ถอดหน้ากากคนดี! ฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอกแล้ว รอเคาะวัน การเมือง ซักฟอกรัฐบาล พรรคการเมือง พรรคร่วมฝ่ายค้าน อินโฟเควสท์
พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์, นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152
ดังนั้น การเปิดอภิปรายทั่วไปในครั้งนี้ จะเป็นการเจาะลึกทุกประเด็น และมีเนื้อหาสาระไม่แตกต่างกับอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 เพียงแต่รอบนี้ไม่มีการลงมติ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ฝ่ายค้าน จ่อยื่นม.152 เปิดอภิปราย กระชากหน้ากาก รัฐบาลคนดีฝ่ายค้าน จ่อยื่นม.152 เปิดอภิปราย กระชากหน้ากาก รัฐบาลคนดี via MatichonOnline
อ่านเพิ่มเติม »
ขนลุกซู่!ฝ่ายค้านผุดยุทธการ‘ถอดหน้ากากคนดี’ด่ารัฐบาลกลางสภา เปิดแผลล้มเหลวขนลุกซู่! ‘ฝ่ายค้าน’ ผุดยุทธการ ‘ถอดหน้ากากคนดี’ ด่ารัฐบาลกลางสภาฯตามม.152 เปิดแผลรวมความล้มเหลวจากนโยบาย 12 ข้อ เย้ยอย่ากลัว ถือโอกาสแจงผลงานรอบ 4 ปี
อ่านเพิ่มเติม »
ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป ม.152 'ปธ.ชวน'เตรียมหารือวิป 2 ฝ่ายเคาะวัน'ฝ่ายค้าน'ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป ตามม.152 ด้าน'ชวน'เตรียมหารือวิป 2 ฝ่าย เคาะวัน คาดช่วงกลางเดือนมกราคม 66 ด้านฝ่ายค้าน เปิดยุทธการ'ถอดหน้ากากคนดี' ยันไม่เว้น'บิ๊กป้อม'แน่นอน
อ่านเพิ่มเติม »
รอยเตอร์ชี้ เงินเฟ้อ-ศก.ถดถอย-ผลประกอบการ เป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาหุ้นสหรัฐปี 66 : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นสหรัฐทรุดตัวลงอย่างหนักในปีนี้ โดยหลัก ๆ แล้วถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ดัชนี S&P500 ลดลงแล้วเกือบ 20% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 ขณะที่ ดัชนี Nasdaq Composite ทรุดตัวลงรุนแรงยิ่งกว่า โดยร่วงลงไปเกือบ 34% ในปีนี้ หุ้นบริษัทใหญ่ดิ่งลงไปตาม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นแอมะซอนดอตคอม ซึ่งปรับตัวลงประมาณ 50% ในปีนี้ หรือเทสลา อิงค์ที่ลดลงประมาณ 70% ส่วนเมตา แพลตฟอร์ม อิงค์ทรุดตัวลงประมาณ 65% แต่หุ้นกลุ่มพลังงานสวนกระแสตลาดด้วยการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปัจจัยหลัก ๆ ที่จะมาขับเคลื่อนตลาดหุ้นสหรัฐในปี 2566 นั้นได้แก่เงินเฟ้อ เศรษฐกิจถดถอย และผลประกอบการบริษัท เงินเฟ้อและความเข้มงวดในการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ มีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดหุ้นสหรัฐในปี 2566 ขณะเดียวกัน นักลงทุนจะจับตาผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นด้วย เช่นว่านโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นนั้นจะสร้างแรงกระเพื่อมต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างไรและจะทำให้สินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ น่าดึงดูดใจมากกว่าหุ้นหรือไม่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ฮ่องกงจ่อยกเลิกตรวจเชื้อโควิดผู้เดินทางเข้าประเทศ-วัคซีนพาส : อินโฟเควสท์สถานีโทรทัศน์ทีวีบีของฮ่องกงรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในวันนี้ (28 ธ.ค.) ว่า ผู้เดินทางจากต่างประเทศเข้าสู่ฮ่องกงไม่จำเป็นต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PCR อีกต่อไป พร้อมระบุเสริมว่าข้อกำหนดในการแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน (vaccine pass) สำหรับการเข้าสถานที่ส่วนใหญ่ ก็จะถูกยกเลิกด้วยเช่นกัน รายงานระบุว่า นายจอห์น ลี ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษของฮ่องกงมีกำหนดจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในเวลา 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือราว 14.30 น.ตามเวลาไทยเพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติม การประกาศดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายลีเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (24 ธ.ค.) ว่า ฮ่องกงจะเปิดพรมแดนที่ติดกับจีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้งภายในกลางเดือนม.ค. ฮ่องกงได้ดำเนินการตามแผนการของจีนในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหันนั้น จีนได้เริ่มปรับเปลี่ยนมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวดที่สุดสำหรับการล็อกดาวน์และการตรวจหาเชื้อเป็นวงกว้าง โดยทางการจีนระบุว่า จีนจะยกเลิกการกักตัวผู้เดินทางขาเข้าตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. เป็นต้นไป สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อจำกัดการเดินทางระหว่างฮ่องกงและจีนเริ่มบังคับใช้เมื่อต้นปี 2563 และการกลับมาเปิดพรมแดนถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดขึ้นอีกทั้งในฮ่องกงและจีน จึงส่งผลให้จีนและฮ่องกงผ่อนปรนกฎเกณฑ์ควบคุมโควิดได้อย่างล่าช้า ทั้งนี้ ผู้เดินทางขาเข้าจากต่างประเทศที่เดินทางมาถึงฮ่องกงตั้งแต่กลางเดือนนี้จะไม่ถูกควบคุมการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 หรือถูกห้ามไม่ให้เข้าสถานที่บางแห่งอีกต่อไป โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter […]
อ่านเพิ่มเติม »
BRI จับมือ เอสคอน เจแปน ร่วมทุนพัฒนา 'บริทาเนีย บางนา กม.39' กว่า 1,250 ลบ.เจาะดีมานด์ EEC : อินโฟเควสท์นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานอำนวยการ บมจ.บริทาเนีย (BRI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์เพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรตามแผนยุทธศาสตร์ Growth Together ร่วมเติบโตต่อเนื่องไปด้วยกันทุกภาคส่วน โดยประกาศร่วมทุน เอสคอน เจแปน (ประเทศไทย) ดีเวลอปเปอร์ชั้นนำจากญี่ปุ่น พัฒนาโครงการ “บริทาเนีย บางนา กม.39” มูลค่ากว่า 1,250 ล้านบาท นับเป็นการร่วมทุนพัฒนาโครงการแนวราบในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เจาะดีมานด์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ EEC บนทำเลศักยภาพใกล้นิคมอุตสาหกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวก เตรียมเปิดขายปีหน้า โครงการ “บริทาเนีย บางนา กม.39” เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดจำนวน 232 ยูนิต ระดับราคา 4.75 – 6.00 ล้านบาทต่อยูนิต ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพและเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งที่สำคัญสู่โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ได้รับประโยชน์จากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่เข้ามาทำงานภายในพื้นที่ โดยที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้กับโครงการนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งและอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน นอกจากนี้ย่านบางนายังเป็นรอยต่อเส้นทางเศรษฐกิจสำคัญ รวมทั้งมีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมในภาครัฐอีกด้วย “การร่วมทุนกันในครั้งนี้ เป็นการผนึกกำลังร่วมกับบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่าง เอสคอน เจแปน ที่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยและการสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคปัจจุบัน และขับเคลื่อนกลยุทธ์ขยายธุรกิจตามเป้าหมายเพื่อก้าวเป็น […]
อ่านเพิ่มเติม »