ข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ แสดงให้เห็นว่า เงินฝากในธนาคารขนาดเล็กของสหรัฐฯ ลดลงเป็นประวัติการณ์หลังจากการล่มสลายของ Silicon Valley Bank เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ธนาคาร สหรัฐ วิกฤตเศรษฐกิจ เงินฝาก เฟด
เงินฝากในธนาคารขนาดเล็กลดลงถึง 119 พันล้านดอลลาร์เหลือ 5.46 ล้านล้านดอลลาร์ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่15 มีนาคม ซึ่งมากกว่าสองเท่าของการลดลงเป็นประวัติการณ์ครั้งก่อนและลดลงมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินฝากทั้งหมดนับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 มีนาคม 2550ข้อมูลรายสัปดาห์ของเฟดยังแสดงให้เห็น การกู้ยืมเงินของธนาคารขนาดเล็กซึ่งหมายถึงทั้งหมดยกเว้นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุด 25 แห่งของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 253 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่669.
6 พันล้านดอลลาร์"ผลที่ตามมาคือ ธนาคารขนาดเล็กมีเงินสดในมือเพิ่มขึ้น 97,000 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นสัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินกู้ยืมบางส่วนเพื่อเป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อนในกรณีที่ผู้ฝากขอไถ่ถอนเงิน" Capital Economics' นักวิเคราะห์Paul Ashworth ระบุข้อมูลของเฟดยังแสดงให้เห็นว่า เงินฝากของธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 67 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้เป็น 10.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
นักวิเคราะห์ชี้ธุรกิจร่วมทุนอาจขาดทุนราว 5 แสนล้านดอลล์หลัง SVB ล้ม : อินโฟเควสท์บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์เปิดเผยว่า หลังจากการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) นั้น ธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture capital – VC) มูลค่าราว 2 ล้านล้านดอลลาร์ อาจจะเผชิญกับภาวะขาดทุน 25-30% หรือราว 5 แสนล้านดอลลาร์ นายเการาฟ ปาตันการ์ นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์เปิดเผยในวันศุกร์ (24 มี.ค.) ว่า “หลังจากการล่มสลายของ SVB เราคาดว่าจะมีการพิจารณามูลค่าการลงทุนและการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุนบำเหน็จบำนาญที่มีการลงทุนอย่างมากในธุรกิจเหล่านี้” นายปาตันการ์กล่าวว่า บริษัท VC บางแห่งพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการขาดทุนด้วยการถือครองสินทรัพย์ที่มีมูลค่าลดลงต่อไปหรือทำการเพิ่มทุน แต่วิธีการเหล่านั้นเป็นเพียงการชะลอการประเมินมูลค่าการลงทุนที่ไม่เป็นจริงเท่านั้น ทั้งนี้ มีบริษัท VC หลายแห่งที่มีหนี้สินสูงที่จำเป็นต้องทำการปรับโครงสร้างและรูปแบบธุรกิจใหม่เพื่อให้อยู่รอดได้ ท่ามกลางภาวะสินเชื่อที่ตึงตัว, รายได้ที่ลดลง และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
'ซิตี้กรุ๊ป' เตือนแอปธนาคารบนมือถือเป็นปัจจัยเร่งความเสี่ยงเกิด bank run : อินโฟเควสท์นางเจน เฟรเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารซิตี้กรุ๊ปกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตันว่า แอปพลิเคชันธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ และการที่ลูกค้าสามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้หลายล้านดอลลาร์เพียงแค่ใช้นิ้วคลิกปุ่มบนโทรศัพท์นั้น อาจจะทำให้บรรดานายธนาคารและหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนแนวทางในการป้องกันความเสี่ยงจากปัญหาการแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร (bank run) “แอปพลิเคชันธนาคารบนโทรศัพท์มือถือจะกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกม (game changer) อย่างสิ้นเชิงจากสิ่งที่เราเคยเห็นมาก่อน และยิ่งรวมกับการมีทวิตเตอร์ด้วยแล้ว ปรากฏการณ์ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์”นางเฟรเซอร์กล่าว นอกจากนี้ เธอยังพูดถึงการทำงานของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของรัฐบาล โดยกล่าวว่า “ดิฉันขอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า หน่วยงานกำกับดูแลได้ทำหน้าที่ของพวกเขาอย่างดีที่สุดแล้วด้วยการตอบสนองวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะโดยปกติแล้ว พวกเขาจะใช้เวลานานกว่านี้” นางเฟรเซอร์กล่าวว่า การล่มสลายอย่างรวดเร็วของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ธนาคารต่าง ๆ เผชิญกับความยากลำบากในการประเมินสินทรัพย์และเตรียมความพร้อมในการประมูลสินทรัพย์ของตนเอง ส่วนกรณีที่ SVB และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) ล้มละลายในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากลูกค้าในกลุ่มบริษัทร่วมทุน (Venture Capital) แห่ถอนเงินออกมาเป็นจำนวนหลายหมื่นล้านดอลลาร์นั้น นางเฟรเซอร์เชื่อว่า ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะมีผู้ซื้อปรากฏตัวเพื่อเสนอซื้อกิจการของทั้งสองธนาคาร ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ นางเฟรเซอร์ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ระบบธนาคารของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แม้การล้มลงของธนาคาร SVB และ SB ได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน และทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญความปั่นป่วนอย่างหนักก็ตาม “ระบบธนาคารของสหรัฐมีความแข็งแกร่งมาก โดยแม้ว่าธนาคารชื่อดังบางแห่งถูกปิดกิจการไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ดิฉันมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์สินเชื่อในระบบธนาคารของสหรัฐ”นางเฟรเซอร์กล่าว ขณะเดียวกันนางเฟรเซอร์ยืนยันว่า […]
อ่านเพิ่มเติม »
'เยลเลน' ออกโรงฟื้นความเชื่อมั่นตลาด ยืนยันปกป้องเงินฝากของชาวมะกัน : อินโฟเควสท์นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการจัดสรรงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) ว่า กระทรวงการคลังมีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า เงินฝากธนาคารของชาวอเมริกันจะยังคงปลอดภัยในช่วงเวลาที่ภาคธนาคารสหรัฐเผชิญภาวะปั่นป่วน “เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการคลังสหรัฐได้ใช้เครื่องมือที่สำคัญในการรับมือกับวิกฤตการณ์อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตการณ์นี้ลุกลามบานปลาย เราจะนำเครื่องมือนี้มาใช้อีกครั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเงินฝากของชาวอเมริกันจะปลอดภัย และแน่นอนว่าเรามีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมหากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น” นางเยลเลนกล่าว ทั้งนี้ นางเยลเลนระบุว่า มาตรการฉุกเฉินที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐได้นำมาใช้เพื่อปกป้องเงินฝากของลูกค้าธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) นั้น จะถูกนำมาใช้อีกครั้งหากจำเป็น พร้อมระบุว่า บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ประมาณการว่าความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์นั้น อาจจะมากกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงต้นเดือนมี.ค. ธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ได้ถูกสั่งปิดกิจการ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังการล่มสลายของธนาคาร SVB ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญความปั่นป่วนอย่างรุนแรง และทำให้ระบบธนาคารของสหรัฐประสบกับภาวะวิกฤต จนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 มี.ค.) แฟลกสตาร์ แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารในเครือของนิวยอร์ก คอมมูนิตี้ บันคอร์ป ได้บรรลุข้อตกลงกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ เพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ซึ่งประกอบด้วยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ รวมทั้งสาขาธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ทั้ง 40 แห่ง […]
อ่านเพิ่มเติม »
ECB เล็งสร้างความเชื่อมั่นภาคธนาคาร เรียกร้องผู้นำ EU ออกมาตรการประกันเงินฝาก : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่า ECB มีแนวโน้มที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับบรรดาผู้นำในสหภาพยุโรป (EU) ในวันนี้ (24 มี.ค.) ว่า ธนาคารในยูโรโซนยังคงมีความปลอดภัย หลังจากตลาดการเงินทั่วโลกได้รับผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคธนาคารของสหรัฐและสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ดี คาดว่า ECB จะเรียกร้องให้ผู้นำ EU ผลักดันการออกมาตรการประกันเงินฝาก ผู้นำ EU กำลังประชุมร่วมกันเป็นวันที่ 2 ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนไปใช้กฎระเบียบด้านการคลังและหนี้สินของ EU ขณะเดียวกันคาดว่าที่ประชุมจะหารือถึงผลกระทบของวิกฤตการณ์ธนาคารเครดิต สวิส และการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ที่มีต่อระบบธนาคารของ EU ด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของ ECB เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า นางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB จะเสนอแนวทางการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินต่อบรรดาผู้นำยูโรโซนทั้ง 20 ประเทศ และมีแนวโน้มว่า นางลาการ์ดจะถูกซักถามว่า ECB มีแผนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อต่อไปหรือไม่ “นางลาการ์ดมีแนวโน้มที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบธนาคารของ EU หลังจากธนาคารของสวิตเซอร์แลนด์ประสบปัญหาสภาพคล่อง และเธอจะเรียกร้องให้กลุ่มผู้นำ […]
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นดอยซ์แบงก์ร่วง 9% เหตุค่า CDS พุ่งท่ามกลางความวิตกต่อภาคธนาคาร : อินโฟเควสท์หุ้นธนาคารดอยซ์แบงก์ร่วงกว่า 9% ในการซื้อขายช่วงแรกวันนี้ (24 มี.ค.) หลังจากค่าประกันความเสี่ยงตราสารหนี้ (Credit Default Swap: CDS) พุ่งทะยานขึ้นในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) เนื่องจากผู้คนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของธนาคารในยุโรป ทั้งนี้ หุ้นธนาคารดอยซ์แบงก์ร่วงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้วและเดือนนี้สูญเสียมูลค่าตลาดไปแล้วกว่า 1 ใน 5 โดยค่า CDS พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.73% เมื่อวานนี้ จากระดับ 1.42% ในวันก่อนหน้า การที่ธนาคารยูบีเอส (UBS) ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส หลังธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ของสหรัฐล้มได้ไม่กี่วัน ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนแบบเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลมากยิ่งขึ้นไปอีกหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE […]
อ่านเพิ่มเติม »
BOK เผยบริษัทการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารต้องเผชิญแรงกดดันจากตลาดอสังหาฯซบเซา : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า บริษัทการเงินของเกาหลีใต้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยจากปัญหาที่ธนาคารสหรัฐและธนาคารสวิส แต่บริษัทการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารบางแห่งอาจต้องเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา รายงานระบุว่า ธนาคารต่าง ๆ ในเกาหลีใต้ได้รับการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด และการลงทุนในพันธบัตรกับหุ้นอยู่ที่ 18% ของสินทรัพย์ทั้งหมด น้อยกว่าธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ซึ่งล้มละลายไปไม่นานมานี้ ที่มีการลงทุนในพันธบัตรกับหุ้นอยู่ที่ 57% ของสินทรัพย์ทั้งหมด นอกจากนี้ BOK รายงานเพิ่มเติมว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซานี้ ได้เพิ่มความเสี่ยงให้กับบริษัทการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารบางแห่ง เนื่องจากความเสี่ยงในการจัดหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทางด้านบริษัทจัดหาสินเชื่อ เช่น บริษัทผู้ออกบัตรเครดิต พบว่าสินเชื่อโครงการและการค้ำประกันการชำระเงินนั้น เพิ่มขึ้น 433% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนธนาคารออมทรัพย์ ซึ่งเกาหลีจัดอยู่ในกลุ่มบริษัทการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 250% ในขณะที่บริษัทประกันเพิ่มขึ้น 205% สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาของที่อยู่อาศัยทั่วเกาหลีใต้ลดลงตลอดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากนโยบายการเงินเชิงรุกที่เข้มงวดทั้งในประเทศและทั่วโลกเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อปกป้องตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่ให้ทรุดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการล่าสุดที่ได้ประกาศไปเมื่อวันพุธ (22 มี.ค.) ออกแบบมาเพื่อช่วยลดภาระภาษีให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านอย่างมาก โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 […]
อ่านเพิ่มเติม »