในกลุ่มธนาคาร การเงินและประกันน่าสนใจมากขึ้น อาจทำให้หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และบริษัทที่มีโครงสร้างทางการเงินที่มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนสูงมีความน่าสนใจน้อยลง การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อเสริมด้วยกับการที่ระบบธนาคารพาณิชย์ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม FIDF สูงขึ้น …
อ่านเพิ่มเติม »

แบงก์ชาติ 5 แห่งในอาเซียน รวมไทย ลงนาม MOU ชำระเงินข้ามพรมแดน : อินโฟเควสท์แบงก์ชาติ 5 แห่งในอาเซียน รวมไทย ลงนาม MOU ชำระเงินข้ามพรมแดน : อินโฟเควสท์ธนาคารกลาง 5 ประเทศในอาเซียนได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องการชำระเงินข้ามพรมแดนระดับภูมิภาคในวันนี้ (14 พ.ย.) ในพิธีที่จัดขึ้นก่อนถึงการประชุมสุดยอด G20 ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ทั้งนี้ ธนาคารกลางทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วยธนาคารกลางอินโดนีเซีย ธนาคารกลางมาเลเซีย ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ ธนาคารกลางสิงคโปร์ และธนาคารแห่งประเทศไทย ในพิธีลงนามดังกล่าว นายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียระบุว่า การเชื่อมโยงระดับภูมิภาคจะทำงานด้วยการใช้คิวอาร์โค้ด (QR Code) พร้อมกล่าวเสริมว่า จะมีการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการชำระเงินโดยตรง โดยไม่ต้องแปลงเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐก่อน อินโดนีเซียได้เริ่มเชื่อมต่อระบบการชำระเงินด้วยการใช้คิวอาร์โค้ดกับประเทศไทยเมื่อช่วงต้นปีนี้ และจะใช้ระบบเดียวกันนี้กับประเทศอื่นเร็ว ๆ นี้ พร้อมวางแผนขยายขอบเขตไปสู่ระดับโลกในอนาคต นอกจากนี้ นายวาร์จิโยกล่าวด้วยว่า ข้อตกลงนี้ครอบคลุมการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในระดับค้าปลีก โดยมีแผนที่จะยกระดับความเป็นพันธมิตรไปสู่ระดับค้าส่งและเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ก่อนหน้านี้ นายวาร์จิโยระบุว่า จะมีการเชื่อมโยงการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่าง 5 ประเทศสมาชิกอาเซียนตั้งแต่ปีหน้า โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

LALIN มั่นใจผลงาน Q4/65 ดีกว่า Q3/65 รับลูกค้าเร่งโอนก่อนสิ้นสุดมาตรการรัฐ : อินโฟเควสท์LALIN มั่นใจผลงาน Q4/65 ดีกว่า Q3/65 รับลูกค้าเร่งโอนก่อนสิ้นสุดมาตรการรัฐ : อินโฟเควสท์นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ (LALIN) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจปีนี้เป็นปีที่มีปัจจัยท้าทายต่างๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบที่เกิดจากประเด็นเรื่อง Geopolitics ความท้าทายจากราคา Commodities ต่างๆ ที่เร่งตัวขึ้น ความท้าทายในเรื่องของเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นทั่วโลก จนทำให้หลายประเทศต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย อันเริ่มนำมาสู่ความเสี่ยงที่จะเกิด Recession ในหลายประเทศ ในส่วนของประเทศไทยคาดว่าสิ้นเดือนพ.ย.นี้ ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็คงมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 1.25% ซึ่งมองว่าการค่อยๆปรับขึ้นนั้น ทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชนจะสามารถที่จะปรับตัวได้ โดยประเทศไทยมีเครื่องยนต์จากการท่องเที่ยวที่เริ่มค่อยๆฟื้นตัว ภายหลังการเปิดประเทศ โดยในปีนี้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะเกินระดับ 10 ล้านคน และคาดหวังจะขึ้นไปถึง 20 ล้านคนได้ในปี 66 ซึ่งภาคการท่องเที่ยวนี้จะเป็นเครื่องยนต์ที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวไปได้สำหรับในปีนี้ต่อปีหน้า สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยในไตรมาส 4/66 มาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมโอน และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค. 65 อาจเห็นการเร่งโอนกรรมสิทธิ์เพื่อรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวในช่วงปลายปีนี้ ในแง่ของผลการดำเนินงานของบริษัท สำหรับไตรมาส 3/66 มียอดรับรู้รายได้ 1,504.7 ล้านบาท …
อ่านเพิ่มเติม »

พาณิชย์มั่นใจส่งออกข้าวปีนี้ทะลุเป้า 7.5 ล้านตัน จับมือเอกชนทวงคืนตลาดข้าวไทยปี 66 : อินโฟเควสท์พาณิชย์มั่นใจส่งออกข้าวปีนี้ทะลุเป้า 7.5 ล้านตัน จับมือเอกชนทวงคืนตลาดข้าวไทยปี 66 : อินโฟเควสท์นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 66 กรมฯ ได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์ตลาดข้าว โดยเดินหน้าตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ คือ รัฐหนุน เอกชนนำ พร้อมร่วมมือกับผู้ส่งออกข้าวจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดข้าวไทย เพื่อรักษาและขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าเดิม และแสวงหากลุ่มลูกค้าใหม่ ทั้งนี้ มีกิจกรรมที่จะดำเนินการทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ อาทิ การกระชับความสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นกับคู่ค้าสำคัญอย่างต่อเนื่อง ผ่านระบบการประชุมทางไกลกับฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อิรัก และญี่ปุ่น เป็นต้น นอกจากนี้ ปี 66 กรมฯ มีแผนจะจัดการประชุมข้าวนานาชาติ Thailand Rice Convention 2023 ซึ่งเป็นการประชุมที่ยิ่งใหญ่และสำคัญสำหรับผู้ที่อยู่ในวงการค้าข้าวโลก ที่เดินทางมาเข้าประชุมสัมมนาวิชาการ ในการสร้างความร่วมมือด้านการค้า และเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกข้าวและผู้นำเข้าข้าวจากทั่วโลก นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีแผนที่จะเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติทั้งในประเทศ ได้แก่ Thaifex Anuga ASIA 2023 และในต่างประเทศ ได้แก่ งาน Summer Fancy …
อ่านเพิ่มเติม »

RML มั่นใจปี 66 เทิร์นอะราวด์วางเป้ายอดขาย 8.2 พันลบ.เล็งเปิด 2 โครงการใหม่ : อินโฟเควสท์RML มั่นใจปี 66 เทิร์นอะราวด์วางเป้ายอดขาย 8.2 พันลบ.เล็งเปิด 2 โครงการใหม่ : อินโฟเควสท์นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บมจ.ไรมอน แลนด์ (RML) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 ของบริษัทขาดทุนลดลงมาที่ 47.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นจากไตรมาส 2/65 ที่ขาดทุน 193 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จาก Backlog โครงการเดอะ ลอฟท์ สีลม และยังมีรายได้ประจำจากค่าบริหารโครงการ และค่าธรรมเนียมการตลาด ส่วนผลประกอบการดีขึ้นจากไตรมาสก่อนมาจากส่วนแบ่งกำไรโครงการ ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ คอนโดมิเนียมอัลตร้าลักชัวรี่หนึ่งเดียวใจกลางถนนสุขุมวิท ที่สร้างเสร็จและเริ่มโอนตั้งแต่ไตรมาส 3/65 ซึ่งโครงการนี้อยู่ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง ไรมอน แลนด์ และ บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ จำกัด โดยมียอดขายแล้วถึง 75% และเริ่มมีการทยอยโอนอย่างรวดเร็วซึ่งส่งผลให้บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทคาดว่าปีนี้จะทำยอดโอนได้ราว 2,000 ล้านบาทตามเป้าที่วางไว้ ส่วนอีกหนึ่งโครงการภายใต้การร่วมทุนกับ โตเกียว ทาเทโมโนะ คือ เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ คอนโดมิเนียมลักชัวรี่ ใจกลางสาทร ก็มียอดขายแล้วกว่า …
อ่านเพิ่มเติม »

BEM เผยกำไร Q3/65 นิวไฮตามปริมาณเดินทางเพิ่มขึ้น รับภาพรวมศก.ฟื้น : อินโฟเควสท์BEM เผยกำไร Q3/65 นิวไฮตามปริมาณเดินทางเพิ่มขึ้น รับภาพรวมศก.ฟื้น : อินโฟเควสท์นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 3/65 โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 863 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 755 ล้านบาทหรือ 699% ที่มีกำไรสุทธิ 108 ล้านบาท และมีรายได้จากการดำเนินงาน จำนวน 3,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,585 ล้านบาท หรือ 73.6% โดยรายได้ค่าผ่านทางเพิ่มขึ้น จำนวน 868 ล้านบาท รายได้ค่าโดยสารและรับจ้างเดินรถเพิ่มขึ้น จำนวน 651 ล้านบาท และรายได้พัฒนาเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น จำนวน 66 ล้านบาท จากปัจจัยบวกหลังการเปิดประเทศที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการกลับมาทำงานของภาคธุรกิจ การกลับมาเรียน on site ของสถาบันการศึกษา และยอดนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตัวเลขกำไร 863 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปีนี้เป็นตัวเลข New …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-15 14:13:43