ทิเก็ตดอตคอมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่เพิ่มความสะดวกการทำธุรกรรม รับกระแสท่องเที่ยวบูม Currency TiketMultiCurrency ทิเก็ตมัลติเคอร์เรนซี สกุลเงิน ทิเก็ตดอตคอม อินโฟเควสท์
ทิเก็ตดอตคอม ตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ในอินโดนีเซีย เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ทิเก็ตมัลติเคอร์เรนซี ที่รองรับการทำธุรกรรมหลากหลายสกุลเงิน เพื่อให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถทำธุรกรรมผ่าน 16 สกุลเงินที่แตกต่างกัน เนื่องจากความต้องการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดและการเดินทางไปต่างประเทศกำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เกรี อันดาร์ซา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ tiket.com กล่าวว่า เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ tiket.com ในการเป็นโซลูชันด้านไลฟ์สไตล์และการเดินทางครบวงจรที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เราจึงเปิดตัวฟีเจอร์ทิเก็ตมัลติเคอร์เรนซี ไม่ใช่แค่เพื่อชาวอินโดนีเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ อีกด้วย การเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากกระแสการท่องเที่ยวทั้งขาเข้าและขาออกเติบโตสูงสุดในไตรมาสแรกของปี 2566 และ tiket.
โดยสกุลเงินที่สามารถทำธุรกรรมผ่านฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่ รูเปียห์อินโดนีเซีย , ดอลลาร์ออสเตรเลีย , ดอลลาร์แคนาดา , ฟรังก์สวิส , หยวนจีน , ยูโร , ปอนด์อังกฤษ , ดอลลาร์ฮ่องกง , เยนญี่ปุ่น , ริงกิตมาเลเซีย , ดอลลาร์นิวซีแลนด์ , เปโซฟิลิปปินส์ , ดอลลาร์สิงคโปร์ , บาทไทย , ดอลลาร์สหรัฐ และดองเวียดนาม โดยลูกค้าสามารถใช้บริการทิเก็ตมัลติเคอร์เรนซีจองสินค้าและบริการทั้งหมดบนเว็บไซต์ tiket.
ศริตา ซิงห์ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสไตรป์ กล่าวว่า กระแส “เที่ยวให้หายแค้น” กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก และดิฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นการเดินทางและการท่องเที่ยวฟื้นตัวอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่ปีนัง หรือการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่ภูเก็ต เราภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับ tiket.
ฟีเจอร์ทิเก็ตมัลติเคอร์เรนซีเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง tiket.com กับสไตรป์ เอเชียแปซิฟิก แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินสำหรับภาคธุรกิจ โดยสไตรป์ช่วยให้ลูกค้าในต่างประเทศของ tiket.com สามารถชำระเงินผ่าน 15 สกุลเงินต่างประเทศ ได้แก่ USD, SGD, MYR, THB, PHP, VND, EUR, GBP, AUD, NZD, JPY, CAD, CHF และ HKD ขณะเดียวกัน ความร่วมมือนี้ยังช่วยให้ลูกค้าของ tiket.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
'พิธา' จับมือพรรคร่วมฯ แถลง MOU ตั้งรัฐบาลผลักดัน 23 วาระ 5 แนวทางทำงาน : อินโฟเควสท์นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมกับแกนนำอีก 7 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และ พรรคพลังสังคมใหม่ ตั้งโต๊ะแถลงข้อตกลง MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล 313 เสียง ซึ่งประกอบไปด้วยการผลักดัน 23 วาระสำคัญ และ กำหนด 5 แนวทางการทำงานร่วมกัน “ทุกพรรคเห็นร่วมกันว่า ภารกิจของรัฐบาลที่ทุกพรรคจะร่วมผลักดัน ต้องไม่กระทบต่อรูปแบบของรัฐ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ขององค์พระมหากษัตริย์ ประกอบไปด้วยวาระร่วมดังต่อไปนี้ 1. พื้นฟูประชาธิปไตย จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เร็วที่สุดโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง 2. สมรสเท่าเทียม โดยจะไม่บังคับประชาชนที่เห็นว่าขัดแย้งกับหลักการของศาสนาที่ตนนับถือ 3. ปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม ให้สอดคล้องหลักประชาธิปไตย 4. เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารเป็นระบบสมัครใจ ทั้งนี้ ยังคงไว้ซึ่งการเกณฑ์ทหารยามศึกสงคราม 5. สร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 6. กระจายอำนาจทั้งในแง่ภารกิจและงบประมาณสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างเหมาะสม 7. […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: 'หมอชลน่าน' ลั่น 'เป็นไปไม่ได้' ยุบ พปชร.รวม พท.ตั้งรัฐบาล ยันหนุน 'ก้าวไกล' เท่านั้น : อินโฟเควสท์นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามกรณีที่มีการวิเคราะห์ว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาจจะยุบพรรคแล้วมารวมกับพรรคเพื่อไทยเพื่อให้มีคะแนนเสียงขึ้นเป็นอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ขอปฏิเสธว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยรับรู้ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่พรรคเพื่อไทยจะรวมกับพรรคพลังประชารัฐ “ยืนยันว่าเพื่อไทยไม่เคยรับรู้ และขอปฏิเสธ ไม่เกี่ยวข้อง การรวมกับพรรคพลังประชารัฐ เป็นไปไม่ได้” นพ.ชลน่าน ระบุ พร้อมย้ำว่า พรรคเพื่อไทยยังยึดมั่นในเจตนารมย์ที่ได้ประกาศไว้ในการสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี และพร้อมจะร่วมมือในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นก็ตาม ส่วนกระแสข่าวดีลลับที่ฮ่องกงนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เป็นข่าวลือเช่นกัน และขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย จะสนับสนุนพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ภาวะตลาดตราสารหนี้: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 97,973 ล้านบาท : อินโฟเควสท์สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 97,973 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 27,950 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 6,925 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 8,583 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.2% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน +0.01% ภาพรวมของตลาดในวันนี้ Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าประมาณ 1-4 bps. นักลงทุนต่างชาติขายตราสารระยะสั้นออกมาบางส่วน สำหรับกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET OUTFLOW 8,584 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET SELL 8,583 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 1 ล้านบาท ด้านปัจจัยในประเทศ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ดาฮอนโชว์เทคโนโลยีจักรยานพับได้และจักรยานไฟฟ้าที่งานไชน่าไซเคิล : อินโฟเควสท์ดาฮอน (DAHON) ได้นำเสนอสินค้าและเทคโนโลยีจักรยานพับได้ที่มีความทันสมัยที่งานมหกรรมไชน่า ไซเคิล (China Cycle) ซึ่งจัดที่ศูนย์จัดการแสดงนานาชาติใหม่ เซี่ยงไฮ้ (Shanghai New International Expo Center) ในธีม “ปลอดภัย ชาญฉลาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า” (Safer, Smarter and Greener) โดยมีแบรนด์จักรยานทั้งที่ใช้และไม่ใช้ระบบไฟฟ้าจัดแสดงนวัตกรรมภายในงานนี้กว่า 1,200 ราย ดาฮอนได้จัดแสดงจักรยานไฟฟ้า จักรยานที่ไม่ใช้ระบบไฟฟ้า และจักรยานพับได้สำหรับเด็กรวมกว่า 30 รุ่น เช่นจักรยานไฟฟ้ารุ่นคาร์โก ทีไฟฟ์ (Cargoe T5) จักรยานคาร์บอนไฟเบอร์พับได้รุ่นคลินช์ ซีเท็น (Clinch C10) รุ่นยอดนิยมอย่างอาร์เชอร์ พีเอต (Archer P8) และจักรยานไฟฟ้าสำหรับการเดินทางในเมืองอย่างยูนิโอ อีซิกซ์ทีน (Unio E16) ไฮไลต์ของงานนี้อยู่ที่การแข่งขันจักรยานดาฮอน ซึ่งมีนักแข่งกว่า 200 คนร่วมทดสอบเทคโนโลยีเดลเทค (Deltec) ซึ่งนำมาใช้กับจักรยานรุ่นลอนช์ ดีเอต (Launch D8) โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสกับเทคโนโลยีเดลเทคทั้งในสนามทดสอบกลางแจ้งและภายในบูธของดาฮอน […]
อ่านเพิ่มเติม »
BAY มองกรอบบาทสัปดาห์นี้ 34.00-34.75 ทิศทางอ่อนค่า จากเงินไหลออก : อินโฟเควสท์กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.00-34.75 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.43 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.69-34.52 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือน หลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนบ่งชี้ว่าแรงส่งของการฟื้นตัวแผ่วลง โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หลังข้อมูลเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ สดใสเกินคาด อีกทั้งเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลายรายให้ความเห็นว่าอาจจะเร็วเกินไปสำหรับการยุติวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผู้ร่วมตลาดลดคาดการณ์เรื่องการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่าพรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน จะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ทันเวลา ซึ่งจะสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือน มิ.ย. ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 10,679 ล้านบาท และ 17,741 ล้านบาท กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองภาพรวมในสัปดาห์นี้ว่า ตลาดจะติดตามการเปิดเผยรายงานประชุมเฟดเมื่อวันที่ 2-3 พ.ค.และดัชนีราคาค่าใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน เม.ย.ของสหรัฐฯ รวมถึงความคืบหน้าการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »
วิจัยกสิกรฯ คาด กนง.ขึ้นดอกเบี้ยปิดท้ายวัฎจักรขาขึ้น หลังแรงกดดันทั่วโลกลดลง : อินโฟเควสท์ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 31 พ.ค.นี้ คาดว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในรอบวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 2.00% ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่เผชิญความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่แรงกดดันจากแนวโน้มนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกเริ่มลดลง เนื่องจากธนาคารกลางหลัก เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มส่งสัญญาณหยุดขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้ นอกจากนี้ เงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือนเม.ย.66 ลดลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือนที่ 2.67% สะท้อนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อ่อนแรงลง ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า คาดว่าจะยังคงมีทิศทางชะลอลงตามฐานที่สูงในปีก่อนหน้า ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ที่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 90 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล “เงินเฟ้อของไทยเดือนเม.ย.66 ลดลงมาอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 1-3% เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลให้ กนง. อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็นครั้งสุดท้ายในรอบวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น” บทวิเคราะห์ระบุ อย่างไรก็ดี ในการประชุม กนง.ครั้งก่อน ได้ส่งสัญญาณว่า […]
อ่านเพิ่มเติม »