ทองคำนิวยอร์ก ปิดดิ่งลง $54.2 เหตุดอลล์แข็ง-บอนด์ยีลด์พุ่งทุบราคา ราคาทองคำ COMEX อินโฟเควสท์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดิ่งลงในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 517,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 187,000 ตำแหน่ง
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ฟิทช์ คงอันดับเครดิต SCC แนวโน้มเครดิตยังคงเป็นลบ : อินโฟเควสท์บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาว และอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิ รวมถึงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ระยะกลาง (Medium-Term Note Program) มูลค่ารวมไม่เกินสามแสนล้านบาทของ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ที่ ‘A+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตยังคงเป็นลบ ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term Rating) ที่ ‘F1(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบของ SCC สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่จากอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทฯ ที่อยู่ในระดับสูงในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (หลังรวมเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมและหักเงินปันผลจ่ายแก่ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) หรือ EBITDA net leverage ของ SCC ในปี 2566 จะยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่า 3.5 เท่า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันของบริษัทฯ เนื่องจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจากธุรกิจเคมิคอลส์ที่ยังคงอ่อนแออย่างต่อเนื่อง ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินดังกล่าว จะลดลงไปอยู่ระดับประมาณ 3.5 เท่า […]
อ่านเพิ่มเติม »
ก.ล.ต.เคาะเกณฑ์คุณสมบัติบริษัทขอเสนอขาย IPO ต้องไม่เกี่ยวข้องธุรกิจผิดกม. : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน (IPO) เกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของบริษัทให้ชัดเจนเรื่องการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้หลักเกณฑ์เป็นไปตามเจตนารมณ์ และบริษัทสามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนในการประชุมครั้งที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 มีมติเห็นชอบในหลักการให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ IPO ในส่วนที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของบริษัทในเรื่องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่โดยบริษัทมหาชนจำกัดเพื่อการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ โดย ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวจากผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2565 แล้วนั้น ก.ล.ต. จึงออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้เสนอขายหุ้น IPO ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดคุณสมบัติของบริษัทในเรื่องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ (1) ปรับปรุงถ้อยคำเกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่ขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ในเรื่องการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ชัดเจน โดยไม่รวมถึงความผิดในเรื่องที่ไม่มีนัยสำคัญ หรือความผิดที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจหลักของบริษัท ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจของบริษัทผู้ขออนุญาตต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง เช่น การค้ามนุษย์ การผลิตหรือจำหน่ายยาเสพติด หรือการฟอกเงิน เป็นต้น และต้องไม่มีการดำเนินงานที่เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งอาจเป็นเหตุให้ธุรกิจของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงและมีนัยสำคัญ (2) ให้อำนาจ ก.ล.ต. ในการกำหนดแนวทาง (guideline) ในรายละเอียดเกี่ยวกับการพิจารณากรณีที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง หรือมีผลกระทบอย่างร้ายแรงและมีนัยสำคัญได้ นอกจากนี้ การปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าว จะบังคับใช้กับทั้งบริษัทไทยและบริษัทต่างประเทศที่เสนอขายแบบ primary listing* […]
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวก นักลงทุนประเมินผลการประชุมเฟด : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ โดยปรับตัวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดการณ์และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่าเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าเป็นการส่งสัญญาณผ่อนคันเร่งในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,391.85 จุด เพิ่มขึ้น 44.97 จุด หรือ +0.16% ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 22,162.46 จุด เพิ่มขึ้น 90.28 จุด หรือ +0.41% และ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,294.51 จุด เพิ่มขึ้น 9.59 จุด หรือ +0.29% คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2550 การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 8 ติดต่อกันนับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ขณะที่ ธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ยูเครนคาดเก็บเกี่ยวธัญพืชได้สูงถึง 49.5 ล้านตันในปีนี้ : อินโฟเควสท์สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานโดยอ้างการคาดการณ์ของกระทรวงเศรษฐกิจยูเครนว่า ยูเครนมีแนวโน้มที่จะเก็บเกี่ยวธัญพืชได้จำนวนมากถึง 49.5 ล้านตันในปีนี้ นายเดนิส คูดิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของยูเครนระบุในการคาดการณ์ว่า หากการเก็บเกี่ยวเป็นไปตามการคาดการณ์ ก็จะช่วยให้ยูเครนสามารถรับมือกับความต้องการธัญพืชในประเทศได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับกล่าวว่า ในขณะนี้ทางกระทรวงฯยังไม่เห็นความจำเป็นต้องจำกัดการส่งออกสินค้าเกษตร ในปี 2565 จนถึงวันที่ 27 ม.ค. 25666 เกษตรกรยูเครนสามารถเก็บเกี่ยวธัญพืชและพืชตระกูลถั่วได้จำนวนมากถึง 52.6 ล้านตัน จากพื้นที่ที่มีการเก็บเกี่ยวแล้ว 96% รายงานระบุว่า ยูเครนเป็นผู้ผลิตข้าวสาลี ข้าวโพด และน้ำมันทานตะวันรายใหญ่ของโลกมานานหลายปี โดยในปี 2564 การเก็บเกี่ยวธัญพืชและพืชตระกูลถั่วของประเทศทำสถิติสูงสุดที่ 84 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 28.5% เมื่อเทียบปีต่อปี สำหรับปีการตลาดปัจจุบัน ระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 2565 จนถึงวันที่ 30 ม.ค. 2566 ยูเครนส่งออกธัญพืชประมาณ 26.3 ล้านตัน ซึ่งลดลง 30.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีการตลาดก่อนหน้า โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.พ. 66) […]
อ่านเพิ่มเติม »
ฟิลิปปินส์อนุมัติสหรัฐเข้าถึงฐานทัพอีก 4 แห่ง หวังรับมือภัยคุกคามจากจีน : อินโฟเควสท์ฟิลิปปินส์ได้อนุมัติให้สหรัฐขยายการเข้าถึงฐานทัพของฟิลิปปินส์ได้มากขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มท่าทีคุกคามของจีนในทะเลจีนใต้และความตึงเครียดบริเวณไต้หวัน แถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐและฟิลิปปินส์ระบุว่า สหรัฐจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงสถานที่อีก 4 แห่งภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมเพิ่มเติม (EDCA) ที่มีขึ้นในปี 2557 แถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐได้จัดสรรงบประมาณ 82 ล้านดอลลาร์ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในสถานที่ 5 แห่งภายใต้ EDCA ทั้งนี้ EDCA จะยินยอมให้สหรัฐเข้าถึงฐานทัพฟิลิปปินส์สำหรับการฝึกซ้อมร่วม การจัดเตรียมยุทโธปกรณ์ล่วงหน้า และการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น รันเวย์ คลังเชื้อเพลิง และบ้านพักทหาร แต่ไม่ใช่การสร้างขึ้นอย่างถาวร สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐอยู่ในกรุงมะนิลาเพื่อหารือเรื่องดังกล่าว ขณะที่สหรัฐต้องการขยายตัวเลือกด้านความมั่นคงในฟิลิปปินส์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะสกัดการรุกคืบของจีนต่อไต้หวัน อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ไม่ได้ระบุว่าสถานที่ทั้ง 4 แห่งอยู่ที่ใด โดยก่อนหน้านี้ อดีตผู้บัญชาการทหารฟิลิปปินส์ได้ระบุว่า สหรัฐได้ร้องขอการเข้าถึงฐานทัพทางตอนเหนือของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นส่วนที่ฟิลิปปินส์อยู่ใกล้ไต้หวันที่สุด และบนเกาะปาลาวัน ซึ่งเผชิญข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะสแปรตลีในทะเลจีนใต้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »