นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับมาตรฐานการส่งออกผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียนที่ถือเป็นผลไม้ยอดนิยม ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์วิธีการเลือกซื้อทุเรียนไทย โดยล่าสุดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคในต่างประเทศอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ จากผลความสำเร็จของการส่งออก และพัฒนาคุณภาพผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เผยข้อมูลการส่งออกทุเรียนไทยในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีส่วนแบ่งตลาดถึง 90% ซึ่งทุเรียนไทยสามารถสร้างมูลค่าได้กว่า 82,805 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณส่งออก 779,206 ตัน (ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 24 พฤศจิกายน 2565) ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สานต่อความเชื่อมั่นและความสำเร็จดังกล่าว โดยล่าสุดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการผ่านทูตเกษตรทั้ง 11 แห่ง ใน 8 ประเทศที่เป็นประเทศเป้าหมายของผู้บริโภคทุเรียนไทย ได้แก่ จีน (ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, กว่างโจว), ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, สหรัฐอเมริกา (วอชิงตัน …
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.
ทั้งนี้ จากผลความสำเร็จของการส่งออก และพัฒนาคุณภาพผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เผยข้อมูลการส่งออกทุเรียนไทยในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีส่วนแบ่งตลาดถึง 90% ซึ่งทุเรียนไทยสามารถสร้างมูลค่าได้กว่า 82,805 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณส่งออก 779,206 ตัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สานต่อความเชื่อมั่นและความสำเร็จดังกล่าว
โดยล่าสุดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการผ่านทูตเกษตรทั้ง 11 แห่ง ใน 8 ประเทศที่เป็นประเทศเป้าหมายของผู้บริโภคทุเรียนไทย ได้แก่ จีน , ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, สหรัฐอเมริกา , สหภาพยุโรป, อิตาลี และรัสเซีย ให้สร้างการรับรู้ผ่านการประชาสัมพันธ์ สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพ มาตรฐาน และให้ความรู้ถึงวิธีการเลือกทุเรียนคุณภาพจากประเทศไทย ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ จะเร่งประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่นเดียวกัน รวมไปถึงจะเฝ้าระวังติดตามข่าวสารในสื่อออนไลน์และสื่อต่าง ๆ...
สำหรับวิธีการเลือกซื้อทุเรียนไทยให้ได้คุณภาพ ใช้การพิจารณาจากลักษณะภายนอกเป็นหลัก มีจุดสังเกต 5 จุด ได้แก่ 1. ปากปลิง ต้องบวมโต เห็นรอยต่อได้อย่างชัดเจน 2. ก้านผลต้องมีความแข็งแรง สีน้ำตาลเข้ม สัมผัสแล้วสากมือ 3. ร่องหนามห่าง เมื่อบีบเข้าหากันจะรู้สึกว่ามีสปริง 4. ปลายหนามแห้ง สีน้ำตาลเข้ม เปราะและหักง่าย และ 5. พูต้องสามารถสังเกตรอยแยกกลางพูได้อย่างชัดเจน
“รัฐบาลเห็นถึงศักยภาพ และโอกาสของตลาดผลไม้ไทยในต่างประเทศ ซึ่งทุเรียนไทยเป็นอีกความสำเร็จ สะท้อนประสิทธิภาพของการบริหารจัดการการส่งออกผลไม้ สามารถยกระดับคุณภาพและมาตรฐาน จนได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
สิงคโปร์รั้งเบอร์ 1 ลงทุนในเมียนมา 7 เดือนแรกกว่า 4 หมื่นล้านสิงคโปร์ยังครองเบอร์ 1 ลงทุนในเมียนมาสูงสุดช่วง 7 เดือนแรกปีงบประมาณ 2565-2566 มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท ตามด้วยฮ่องกงและจีน ระบุภาคพลังงาน ภาคบริการ อสังหาฯฮอตมูลค่าลงทุนอันดับต้น
อ่านเพิ่มเติม »
เมืองอุรุมชีผ่อนปรนนโยบายคุมโควิด เปิดห้าง-ร้านอาหารตั้งแต่วันพรุ่งนี้ : อินโฟเควสท์นครอุรุมชี ซึ่งเป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ได้ประกาศผ่อนปรนนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในวันนี้ โดยจะอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้า ตลาด ร้านอาหาร และสถานที่อื่น ๆ กลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้ หลังล็อกดาวน์เข้มงวดมาหลายเดือน มาตรการผ่อนคลายดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ชาวจีนพากันรวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง เมืองอู่ฮั่น เฉิงตู ซีอาน และนานกิง เพื่อประท้วงต่อการที่รัฐบาลยังคงล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน และทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม นอกจากนี้ ประชาชนแสดงความไม่พอใจที่เกิดเหตุการณ์ผู้เสียชีวิตถึง 10 รายจากเหตุเพลิงไหม้ในอาคารแห่งหนึ่งที่เมืองอุรุมชี ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล และทำให้มีการเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง นอกเหนือจากนครอุรุมชีแล้ว ยังมีอีกหลายเมืองที่ประกาศผ่อนปรนมาตรการสกัดการแพร่ระบาด โดยในเมืองใหญ่อื่น ๆ เช่น นครเซี่ยงไฮ้และเมืองฉงชิ่งก็ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดเช่นเดียวกัน หลังนางซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีจีน ออกมาระบุว่า ความสามารถของโควิด-19 ในการก่อให้เกิดโรคนั้นลดน้อยลงแล้ว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลจีนอาจปรับเปลี่ยนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด “จีนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ใหม่และความท้าทายใหม่ในการป้องกันและควบคุมโรค หลังความสามารถในการก่อโรคของไวรัสโอมิครอนนั้นลดน้อยลง โดยประชาชนฉีดวัคซีนกันมากขึ้นและประสบการณ์ในการควบคุมไวรัสชนิดดังกล่าวก็เพิ่มขึ้น” นางซุนกล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 65) …
อ่านเพิ่มเติม »
กองทุนบำเหน็จบำนาญสวีเดนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลกว่า 670 ล้านบาท : อินโฟเควสท์สื่อท้องถิ่นสวีเดนรายงานว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญสาธารณะของประเทศ จำนวน 4 แห่ง ได้ลงทุนมากกว่า 200 ล้านโครนาสวีเดน (ราว 672 ล้านบาท) ในคอยน์เบส (Coinbase) บริษัทซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดจำนวนหุ้นที่ซื้อขาย รายงานระบุว่า กลุ่มกองทุนฯ เผยแพร่การลงทุนในเศรษฐกิจสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวผ่านรายงานการดำเนินงานรอบครึ่งปี โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กลุ่มกองทุนฯ ได้ลงทุนในหุ้นของคอยน์เบส ซึ่งราคาหุ้นร่วงลงตามการดิ่งลงของบิตคอยน์ที่สูญเสียมูลค่าประมาณ 70% ในปีนี้ แคลส เฮมเบิร์ก นักเศรษฐศาสตร์คนหนึ่ง แสดงความเห็นว่าเศรษฐกิจสกุลเงินดิจิทัลนั้นไม่แน่นอนและคาดการณ์ไม่ได้ เป็นเพียงการเก็งกำไรและการคาดเดาเท่านั้น คอยน์เบสจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (Nasdaq) ในปี 2564 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
อนุสรณ์ หนุนเก็บภาษีจากกำไรแทนภาษีขายหุ้น ชี้เป็นธรรมต่อนักลงทุนมากกว่า : อินโฟเควสท์นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ออกมาสนับสนุนการเก็บภาษีตลาดทุนและปฏิรูปโครงสร้างภาษี เพื่อแก้ไขปัญหาความเสี่ยงฐานะการคลังของประเทศ บรรเทาปัญหาฐานะทางการคลังที่ต้องมีรายจ่ายทางด้านสวัสดิการสังคมสูงขึ้นจากสังคมชราภาพ และการก่อหนี้เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ และลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ มองว่าการเก็บภาษีจากการขายหุ้น ไม่น่าจะกระทบการลงทุนโดยภาพรวมมากนัก แต่อาจไม่เป็นธรรมต่อนักลงทุนที่ขายหลักทรัพย์แล้วขาดทุน เสนอให้เก็บภาษีกำไร Capital Gain Tax แทนภาษีการขายแทน แม้การเก็บภาษีกำไรจากการลงทุน Capital Gain Tax จะมีความยุ่งยากในการจัดการมากกว่า แต่จะเป็นธรรมกว่า เพราะนักลงทุนที่ลงทุนแล้วขาดทุนจะไม่ต้องเสียภาษี ส่วนผู้ที่ลงทุนแล้วกำไรจากการขาย ก็ต้องเสียภาษีตามอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด “การเก็บ Capital Gain Tax แทน Financial Transaction Tax จากการขาย อาจจะทำให้รายได้ภาษีของกระทรวงการคลังลดลงบ้าง แต่ความเป็นธรรมต่อนักลงทุนสำคัญกว่า และกลไก Capital Gain Tax ยังช่วยสร้างความสมดุลในตลาดการเงินและลดความร้อนแรงหรือฟองสบู่จากเงินทุนไหลเข้าได้ ไม่ต่างจาก Financial Transaction Tax (จากการขาย) กลุ่มนักลงทุนในตลาดหุ้นทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ อยู่ในฐานะทางเศรษฐกิจที่จะเสียภาษีได้ ขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโควิด และต้องการมาตรการคลังช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติม” นายอนุสรณ์ ระบุ นอกจากนี้ …
อ่านเพิ่มเติม »
ห่วง! อุบัติเหตุพุ่งสูงช่วงหยุดยาว เตือนเพิ่มความระมัดระวังเดินทาง : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ห่วงใยประชาชนที่คาดว่าจะมีการเดินทางมากตลอดเดือน ธ.ค. 65 เนื่องจากมีวันหยุดยาวหลายช่วงด้วยกัน ได้แก่ ช่วงวันพ่อแห่งชาติ 3-5 ธ.ค. นี้ วันรัฐธรรมนูญ 10-12 ธ.ค. และในเทศกาลปีใหม่ จึงกำชับให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อำนวยความสะดวกการเดินทางให้ประชาชน ให้คำแนะนำ ตลอดจนกวดขันพฤติกรรมที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การเมาแล้วขับ ในส่วนของประชาชนโดยเฉพาะผู้เดินทางทางถนนนั้นก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยตรวจสภาพรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน คนขับมีสภาพร่างกายที่พร้อม พักผ่อนเพียงพอ ไม่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการขึ้นในระหว่างขับขี่พาหนะ เช่น หัวใจ ลมชัก งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อน และในขณะขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคนขับและผู้ร่วมเดินทาง และหากมีเด็กร่วมเดินทางควรพิจารณาใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seat) ผู้ใช้รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยทั้งคนขับขี่และคนซ้อนท้าย ขับรถด้วยความเร็วที่กำกฎหมายกำหนด เคารพกฎจราจรโดยหากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุให้โทรขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพทันทีที่สายด่วน 1669 ทันที น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับทุกหน่วยงานดูแลความปลอดภัยการเดินทางของประชาชนเนื่องจากปัจจุบันอุบัติเหตุทางถนนยังคงเป็นสาเหตุสำคัญของการบาดเจ็บ เสียชีวิต และทุพพลภาพของประชาชน โดยข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ …
อ่านเพิ่มเติม »
WHO ประเมินประชากรโลก 90% มีภูมิต้านทานโควิด ขณะเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ : อินโฟเควสท์องค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการว่า 90% ของประชากรโลกมีภูมิต้านทานโรคโควิด-19 แล้วในขณะนี้ แต่เตือนว่า อาจจะมีโควิดสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นอีก นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวว่า การเฝ้าระวังที่หละหลวมกำลังเปิดประตูให้กับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ปรากฏขึ้น และเข้าครอบครองโลกแทนไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน “WHO ประมาณการว่า ประชากรโลกอย่างน้อย 90% ในขณะนี้มีภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ในระดับหนึ่ง อันเนื่องมาจากการติดเชื้อหรือการฉีดวัคซีน” นายแพทย์ทีโดรสกล่าว “เราใกล้ที่จะสามารถพูดได้ว่า ภาวะฉุกเฉินของโรคระบาดสิ้นสุดลงแล้ว แต่เราก็ยังไปไม่ถึงจุดนั้น” นายแพทย์ทีโดรสเปิดเผยกับบรรดาผู้สื่อข่าว “ช่องว่างในการเฝ้าระวัง การทดสอบ การจัดลำดับ และการฉีดวัคซีน ยังคงสร้างเงื่อนไขที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเกิดขึ้นของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่น่าวิตก ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียชีวิตอย่างมาก” นายแพทย์ทีโดรสระบุว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นนับเป็นการครบรอบ 1 ปีที่ WHO ประกาศให้ไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่น่าวิตก โดยสายพันธุ์โอมิครอนได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก และสามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์เดลตา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผลวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับวัคซีนโควิดบูสเตอร์ที่ปรับปรุงใหม่นั้นบ่งชี้ว่า วัคซีนตัวใหม่ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์/ไบออนเทค และโมเดอร์นา มีแนวโน้มที่จะให้การปกป้องที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับวัคซีนรุ่นแรก ผลการวิจัยจากประชาชนมากกว่า 360,000 คนบ่งชี้ว่า วัคซีนบูสเตอร์ได้เพิ่มการปกป้องไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในประชาชนซึ่งได้รับวัคซีนรุ่นเดิมมาก่อน 4 โดส นับตั้งแต่เปิดตัววัคซีนบูสเตอร์รุ่นใหม่ในสหรัฐในเดือนก.ย. …
อ่านเพิ่มเติม »