ทลายเหมือง! เร่งขยายผลแก๊งลอบใช้ไฟขุดบิทคอยน์ หวั่น จนท.เอี่ยว : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

ทลายเหมือง! เร่งขยายผลแก๊งลอบใช้ไฟขุดบิทคอยน์ หวั่น จนท.เอี่ยว : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 66 sec. here
  • 3 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 30%
  • Publisher: 68%

ทลายเหมือง! เร่งขยายผลแก๊งลอบใช้ไฟขุดบิทคอยน์ หวั่น จนท.เอี่ยว bitcoin DSI บิทคอยน์ เหมืองขุดบิตคอยน์ อินโฟเควสท์

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แถลงข่าวกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เปิดปฏิบัติการปราบโกงสายฟ้าฟาด ปราบปรามจับกุมกลุ่มผู้ที่ทำการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า เพื่อนำมาใช้ในการขุดเหรียญดิจิทัลโดยเฉพาะบิทคอยน์ ในพื้นที่ จ.

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า กลุ่มผู้กระทำผิดได้ลักลอบติดตั้งเครื่องขุดเงินดิจิทัลแห่งละประมาณ 100 เครื่อง โดยทำมาแล้วประมาณ 2 ปี ส่งผลให้รัฐสูญรายได้ค่าไฟฟ้าเดือนละ 20-30 ล้านบาท รวม 2 ปีกว่า 500 ล้านบาท และจากการตรวจสอบพบว่าที่ผ่านมามีการลักลอบใช้ไฟฟ้าในอาคารพาณิชย์ปริมาณสูงมาก ส่งผลให้มีอุณหภูมิสูงตามไปด้วย ซึ่งการใช้ไฟฟ้าลักษณะนี้ ทำให้มีอาคารพาณิชย์ถูกไฟไหม้ไปแล้วประมาณ 3 แห่ง จึงถือว่าอันตรายมาก

จากการสอบปากคำผู้ต้องหา พบว่า มีการลักลอบขุดบิทคอยน์มากว่า 2 ปี มีลูกน้องอีกประมาณ 20 คน เป็นกลุ่มคนไทยทั้งหมด โดยอุปกรณ์และข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบได้มีเพียง 1%เท่านั้น ดังนั้นหากคำนวนแล้วถ้ามีการกระทำผิด 100% รัฐจะเสียหายค่าไฟฟ้ากว่า 5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ พบว่าผู้กระทำความผิดมีรายได้จากการขุดเงินดิจิทัล 35 บาทต่อเครื่องต่อวัน ทั้งหมด 3,500 เครื่อง ทำให้มีรายได้ถึง 4.2 ล้านบาทต่อเดือน รวม 2 ปีมีรายได้กว่า 100 ล้านบาทโดยไม่เสียค่าไฟฟ้า แต่รัฐกลับสูญเสียรายได้หลายร้อยล้านบาท

“จากปฏิบัติการที่เกิดขึ้น ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การลักลอบใช้ไฟฟ้าในช่วง 2 ปีนี้ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงทราบเรื่อง หรือสงสัยหรือไม่ และเป็นไปได้หรือไม่ที่เรื่องดังกล่าวอาจจะเกี่ยวข้องกับการขึ้นค่าไฟฟ้าของประชาชน จนส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน และประเทศเสียหาย จึงขอฝากไปยังการไฟฟ้านครหลวง และผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบโดยเร็วที่สุด เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ และขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา...

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ญาติโวย น้องขโมยกัญชาถูกซ้อมช้ำในตาย ตร.ไม่รับแจ้งความ (มีคลิป)ญาติโวย น้องขโมยกัญชาถูกซ้อมช้ำในตาย ตร.ไม่รับแจ้งความ (มีคลิป)ญาติ โวยน้องชายขโมยกัญชาเพื่อนบ้านโดนซ้อมช้ำในตาย แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ด้านเจ้าของต้นกัญชา โต้ แค่ผลักอกล้มใส่หินลับมีด ระบุคนร้ายบุกเข้าบ้านยามวิกาล ขโมยต้นกัญชา 4 ครั้ง ขอความเห็นใจ เตือนแล้วยังทำ หวั่น ลูกเมียไม่ปลอดภัย
อ่านเพิ่มเติม »

รัฐบาลจีนหันโฟกัสกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัวปีหน้า หลังสถานการณ์โควิดซาลง : อินโฟเควสท์รัฐบาลจีนหันโฟกัสกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัวปีหน้า หลังสถานการณ์โควิดซาลง : อินโฟเควสท์กรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนประกาศว่า จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจในปี 2566 พร้อมให้สัญญาว่าจะยังคงดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุกและกำหนดนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ รัฐบาลจีนจะผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวมด้วยการมุ่งเน้นไปที่การขยายตัวอย่างมีคุณภาพ และรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างเหมาะสม รวมทั้งจะเพิ่มความเชื่อมั่นของตลาดอย่างมีนัยสำคัญด้วย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงสำนักข่าวซินหัวว่า รายงานแถลงการณ์การประชุมของคณะกรมการเมืองระบุว่า สิ่งที่ควรทำคือการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและให้ความสำคัญกับเสถียรภาพควบคู่กันไปด้วย, การดำเนินนโยบายทางการคลังเชิงรุกและการดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบ, กระชับความร่วมมือในด้านนโยบายที่หลากหลาย รวมไปถึงการเพิ่มศักยภาพในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อผนึกกำลังในการส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง บรรดานักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า แถลงการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของคณะกรมการเมืองที่ส่งเสริมการเติบโตอย่างชัดเจน ซึ่งในขณะนี้ จีนได้ผ่อนปรนการควบคุมโรคโควิด-19 ลงอย่างต่อเนื่อง และหันไปให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นายเรย์มอนด์ เหยียง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป (ANZ) กล่าวว่า โดยรวมแล้ว แถลงการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผู้นำระดับสูงของจีนต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้า และรัฐบาลจีนต้องการตั้งเป้าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ไม่น้อยไปกว่า 5% หรือ 5.5% โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

ตลาดบอนด์เอเชียส่อเค้าคัมแบ็ก หลังกองทุนทั่วโลกแห่ซื้อพันธบัตรอินโดฯ : อินโฟเควสท์ตลาดบอนด์เอเชียส่อเค้าคัมแบ็ก หลังกองทุนทั่วโลกแห่ซื้อพันธบัตรอินโดฯ : อินโฟเควสท์กองทุนทั่วโลกเริ่มเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอินโดนีเซียมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจส่งสัญญาณว่า บรรดานักลงทุนกลับมาให้ความสนใจอีกครั้งกับตราสารหนี้ของตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ข้อมูลของรัฐบาลอินโดนีเซียระบุว่า เมื่อวันจันทร์ (5 ธ.ค.) มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดพันธบัตรสกุลเงินรูเปียห์สูงถึง 467 ล้านดอลลาร์ โดยทำสถิติเม็ดเงินไหลเข้าตลาดวันเดียวสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2564 ส่วนตลอดทั้งเดือนพ.ย.นั้น มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดพันธบัตรทั้งสิ้น 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี ทั้งนี้ พันธบัตรของอินโดนีเซียถือเป็นมาตรวัดความต้องการเสี่ยง และความต้องการนั้นสะท้อนให้เห็นแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่ดีขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การที่จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในภูมิภาคเอเชียที่ลดลง จะช่วยให้หลักทรัพย์ในประเทศกำลังพัฒนาของเอเชียปรับตัวโดดเด่นมากยิ่งขึ้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กลุ่มผู้จัดการกองทุนได้ถอนเงินลงทุน 1.02 หมื่นล้านดอลลาร์จากพันธบัตรอินโดนีเซียในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตลาดพันธบัตรทั่วโลกได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมาจากการที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสกุลเงินรูเปียห์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบ นักลงทุนวิตกเศรษฐกิจถดถอย : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบ นักลงทุนวิตกเศรษฐกิจถดถอย : อินโฟเควสท์หุ้นยุโรปเปิดตลาดลบในวันนี้ โดยปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย แม้หุ้นกลุ่มการดูแลสุขภาพช่วยลดช่วงลบ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 438.03 จุด ลดลง 0.89 จุด หรือ -0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 14,304.95 จุด ลดลง 38.24 จุด หรือ -0.27% และ ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 6,687.34 จุด ลดลง 0.45 จุด หรือ -0.01% ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงกว่า 1% ในวันอังคาร (6 ธ.ค.) หลังบรรดาผู้บริหารของธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐได้ออกมาเตือนว่า เศรษฐกิจอาจจะเผชิญภาวะถดถอยในปีหน้า เนื่องจากวิกฤตเงินเฟ้อได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของผู้บริโภค หุ้นกลุ่มเหมืองนำตลาดปรับตัวลดลง 1.4% ตามด้วยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับลดลงประมาณ 1% อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มการดูแลสุขภาพพุ่งขึ้น 1.4% ซึ่งช่วยลดช่วงลบให้กับตลาดหุ้นยุโรป โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-26 06:53:17