ทอง ปิดลบ $5.80 จากแรงขายทำกำไร COMEX ราคาทอง ราคาทองคำ อินโฟเควสท์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาด หลังราคาทองพุ่งขึ้นในช่วงแรก ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภค เดือนเม.ย.ของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 2,037.10 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,119.10 ดอลลาร์/ออนซ์กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CP ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 5.0% และชะลอตัวจากระดับ 5.0% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.1% ในเดือนมี.ค. เอดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ OANDA กล่าวว่า ในช่วงแรกนั้น ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 0.7% หลังจากดัชนี CPI เดือนเม.ย.อยู่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่จากนั้นนักลงทุนเริ่มเทขายทำกำไร หลังจากพิจารณาว่าดัชนี CPI สอดคล้องกับการคาดการณ์เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานขึ้น
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางราย ซึ่งรวมถึง โรนา โอคอนเนลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัท StoneX คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นทำนิวไฮอีกครั้ง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย วิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร และปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐจะเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก กลุ่มเฮลท์แคร์-แบงก์หนุนตลาด : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (8 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการในวันจันทร์ (8 พ.ค.) เนื่องในวันหยุดธนาคาร บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจในขณะนี้ไปที่ การเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพุธนี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่ หลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบปัจจุบัน หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้นราว 0.8% ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง 0.7% ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลงมากเกินคาดในเดือนมี.ค. ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการผลิตที่อ่อนแอของอุตสาหกรรมรถยนต์ หุ้นโพสต์เอ็นแอล (PostNL) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการไปรษณีย์ของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 10.2% หลังยืนยันคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการปี 2566 หลังเปิดเผยปริมาณพัสดุที่ลดลงน้อยกว่าคาดในไตรมาสแรก หุ้นอัลมิรอล (Almirall) ซึ่งเป็นบริษัทเภสัชภัณฑ์ของสเปนปรับตัวขึ้น 0.2% หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เฟดเผยภาคธนาคารสหรัฐแกร่ง มั่นใจรับมือความปั่นป่วนได้หลัง SVB-SB ล้ม : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานด้านเสถียรภาพการเงินรอบครึ่งปีในวันจันทร์ (8 พ.ค.) โดยระบุว่า ในภาพรวมนั้น ภาคธนาคารของสหรัฐยังคงอยู่ในสถานะที่ดี และสามารถต้านทานภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ได้ รายงานของเฟดระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐมีความเสี่ยงด้านการระดมเงินทุนอยู่ในระดับต่ำและมีสภาพคล่องที่เพียงพอ นอกจากนี้ การที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐดำเนินการเพิ่มเติมหลังจากการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) นั้น จะยังเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงระบบการเงิน หากมีภาวะตึงเครียดด้านการเงินเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต “เฟดมีความพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาสภาพคล่องที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต และเฟดมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจว่า ระบบธนาคารของสหรัฐยังคงมีบทบาทที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ” เฟดระบุ ทั้งนี้ แม้รายงานของเฟดระบุถึงกระแสความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของธนาคาร SVB และ SB แต่เฟดยังคงแสดงความเชื่อมั่นว่า การล่มสลายของธนาคารระดับภูมิภาคทั้ง 2 แห่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารเป็นวงกว้าง โดยระบุว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับธนาคารทั้ง 2 แห่งถือเป็น “เหตุการณ์เฉพาะ” เมื่อพิจารณาจากการที่ธนาคารเหล่านี้พึ่งพาเงินฝากจำนวนมากที่ไม่มีการรับประกัน รายงานของเฟดยังระบุด้วยว่า แม้จำนวนเงินฝากที่ไม่มีการรับประกันของธนาคารต่าง ๆ เริ่มปรับตัวลง แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยสูงสุดในช่วงที่ประชาชนแห่ฝากเงินจำนวนมากเมื่อครั้งที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ภาพรวมของสถานะเงินทุนในภาคธนาคารยังคงแข็งแกร่ง นอกเหนือจากภาคธนาคารแล้ว เฟดระบุว่าแรงกดดันในภาคส่วนอื่น ๆ ในตลาดยังคงอยู่ในระดับที่ปกติ โดยมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ก็มีแนวโน้มว่ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์อาจจะปรับฐานลงอย่างรุนแรงหากแนวโน้มการทำงานจากทางไกลยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันเฟดพบว่าธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ประมาณ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดไร้ทิศทาง นักลงทุนจับตาข้อมูลการค้าจีน : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียเปิดไร้ทิศทางในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรอคอยข้อมูลการค้าเดือนเม.ย.ของจีนในวันนี้ และการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,020.63 จุด เพิ่มขึ้น 70.75 จุด หรือ +0.24% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,252.13 จุด ลดลง 44.90 จุด หรือ -0.22%และ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,402.39 จุด เพิ่มขึ้น 7.39 จุด หรือ +0.22% ผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า จีนจะรายงานยอดเกินดุลการค้า 7.43 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่ายอดเกินดุลการค้า 8.82 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพุธและพฤหัสบดีตามลำดับ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (headline […]
อ่านเพิ่มเติม »
ADVANC กำไรสุทธิ Q1/66 โต 7.1% เน็ตบ้านรายได้พุ่ง ลุยขยายโครงข่าย 5G : อินโฟเควสท์บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ AIS เผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2566 ยังคงความแข็งแกร่งด้านผลประกอบการโดยมีรายได้รวม อยู่ที่ 46,712 ล้านบาท เติบโต 3.2% รวมถึงสามารถทำกำไรสุทธิที่ 6,757 ล้านบาท เติบโตขึ้น 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยยังคงวางงบลงทุนกว่า 27,000-30,000 ล้านบาท ในการพัฒนาคุณภาพบริการและโครงข่ายสื่อสารอัจฉริยะ 5G เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้าและคนไทย นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC กล่าวว่า จากความมุ่งมั่นตั้งใจของ AIS ในการมุ่งพัฒนา Digital Infrastructure ผ่านการยกระดับศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะให้มีความพร้อมต่อการทำงานเพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานให้กับลูกค้าและคนไทย ประกอบกับปัญหาเงินเฟ้อก็เริ่มคลี่คลาย เราเริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาของกำลังซื้อของผู้บริโภค และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจภาพรวม โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศถึง 6.5 ล้านคน ในขณะที่ผู้คนในประเทศก็เริ่มออกมาเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ “ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ AIS สามารถทำผลงานออกมาได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ สะท้อนถึงเป้าหมายการทำงานที่ไม่เพียงมอบประสบการณ์ดิจิทัลให้กับคนไทย แต่ยังสร้างโอกาสการเติบโตในรูปแบบใหม่ๆ ให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจแบบร่วมกัน หรือ […]
อ่านเพิ่มเติม »
เงินบาทเปิด 33.75 แข็งค่าสวนทางภูมิภาค รับเม็ดเงินไหลเข้าหนุน เกาะติดเงินเฟ้อสหรัฐ : อินโฟเควสท์นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.75 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.84 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้เงินบาทยังคงแข็งค่าต่อจากเมื่อวาน และในช่วงเปิดตลาดเป็นระดับการแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือน อย่างไรก็ดีเงินบาทแข็งค่าสวนทางสกุลเงินอื่นในภูมิภาค โดยเช้านี้มี flow จากต่างชาติเข้าซื้อพันธบัตรของไทย ซึ่งวันนี้ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม ขณะเดียวกัน ตลาดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของสหรัฐ รวมทั้งยังจับตาปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.70 – 34.00 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT FIX 3M (8 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.79856% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.86625% *ปัจจัยสำคัญ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์รอลุ้นเงินเฟ้อ-ขยายเพดานหนี้สหรัฐ : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์หลังขึ้นไปมากเมื่อวานและยังไร้ปัจจัยใหม่ หลังตลาดรับปัจจัยบวกไปแล้วและรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ รวมถึงการหารือขยายเพดานหนี้สหรัฐคืนนี้ ส่วนปัจจัยในประเทศ บริษัทจดทะเบียนทยอยรายงานงาฯไตรมาส 1/66 พร้อมให้แนวต้าน 1,570 จุด แนวรับ 1,550 จุด นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นมามาก โดยที่ยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน หลังจากตลาดตอบรับปัจจัยบวกไปแล้ว ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเปิดเช้านี้มาบวกและลบสลับกัน ขณะเดียวกันนักลงทุนยังรอติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและการหารือขยายเพดานหนี้ของสหรัฐในคืนวันนี้ ส่วนปัจจัยในประเทศยังมีการทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของบริษัทจดทะเบียน ส่วนใหญ่ที่เปิดออกมาแล้วอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้มีแรงหนุนเข้ามาในหุ้นบางตัวที่มีผลประกอบการดี โดยให้แนวต้าน 1,570 จุด แนวรับ 1,550 จุด *ประเด็นพิจารณาการลงทุน *หุ้นเด่นวันนี้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »