ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 28 ส.ค.66 ปิดที่ 1,562.97 จุด เพิ่มขึ้น 2.77 มีมูลค่าซื้อขาย 49,908.18 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,528.38 ล้านบาท
บล.กสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ “ตลาดกระทิงกลับมา” ระบุว่า คงแนวโน้มเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยด้วยเป้า SET Index สิ้นปี 66 ที่ 1,666 จุด โดยหุ้นไทย เคลื่อนไหวช้ากว่าตลาดหุ้นทั่วโลก อยู่ 18% จาก GDP และกำไรที่อ่อนแอ และความกังวลการเมือง/การประท้วง/นโยบายที่ไม่เอื้อต่อธุรกิจ ซึ่งจะบรรเทาลงในอนาคตอันใกล้นี้
คาดว่า GDP ไทยครึ่งหลังปีนี้จะโตขึ้น 3.5-4% เพิ่มขึ้นจาก 2.2% ในครึ่งปีแรก จากการบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง การท่องเที่ยวฟื้นตัว และการส่งออกโตขึ้น คาดกำไรสุทธิ บจ.ครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้น 13% HoH และ 39% YoY มาอยู่ที่ 4.61 แสนล้านบาท ด้วยแรงขับเคลื่อนจากกลุ่มอาหาร พาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์การเงิน การแพทย์ ICT กระดาษ ปิโตรเคมีอสังหาฯ ขนส่ง และสาธารณูปโภค
การที่ “เศรษฐา ทวีสิน” ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทำให้การเมืองเดินหน้าต่อหลังหยุดชะงักมากว่า 3 เดือน ขณะที่ “ทักษิณ ชินวัตร” กลับไทยส่งสัญญาณสิ้นสุดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มเสื้อเหลืองเสื้อแดงที่มีมายาว นานกว่า 2 ทศวรรษ คาดว่าการเปลี่ยนถ่ายการเมืองจะราบรื่นมากขึ้น รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยพร้อมนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อตลาดจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นคงเป้า SET Index สิ้นปี 66 ตามเดิมที่ 1,666 จุด
คาดจะเห็นกระแสเงินไหลเข้าจากต่างชาติ จากที่ต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิ 1.
นโยบายที่มุ่งกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยส่งผลบวกต่อตลาดและหนุนกระแสเงินไหลเข้า ดังนั้นจะเห็น upside ต่อกำไรสุทธิของตลาดปี 67 เนื่องจากพรรคตั้งเป้า GDP โตขึ้น 5% โดย GDP ที่เพิ่มขึ้น 1% คาดจะเพิ่ม upside ต่อกำไรสุทธิของตลาดปี 67 ที่ 2.4%